Skip to main content
sharethis


 


ฮึ่ม - เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ ร่วมกันแถลงข่าวสนับสนุนการชุมนุมใหญ่ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 14 มีนาคม 2549 พร้อมกับแสดงความไม่พอใจ นายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และนายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ขวางการจัดชุมนุมขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร



-------------------------------------------------------------------------------------------------


 


ประชาไท - พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ ออกโรงอัดผู้ว่าฯ สตูล - พัทลุงขวางชุมนุมไล่ทักษิณ ขู่ถ้าไม่เลิกพฤติกรรมอิงการเมือง จะขนม็อบ 8 จังหวัดไล่ผู้ว่าฯ ด้วย แฉเตรียมขนเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จากปักษ์ใต้เข้ากรุง ชนม็อบพันธมิตรฯ


 


เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 มีนาคม 2549 ที่สภาอาจารย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ จากจังหวัดสงขลา พัทลุง สตูล นครศรีธรรมราช ตรัง สุราษฎร์ธานี ชุมพร และภูเก็ต ร่วมกันแถลงเรื่องท่าทีต่อการประท้วงใหญ่ ในวันที่ 14 มีนาคม 2549 และการสร้างความแตกแยกของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร


 


นายเลิศชาย ศิริชัย อาจารย์ประจำสำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ แถลงว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกภาคประชาชนขับไล่ ยังพยายามดิ้นรนต่อสู้โดยไม่ใยดีต่อความเสียหายของประเทศ โดยสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน ด้วยการปลุกระดมคนยากจนที่ไม่รู้ข้อมูลข่าวสาร และคนใกล้ชิดนักการเมืองท้องถิ่น ขึ้นมาต่อต้านประชาชนที่เคลื่อนไหวขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ จนเป็นที่หวั่นวิตกว่า จะเป็นสาเหตุของความรุนแรง เพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ


 


นายเลิศชาย แถลงต่อไปว่า นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังให้ข้าราชการในบางพื้นที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ ปิดกั้นการรับฟังข้อมูลข่าวสาร และการรวมกลุ่มเพื่อแสดงออกทางการเมือง เพื่อเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณลาออก เช่น จังหวัดสตูล มีข้าราชการระดับสูงของจังหวัดเรียกชาวบ้านไปว่ากล่าว มีการส่งเจ้าหน้าที่สรรพากรมาตรวจสอบร้านขายกาแฟที่สนับสนุนกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนว่า เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ที่จังหวัดตรังไม่ยอมขายตั๋วรถไฟให้กับผู้โดยสารเป็นคณะ เพื่อกีดกันไม่ให้ประชาชนไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร ที่จังหวัดพัทลุงมีการตัดไฟในที่ชุมนุมชมการถ่ายทอดสดทาง ASTV พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้ามาไล่ห้ามไม่ให้ชุมนุม ส่งตำรวจเข้าไปข่มขู่จะดำเนินคดีกับแกนนำ เป็นต้น


 


นายเลิศชาย แถลงด้วยว่า สำหรับการชุมนุมใหญ่ ระหว่างวันที่ 13 - 14 มีนาคม 2549 เพื่อมิให้ยืดเยื้อ เกิดความแตกแยก และความรุนแรงในหมู่ประชาชนด้วยกัน ทางเครือข่ายฯ จะมีกิจกรรมสนับสนุนการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในส่วนกลาง โดยจะจัดกิจกรรมต่างๆ ในทุกจังหวัดของภาคใต้ พร้อมกับส่งคนเข้าร่วมชุมนุม ที่กรุงเทพมหานคร


 


"เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง พ.ต.ท.ทักษิณต้องยุติการจัดตั้งประชาชนมาเผชิญหน้ากับการชุมนุมของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถ้าเกิดความรุนแรงขึ้น พ.ต.ท.ทักษิณต้องรับผิดชอบ พร้อมกันนี้ทางเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ ขอเรียกร้องประชาชนให้ช่วยกันคว่ำบาตรสินค้าในเครือชินคอร์ปและพวกพ้อง เช่น การคืนซิมการ์ดของเอไอเอส ไม่ใช้บริการสายการบินไทยแอร์เอเชีย ไม่ใช้บริการเงินด่วนบริษัทแคปปิตอลโอเค ไม่ดื่มเบียร์ไฮเนเก้น เบียร์ไทเกอร์ เป็นต้น" นายเลิศชาย กล่าว


 


นายเลิศชาย แถลงอีกว่า ทางเครือข่ายฯ ขอเรียกร้องข้าราชการในพื้นที่ให้วางตัวเป็นกลาง ยอมรับในสิทธิการรับฟังข้อมูลข่าวสารและการแสดงออกทางการเมือง ถ้าภาคประชาชนจังหวัดใด ถูกกดดันไม่ให้จัดชุมนุม เครือข่ายพันธมิตรจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ จะเคลื่อนขบวนไปร่วมกันเรียกร้องขอความเป็นธรรมทันที


 


นายเอกชัย อิสระทะ รองโฆษกเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติ - กู้ประชาธิปไตยสงขลา กล่าวว่า กรณีนายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เรียกแกนนำเครือข่ายฯ ของจังหวัดสตูล ไปว่ากล่าวตักเตือนห้ามไม่ให้จัดการชุมนุม และส่งเจ้าหน้าที่สรรพากรไปนับถ้วยกาแฟ ในร้านที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวไล่นายกรัฐมนตรี เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่


 


นายบรรจง นะแส จากเครือข่ายพันธมิตรกู้ชาติ - กู้ประชาธิปไตยสงขลา แถลงว่า ขณะนี้ที่อุทยานแห่งชาติทะเลบัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล มีการระดมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกว่า 400 คน มาเตรียมตัวขึ้นไปกดดันผู้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 14 มีนาคม 2549 ตนขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ยกเลิกการดำเนินการดังกล่าวเสีย เพราะเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรง และเกิดความขัดแย้งภายในหมู่บ้าน เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ซึ่งเกือบทั้งหมดไม่ต้องการพ.ต.ท.ทักษิณ


 


เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นายเอกชัย ได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดสงขลา เพื่อประสานงานนายอุเทน ตันตรีบูรณ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา เกี่ยวกับการเคลื่อนขบวนไปยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้ลาออก ผ่านนายสมพร ใช้บางยาง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในเวลา 11.00 น. วันที่ 13 มีนาคม 2549 พร้อมกับขอให้ทางจังหวัดสงขลา ช่วยประสานให้ตำรวจช่วยอำนวยความสะดวกให้ด้วย


 


นายอุเทน กล่าวว่า วันที่ 13 มีนาคม 2549 นายสมพรจะต้องเข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ระหว่างเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จึงอาจจะมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดคนใดคนหนึ่ง เป็นผู้ออกมารับจดหมายเปิดผนึกแทน


 


สำหรับกำหนดการเคลื่อนขบวนนั้น เวลา 08.00 น. ร่วมจัดรูปขบวนและติดธงสัญลักษณ์ที่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ จากนั้นเวลา 09.00 น. เคลื่อนขบวนไปตามถนนกาญจนวณิชย์ไปยังจังหวัดสงขลา เวลา 11.00 น. ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาที่หน้าศาลากลางจังหวัด เวลา 12.00 น. รณรงค์รอบเมืองสงขลา แล้วเดินทางกลับมารณรงค์ในตัวเมืองหาดใหญ่ จากนั้น เวลา 16.00 น. จัดชุมนุมที่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net