Skip to main content
sharethis


ภาพจาก www.thairat.co.th


 


ประชาไท - 18 มี.ค.49      วานนี้ (17 มี.ค.) น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลราชธานี กล่าวในวงเสวนาเรื่อง "สื่อชนะ ประชาชนชนะ กรณีศึกษา : สุภิญญา-ไทยโพสต์ ชนะชินคอร์ป" ว่า เราต้องขอบคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทำให้เราได้เห็นถึงความวิปริตที่ซับซ้อน ในการใช้อำนาจทางการเมืองที่มีต่อผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง และหากนำคำพิพากษาของศาลมาดูจะเห็นได้ว่ากระบวนการศาลเป็นที่พึ่งของประชาชนได้จริง และทำให้เห็นถึงความเป็นธนกิจทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ และบริวาร


 


"แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวจะโอนหุ้นชินคอร์ป ไปให้กลุ่มเทมาเส็กแล้ว แต่ในทางพฤตินัยยังมีการใช้อำนาจครอบงำ ออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องตัวเอง และเอื้อประโยชน์ต่อการขายหุ้น ดังนั้น เราจึงต้องตั้งข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกพ้องว่ามีความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชนและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และตามกฎหมายอาญามาตรา 209 ที่ระบุว่า ผู้ใดที่เป็นสมาชิกของคณะบุคคล ที่ปกปิดวิธีดำเนินการโดยมิชอบด้วยกฎหมายถือเป็นการกระทำโดยอั้งยี่" น.พ.นิรันดร์ กล่าว


 


น.พ.นิรันดร์ กล่าวด้วยว่า มีเพียงกฎหมายอาญาเท่านั้น ที่จะระบุตรงตัวกับความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีโทษถึงขั้นการยึดทรัพย์ได้


         


รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน น.พ.นิรันดร์ ได้ประชุมร่วมกับ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ตัวแทนของนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ และนักกฎหมายระหว่างประเทศ ทนายความ โดยเป็นการพิจารณาหลักฐานเพื่อนำไปเป็นเอกสารประกอบการร่างคำฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ในความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และรวมถึงการฟ้องร้องผู้อุปการะอั้งยี่ ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 212


         


รายงานข่าวแจ้งว่า การมอบเอกสารหลักฐานทั้งหมดนั้น ทนายความที่เข้าร่วมประชุมระบุว่าจะพยายามร่างคำฟ้องให้แล้วเสร็จภายในวันอังคารที่ 21 มีนาคม นี้


        


ก่อนหน้านี้มีความพยายามที่จะฟ้องร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ฐานเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ ฐานมีพฤติกรรมคอร์รัปชัน จากการทุจริตโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่นซีทีเอ็กซ์ 9000 อันเป็นการร่างฟ้องในฐานความผิดตามสนธิสัญญาว่าด้วยการป้องกันการคอร์รัปชันทุกรูปแบบ แต่ต้องยุติการดำเนินการไปเพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องการใช้เงินของแผ่นดินโดยตรง ไม่ยอมลงนามคำฟ้อง


         


วันเดียวกันนี้ มีความเคลื่อนไหวของทีมที่กฎหมายพรรคไทยรักไทย นำโดย นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล นายวิรัตน์ ตยางคนนท์ และนายประสพ บุษราคัม ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับพล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ส.ว.สระบุรี ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว.กทม. และนายพิเชฐ พัฒนโชติ ส.ว.นครราชสีมา


 


นายประสพ บุษราคัม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีการปราศรัยของ ส.ว.บางส่วนที่พาดพิงถึงพรรคไทยรักไทยทำให้เกิดความเสียหายผ่านเวทีเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ได้ทำหนังสือถึง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ประกอบด้วย พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ส.ว.สระบุรี ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว.กทม. และนายพิเชฐ พัฒนโชติ ส.ว.นครราชสีมา ที่ปราศรัยผ่านเวทีเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีข้อความที่ใส่ร้ายพรรค จนทำให้เกิดความเสียหาย โดยการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เข้าข่ายการกระทำความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. พ.ศ.2541 มาตรา 44 ซึ่งมีโทษจำคุก 1-10 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี


 


"พรรคไทยรักไทย ขอร้องเรียนบุคคลทั้ง 3 ตามความผิดมาตรา 44 เพราะได้ร่วมกันใส่ร้ายความด้วยความเท็จ ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ทั้ง 3 คน ได้ขึ้นเวทีปราศรัย และกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ดูถูกประชาชน ทำลายระบบการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ไม่ซื่อสัตย์ ใช้กลโกงให้ได้มาซึ่งอำนาจ ร่วมถึงใส่ร้ายในอีกหลายประเด็น เช่น ใส่ร้ายว่าทักษิณโกงทั้งโคตร มีพฤติกรรมแทรกแซงวุฒิสภา ดูถูกประชาชน"


 


นายประสพ เปิดเผยว่า พรรคได้มอบเอกสารหลักฐานเป็นเอกสารที่ถอดจากเทปอัดเสียง 1 ชุด เทปคำปราศรัย และสำเนาหนังสือพิมพ์ข่าวสด โดยได้ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.วาสนา แล้ว


 


นายประสพ กล่าวอีกว่า ต่อไปใครที่กล่าวหาพรรคไทยรักไทย ฝ่ายกฎหมายจะพิจารณาและจะดำเนินการฟ้องร้องให้หมด เพราะประชาธิปไตยวันนี้เริ่มกลายพันธุ์เป็นบาทาธิปไตย


 


 


 


 


จาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net