Skip to main content
sharethis

 



 


ใช่ว่าเดือนกุมภาพันธ์จะมีแค่เพียง "วันวาเลนไทน์" เท่านั้นที่เป็นวันสำคัญระดับนานาชาติ เพราะในโลกของมุสลิม เดือนกุมภาพันธ์ถือเป็นช่วงเวลาแห่งเทศกาลอาชูรอห์เช่นกัน ในขณะที่ชาวพุทธก็มีวันมาฆบูชาเอาไว้ให้พุทธศาสนิกชนที่ดีได้ระลึกถึงความสำคัญของวันนี้


 


แต่แน่ละวันที่ผู้คนทั่วบ้านทั่วเมืองรอคอยให้มาถึงมากที่สุดในเดือนนี้ไม่ใช่วันสำคัญทางศาสนาและก็ไม่ใช่วันสำคัญในหน้าบันทึกทางประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่มันคือวันที่ 14 ของเดือนที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเพื่อ "ความรัก"


 


ถึงแม้ตามตำราจะกล่าวไว้ว่า ทุกวันที่ 14 กุมภาฯ คือวันที่มีไว้เพื่อรำลึกถึงเซนต์วาเลนไทน์ แต่ด้วยแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของบริษัทผลิตการ์ดอวยพร (และด้วยความยินยอมพร้อมใจของผู้คนจำนวนมาก) วันที่ 14 กุมภาพันธ์ก็กลายเป็น "วันแห่งความรัก" ให้ใครต่อใครได้แสดงความรักต่อกันจนกลายเป็นธรรมเนียมยึดถือปฏิบัติกันไปแล้ว


 


ในขณะที่ผู้คนกว่าค่อนโลกกำลังดื่มด่ำกับความรัก และหัวใจหลายดวงเต้นแรงผิดปกติ ใครต่อใครอีกหลายคนที่อยู่บนโลกใบเดียวกันกับเรา อาจไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกแบบเดียวกันร่วมด้วยก็เป็นได้...


 


Blooming Flowers :


ดอกรักบานในใจใครทั้งโลก แต่ดอกโศกบานอยู่ที่ไหน?


ในเมื่อวันวาเลนไทน์ถูกทำให้กลายเป็นวันแห่งความรักไปเสียแล้ว สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องทำในวันนี้ก็คือการบอกรัก สารภาพรัก หรือไม่ก็แสดงความรักให้โลกได้รู้ สิ่งที่ต้องนำมาใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากชิ้นสำคัญก็ได้แก่ของกำนัลที่จะทำให้วันแห่งความรักมีความหมายมากยิ่งขึ้น


 


และของกำนัลหรือของขวัญยอดนิยม 3 อันดับแรกของคนทั่วโลกก็เห็นจะหนีไม่พ้น ดอกไม้ ช็อกโกแลต และ เครื่องประดับ ซึ่งมักจะขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในช่วงเวลาก่อนที่วันวาเลนไทน์ของแต่ละปีจะเวียนมาถึง


 


ดอกไม้ยอดฮิตที่สุดที่ซื้อหากันในวันนี้ก็คือ (ใช่แล้ว!) ดอกกุลาบแดง แต่ก็ใช่ว่าดอกไม้อื่นๆ จะไม่มีสิทธิ์เสนอหน้ามาแข่งขันกับดอกกุลาบแดง เพราะความหมายดีๆ จากดอกไม้ชนิดอื่นๆ ยังมีไว้ให้คนที่มีความรักทั้งหลายเลือกไปใช้แทนความในใจของตัวเองอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น คาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง ความรักที่จริงจัง ลิลลี่สีขาว คือ ความรักบริสุทธิ์ ดอกทิวลิป คือความรักที่ทำให้หัวใจเบิกบานสดใส และความหมายอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายเท่าที่จะขุดค้นตำราอะไรมาอ้างอิงกันได้


 


แต่จะมีใครสักกี่คนสนใจว่า กว่าดอกไม้นานาพันธุ์จะผลิบานออกดอกให้เรานำไปใช้เป็นสื่อแทนความในใจนั้น เส้นทางของมันต้องเกี่ยวพันกับอะไรบ้าง?


 


ไม่เฉพาะในเมืองไทยที่มีกุหลาบหลากสี ดอกโต ก้านแข็ง ส่งตรงมาจากบางจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ดอกกุหลาบเหล่านี้ถูกเลี้ยงดูประคบประหงมด้วยน้ำมือของแรงงานชาวไทยภูเขา และชาวพม่า ซึ่งได้ค่าตอบแทนต่ำยิ่งกว่าค่าแรงขั้นต่ำเสียอีก ถ้าเจ้าของไร่คนไหนว่าจ้างแรงงานต่างด้าวแบบถูกกฏหมายก็ดีไป แต่คงพอจะเดากันได้ว่า แรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกพาตัวไปขึ้นทะเบียนอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยหรือถูกกระทำทารุณจากนายจ้าง พวกเขาจึงไม่อาจเรียกร้องสิทธิอะไรได้เลย


 


ทางด้านชาวไร่ดอกไม้ในจีนก็ต้องทำงานหนักเพื่อผลิตดอกไม้จำนวนมากป้อนเข้าสู่ตลาดเอเชีย เพื่อความเป็นหนึ่งทางด้านเศรษฐกิจ และคนงานในโคลัมเบียก็ต้องเร่งมือปลูกดอกไม้ให้ทันกับความต้องการของผู้คนกว่าร้อยล้านในทวีปยุโรปและอเมริกาซึ่งเป็น "ลูกค้ารายใหญ่" ที่สั่งซื้อดอกไม้ปริมาณมหาศาลในแต่ละปี โดยช่วงที่หนักหนาสาหัสที่สุดก็คือช่วงเวลาก่อนเดือนกุมภาพันธ์ หรือ "เทศกาลแห่งความรัก" จะมาถึงนั่นเอง


 


เมื่อ 15 ปีก่อน ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวโคลัมเบียชื่อ มาร์ธา รอดริเกซ ได้ร่วมมือกับสามีของเธอ (จอร์เก ซิลวา) สร้างหนังสารคดีเรื่องหนึ่งออกมา โดยใช้ชื่อว่า Love, Women and Flowers เพื่อถ่ายทอดความเป็นอยู่ของแรงงานในไร่ดอกไม้ของโคลัมเบีย เพราะในขณะนั้นดอกไม้ชนิดต่างๆ เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศโคลัมเบีย จนกระทั่งปัจจุบันนี้ โคลัมเบียเป็นตลาดดอกไม้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเอาชนะฮอลแลนด์ไปได้ก็เพราะแรงงานที่อยู่ในไร่ดอกไม้ของโคลัมเบียได้ค่าแรงที่ต่ำกว่าคนงานในไร่ดอกไม้ของฮอลแลนด์มากนัก กลุ่มผู้ลงทุนต่างๆ จึงพากันไปก่อตั้งกิจการของตนในโคลัมเบียกันเป็นแถว คนงานในไร่ดอกไม้ของโคลัมเบียจึงมีงานทำกันมากขึ้น แต่สุขภาพที่เสียไปดูจะไม่คุ้มค่ากับการทำงานอย่างหนักหนาเลยแม้แต่นิดเดียว


 


ในหนังสารคดีของรอดริเกซ แรงงานหญิงจำนวนมากถูกจ้างให้ไปทำงานในไร่ดอกไม้ ด้วยสาเหตุเดิมๆ ว่าผู้หญิงมีความละเอียดอ่อนมากกว่าผู้ชาย (และแน่นอนว่าผู้หญิงย่อมมีปากมีเสียงน้อยกว่าในสังคมโคลัมเบีย)


 


เมื่อตลาดดอกไม้ส่งออกมีอัตราเจริญเติบโตขึ้นมาก แรงงานในส่วนต่างๆ ก็ต้องรับผิดชอบกับภาระที่หนักหนาขึ้นเช่นกัน ผู้หญิงที่ทำงานในไร่ดอกไม้จึงประสบกับปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เพราะสภาพแวดล้อมในการทำงานต่ำกว่ามาตรฐานมาก เนื่องจากสวัสดิการต่างๆ ถูกลดลงเพื่อให้ได้ผลประกอบการสูงสุด


 


อาการเรื้อรังของคนงานในไร่ดอกไม้ส่วนใหญ่ก็ได้แก่ วิงเวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย มือเท้าชา อาเจียน และสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือการเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว ซึ่งอาการทั้งหมดนี้เกิดจากการที่คนงานเหล่านั้นต้องทำงานกับยาฆ่าแมลงและสารเคมีในปุ๋ยจำนวนมากเป็นเวลานานโดยขาดการป้องกันที่ดี รวมไปถึงการขาดสวัสดิการรักษาพยาบาลที่เพียงพอด้วย กว่าคนงานจะรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร ทุกอย่างก็สายจนเกินแก้เสียแล้ว


 


นับตั้งแต่วันที่รอดริเกซทำหนังสารคดี จนได้รับรางวัลสารคดียอดเยี่ยมในงานเทศกาลหนังสากล แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของคนงานในไร่ดอกไม้ของโคลัมเบียก็ยังประสบปัญหาเช่นเดิม เพราะอัตราการเจริญเติบโตของดอกไม้ส่งออกในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นโดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างไร


 


แรงงานที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปแต่ละรุ่นจึงต้องทนทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายเช่นเดิม เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ผลผลิตสูงสุด และเสียค่าใช้จ่ายในการลงทุนน้อยที่สุดด้วย


 


Bitter Sweet Chocolate :


ช็อกโกแลตสูตรหวานอมขมกลืน


นอกเหนือจากแรงงานในไร่ดอกไม้ของโคลัมเบีย จีน และไทย ยังมีคนงานในไร่โกโก้ของกลุ่มประเทศในทวีปแอฟริกาที่ประสบชะตากรรมคล้ายคลึงกัน แรงงานเหล่านั้นต้องทำงานหนักชนิดสายตัวแทบขาดเพื่อให้บริษัทต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในประเทศได้มีผลผลิตจำนวนมากพอ เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการทำช็อกโกแลตออกขายในตลาดทั่วโลก ช็อกโกแลตอร่อยๆ ที่เราลิ้มรสจึงอาจจะไม่ได้มีที่มาจากความหอมหวานอย่างที่คิด


 


ใครๆ ก็รู้ว่า ในวันวาเลนไทน์ ช็อกโกแลตคือของกำนัลซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอันดับสองรองมาจากดอกไม้ชนิดต่างๆ และโกโก้ที่ผลิตจากประเทศไอวอรี่โคสต์เพียงแห่งเดียวก็ถือเป็นร้อยละ 40 ของโกโก้ทั้งหมดที่ผลิตในตลาดโลก ในขณะที่ค่าแรงของคนงานในไอวอรี่โคสต์ก็ต่ำเตี้ยติดอันดับโลกเช่นกัน


 


หากสิ่งที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือการตรวจพบว่า แรงงานส่วนใหญ่ที่ถูกว่าจ้างในไร่โกโก้และโรงงานแปรรูปช็อกโกแลตในไอวอรีโคสต์คือ "แรงงานเด็ก" ซึ่งถูกนายทุนเอาเปรียบในทุกๆ ด้าน และใช่ว่าบรรษัทผู้ผลิตช็อกโกแลตข้ามชาติที่เข้าไปลงทุนในไอวอรีโคสต์จะไม่รู้ความเป็นจริงข้อนี้ หากพวกเขาก็ยังคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดก่อนที่จะคำนึงถึงชีวิตของแรงงานแต่ละคน จึงจำเป็น (หรือเปล่า?) ที่จะต้องหลับหูหลับตาทำไม่รู้ไม่เห็นต่อไป


 


แม้ว่ากลุ่มผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนส่วนใหญ่ได้พยายามเรียกร้องให้บรรษัทต่างๆ หันมาใส่ใจกับปัญหามากกว่าเดิมแล้วก็ตาม หากผู้ผลิตช็อกโกแลตรายใหญ่ของโลก เช่น เอ็มแอนด์เอ็ม เนสท์เล และมาร์ส กลับปฏิเสธที่จะร่วมโครงการแฟร์เทรด (Fair-trade) ที่เน้นเรื่องการประกอบธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ส่งผลให้แรงงานเด็กยังคงอยู่ต่อไปในไร่โกโก้แถบทวีปแอฟริกา และเด็กๆ เหล่านั้นก็ยังคงต้องทนกับสภาพการทำงานที่เลวร้ายเหมือนเช่นเคย


 


Bloody Diamond :  เพชรสีเลือด


อาจเพราะความแข็งแรงทนทานและการที่ใครหลายคนให้ค่าว่าเป็นสุดยอดแห่งอัญมณี "เพชร" จึงกลายเป็นวัตถุอีกชิ้นหนึ่งซึ่งมีความหมายในวันแห่งความรัก ใครหลายคนมักจะให้เครื่องประดับที่ทำจากเพชร เพื่อสื่อถึงความรักที่มั่นคงยั่งยืนและทรงคุณค่า


 


แน่นอนว่าปริมาณของเพชรที่ถูกจำหน่ายออกไปในแต่ละปีอาจไม่เท่าจำนวนดอกไม้หรือช็อกโกแลต แต่มั่นใจได้เลยว่าเม็ดเงินที่ได้จากการค้าเพชรนั้นเป็นกอบเป็นกำกว่ากันมาก  


 


ประเทศที่เป็นแหล่งค้าเพชรอันดับต้นๆ ของโลกมาจากทวีปแอฟริกา ไม่ว่าจะเป็น คองโก กานา หรือว่า ไอวอรีโคสต์ (อีกเช่นเคย) แต่เงินจำนวนมหาศาลที่ได้จากการค้าเพชร จะถูกรัฐบาลของประเทศเหล่านั้นนำไปซื้อหาอาวุธสงคราม เพื่อเอาไปใช้ในการปราบปรามความไม่สงบภายในประเทศ และในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลก็จะใช้การค้าเพชรเป็นแหล่งเงินทุนในการซื้อหาอาวุธเพื่อนำมาต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามตนเองเช่นกัน


 


ในแต่ละปี ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากในทวีปแอฟริกาต้องล้มตายในสงครามล้างเผ่าพันธุ์ สงครามแบ่งแยกดินแดน และสงครามระหว่างศาสนา แต่เม็ดเงินที่หล่อเลี้ยงให้สงครามเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไปได้ ซึ่งครึ่งหนึ่งมาจากการค้าเพชรสีเลือดนั่นเอง


 


True Meaning of "Love Day"


แม้จะดูเหมือนว่า วันวาเลนไทน์จะซ่อนแง่มุมที่ร้ายกาจเอาไว้มากมาย แต่การเฉลิมฉลองเพื่อความรักก็ไม่น่าจะใช่ความผิดอะไร และก็ใช่ว่า การซื้อหาของขวัญมามอบแก่กันจะทำร้ายให้ใครอีกหลายคนต้องเจ็บปวดไปเสียหมด เพราะปัจจุบันมีองค์กรเอกชนและหน่วยงานมากมายที่รณรงค์เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยจัดให้มีภาคีและสัญญาต่างๆ ขึ้น เพื่อให้บรรษัท กลุ่มทุน และผู้ประกอบการเกี่ยวกับสินค้าในวันวาเลนไทน์ (หรือวันสำคัญอื่นๆ) ได้เข้าร่วม จากนั้นก็จะกำหนดข้อตกลงร่วมกันให้สมาชิกทุกฝ่ายปฏิบัติตาม และข้อตกลงส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปในเรื่องของการว่าจ้างงานอย่างโปร่งใส ไม่ใช้แรงงานเด็ก ต้องให้สวัสดิการที่เหมาะสมแก่คนงาน และกิจการที่ดำเนินไปในแต่ละท้องที่จะต้องไม่ทำลายสภาพแวดล้อม สังคม หรือวัฒนธรรมของชุมชนในละแวกนั้น


 


และไม่ว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์จะมีความหมายว่าอย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่า บนโลกใบนี้ยังมีคนอีกมากที่เชื่อมโยงเกี่ยวพันกับเรา การแสดงออกซึ่งความรักของใครสักคนจะมีความหมายอะไร ถ้ามันทำร้ายผู้คนอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว


 


..................................


รายชื่อเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการแฟร์เทรด


http://store.gxonlinestore.org/


http://www.amnestyusa.org/diamonds/index.do


http://www.globalwitness.org


http://www.amnestyusa.org/diamonds/index.do


http://www.maquilasolidarity.org/resources/maquilas/flowerscox.htm

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net