รักษามารยาทรอรัฐบาลใหม่ ชะลอ "เอฟทีเอ" ญี่ปุ่นและสหรัฐ

ประชาไท - 2 มี.ค. 2549   นายพิศาล มาณวพัฒน์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาจัดทำข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ (EPA) ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น หรือ เอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่าจะมีการเลื่อนการลงนามข้อตกลงเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ออกไป เนื่องจากนายกรัฐมนตีได้ประกาศยุบสภาไปแล้ว คาดว่าจะสามารถลงนามได้หลังตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ราวเดือนมิถุนายน หลังจากนั้นญี่ปุ่นจะนำข้อตกลงเข้าสู่กระบวนการรัฐสภาญี่ปุ่น ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 2-3 เดือนจึงจะมีผลบังคับใช้

 

อย่างไรก็ตาม นายพิศาลระบุว่าขณะนี้ทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์อย่างสมดุลกันแล้ว แต่หากรัฐบาลชุดใหม่ในอนาคตเห็นว่ามีความจำเป็นต้องขอทบทวนกันใหม่ก็ยังสามารถทำได้ และทางคณะเจรจาฯ ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมชี้แจงข้อมูล และจะเสนอให้รัฐมนตรีคนต่อไปลงนามเอฟทีเอต่อไป

 

นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)ไทย-สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องระงับการเจรจารอบ 7 ที่จะมีขึ้นที่สหรัฐเร็วๆ นี้ชั่วคราว จนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เกิดขึ้น และมีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องการทำเอฟทีเอเสียก่อน ซึ่งสหรัฐฯ ได้สอบถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองและเข้าใจสถานการณ์แล้ว

 

ทั้งนี้ ตามกำหนดการเดิมนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการมีการตกลงร่วมกันภายในกลางปี 2549 นี้

         

นายทนง พิทยะ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยหลังจากมีการเรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังว่า ช่วงนี้จะไม่มีการพิจารณาเรื่องใด หรือมอบหมายงานเป็นพิเศษ เพราะขณะนี้เป็นรัฐบาลรักษาการ แต่ได้ฝากให้ผู้บริหารระดับสูงทำงานปกติอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมในโครงการลงทุนภาครัฐ หรือเมกะโปรเจกต์ ที่ยังต้องเดินหน้าโครงการต่อไป โดยจะไม่มีการอนุมัติงบประมาณ เพื่อรอรัฐบาลใหม่ตัดสินใจ

         

สำหรับโครงการเมกะโปรเจกต์นั้นได้มีการเลื่อนเวลาในการยื่นแบบหรือ Propersol จากวันที่ 28 เม.ย.ออกไปเป็นวันที่ 29 พ.ค. เนื่องจากเห็นว่าในช่วงดังกล่าวน่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับมาตรการของรัฐบาล เช่นนโยบายด้านภาษี รัฐบาลรักษาการจะไม่มีการอนุมัติใด ๆ ทั้งสิ้น

 

"ตามกฎหมายแล้วรัฐมนตรีมีอำนาจลงนามอนุมัติสัญญาต่างๆ ได้ แต่ในทางปฏิบัติหรือตามมารยาทในการทำงานจะไม่มีการเซ็นสัญญากัน ต้องรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณากันต่อไป ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ว่าเห็นเหมาะสมหรือไม่" นายทนงกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม นายทนง เชื่อว่า ภายใต้สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในภาคเศรษฐกิจของไทยอยู่ แต่ในด้านการลงทุนย่อมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการทำหน้าที่ในฐานะของรัฐบาลรักษาการ จึงต้องให้มีการชะลอการลงทุนในช่วงนี้ออกไปก่อน จนกว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย ซึ่งคาดว่าความวุ่นวายทางการเมืองจะสามารถจบลงได้ในระยะเวลาอันสั้น

 

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงานสัมมนา "การจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ระยะที่ 2" ว่า รัฐบาลได้กำหนดให้มีการทำแผนพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในระยะที่ 2 ตั้งแต่พ.ศ. 2549-2553 ขึ้น เพื่อยกระดับให้ไทยเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย" ที่ยั่งยืน ในปีพ.ศ. 2553 และเตรียมพร้อมรับการเปิดเสรีทางการค้าจากกรอบข้อตกลงต่าง ๆ

 

นายจักรมณฑ์กล่าวว่า แผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ระยะแรก พ.ศ. 2545-2549 เป็นเพียงการกำหนดทิศทางกว้าง ๆ และแผนแม่บทระยะที่ 2 นี้มีวัตถุประสงค์ในการสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีในการลงทุน และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยมีเป้าหมายผลิตรถยนต์ 2 ล้านคัน ในปี 2553 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิม 1.8 ล้านคัน ผลิตรถจักรยานยนต์ 4 ล้านคัน ส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์มูลค่า 4 แสนล้านบาท และมีมูลค่าเพิ่มในประเทศมากกว่าร้อยละ 70

 

นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเครือข่ายวิสาหกิจอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน กล่าวว่า จากสภาวะความไม่แน่นอนและปัญหาทางการเมืองในปัจจุบัน เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น คงจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจมากนัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ และยังคงเป้าหมายการเติบโตของตลาดรถยนต์ไว้ที่ประมาณ 5% เช่นเดิม ประเด็นเดียวที่น่าเป็นห่วง น่าจะเป็นเรื่องอัตราราคาน้ำมันที่ยังเพิ่มสูงขึ้น เพราะจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทยมากกว่า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท