เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2549 ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนประมงขนาดเล็กจังหวัดสงขลา ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา นายอิบรอฮีม หะยีสา ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านขนาดเล็กตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ได้เข้าหารือกับนายนฤทธิ ดวงสุวรรณ กรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เรียกร้องขอค่าชดเชยเครื่องมือประมงประเภทโพงพาง ที่จะถูกรื้อออกจากเขตร่องน้ำบริเวณปากทะเลสาบสงขลา ตามแนวทางการจัดระเบียบเครื่องมือประมงในทะเลสาบสงขลา

โดยกลุ่มประมงพื้นบ้านขนาดเล็กตำบลหัวเขา เรียกร้องขอค่าชดเชยเครื่องมือประมงประเภทโพงพาง ที่จะถูกรื้อออกไปประมาณ 100 ช่อง จากเจ้าของ 100 ราย ช่องละ 500,000 บาท รวมเป็นเงิน 50 ล้านบาท หากรัฐไม่สามารถจ่ายค่าชดเชยจำนวนนี้ได้ ขอให้จ่ายช่องละ 100,000 บาท พร้อมกับจัดสรรที่ดินทำกินให้รายละ 20 - 30 ไร่ โดยเจ้าของโพงพางทั้งหมด พร้อมจะย้ายเข้าไปอาศัยในที่ดินดังกล่าวทันที แต่หากรัฐไม่สามารถตอบสนองตามนี้ ทางกลุ่มจะไม่ยอมให้จัดระเบียบเครื่องมือประมงโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ ทางกลุ่มประมงพื้นบ้านขนาดเล็กตำบลหัวเขา ได้ขอให้นายนฤทธิ นำข้อเรียกร้องดังกล่าว เสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ที่จะมีการประชุม ในเวลา 14.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549 ที่ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล

นายอิบรอฮีม เปิดเผยหลังการหารือว่า ตนในฐานะเป็นคณะทำงานกำหนดแนวร่องน้ำเพื่อจัดระเบียบเครื่องมือประมงในทะเลสาบสงขลา ของคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาอยู่ด้วย ได้เรียกร้องต่อคณะทำงานชุดนี้มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2548 และวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 แต่ที่คณะทำงานฯ เห็นว่า ทางกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีโครงการส่งเสริมอาชีพ ชดเชยการจัดระเบียบเครื่องมือประมงแล้ว เช่น ส่งเสริมการเลี้ยงปลาในกระชัง แต่ทางกลุ่มรับไม่ได้ เนื่องจากเห็นว่ามีเกษตรกรหลายรายที่ประสบความล้มเหลวในการเลี้ยงปลาในกระชังมาแล้ว เนื่องจากลงทุนสูง ขณะที่คุณภาพน้ำในทะเลสาบสงขลาแย่ลง

"เราเห็นด้วยในการจัดระเบียบเครื่องมือประมง เพื่อฟื้นฟูทะเลสาบสงขลา แต่ขอให้มีการชดเชยด้วย เพราะโพงพางทั้งหมดมีการซื้อขายกันมาหลายรุ่นแล้ว และชาวประมงเองก็มีรายได้จากโพงพางถึงเดือนละประมาณ 40,000 - 50,000 บาทต่อ 1 ช่อง หากไม่จ่ายชดเชย ชาวบ้านก็ไม่อาชีพอย่างอื่นทำ" นายอิบรอฮีม กล่าว

นายอิบรอฮีม เปิดเผยว่า กลุ่มประมงพื้นบ้านขนาดเล็กตำบลหัวเขา ได้เรียกร้องให้มีการชดเชยเครื่องมือประมงที่จะถูกรื้อเนื่องจากการจัดระเบียบเครื่องมือประมงในทะเลสาบสงขลามา 2 ปีแล้ว ทั้งในเวทีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเรื่องจากจัดระเบียบเครื่องมือประมง และคณะทำงานกำหนดแนวร่องน้ำ เพื่อจัดระเบียบเครื่องมือประมงในทะเลสาบสงขลา แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง จึงต้องขอให้นายนฤทธิ เสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาอีกครั้ง

นายนฤทธิ กล่าวว่า การจัดระเบียบเครื่องมือประมงบริเวณร่องน้ำปากทะเลสาบสงขลา ซึ่งมีเฉพาะโพงพางเท่านั้น น่าจะต้องมีการหารือและเจรจากันอีกหลายครั้ง เนื่องจากคณะทำงานกำหนดแนวร่องน้ำเพื่อจัดระเบียบเครื่องมือประมงในทะเลสาบสงขลา ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ตนจะนำข้อเรียกร้องของกลุ่มประมงพื้นบ้านขนาดเล็กตำบลหัวเขา เสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาแน่นอน

สำหรับวาระการประชุมคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549 ประกอบด้วย การแจ้งความคืบหน้าเรื่องการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2535 เรื่องโครงการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำเค็มทะเลสาบสงขลา ซึ่งก่อนหน้านี้กรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาภาคประชาชนได้เรียกร้องขอให้ยกเลิก นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาแผนงบประมาณเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ปี 2550 ซึ่งมีโครงการที่หน่วยงานรัฐและภาคประชาชนเสนองบประมาณรวม 1,700 ล้านบาท โดยคณะอนุกรรมการจัดทำแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา พ.ศ. 2550 จะเสนอให้ตั้งงบประมาณผ่านงบประมาณผู้ว่าราชการแบบบูรณาการ (ซีอีโอ) เพื่อความรวดเร็ว พร้อมกับพิจารณาเรื่องแนวทางการกำหนดแนวร่องน้ำเพื่อจัดระเบียบเครื่องมือประมงในทะเลสาบสงขลาตามลำดับ

ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลามีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ