ฝ่ายผู้ฟ้องคดีได้มีการแถลงต่อศาลฯ ด้วยวาจา โดยนายนิติธร ล้ำเหลือ ผู้ได้รับมอบอำนาจ ว่า การตรา พ.ร.ฎ.กำหนดอำนาจสิทธิและประโยชน์ของ บมจ.กฟผ. พ.ศ.2548 และ พ.ร.ฎ.กำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ.2548 ของผู้ถูกฟ้องคดีนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ขณะที่น.ส.รสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า ถือว่าขั้นตอนของศาลฯ รวดเร็ว โดยมูลนิธิฯ คาดหวังอย่าเต็มเปี่ยมว่าจะชนะคดี เพราะเห็นว่ากิจการไฟฟ้าต่างจากรัฐวิสาหกิจอื่น เพราะนำเอาสาธารณประโยชน์ของประชาชน เช่น การเวนคืนที่ดินราคาถูกมาแปลงเป็นทุนเรือนหุ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนกลุ่มน้อย ซึ่งกรณีนี้จะเป็นกรณีตัวอย่างให้ประเทศไทยมีการทบทวนในการขายหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ เช่น กิจการพลังงานและกิจการที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติ

สำหรับบรรยากาศในวันนี้มีกลุ่มผู้คัดค้านแปรรูป กฟผ.จำนวนมากมารอฟังคำพิพากษาหน้าห้องพิจารณาคดี ซึ่งต่างจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรทัศน์วงจรปิดที่ถ่ายทอดภาพและเสียงพิจารณาคดี

..............................

คัดสรรจาก : ผู้จัดการออนไลน์