Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจัดราชดำเนินเสวนาเรื่อง วิกฤติการเมือง-วิกฤติเลือกตั้ง "Post Thaksin: ทางออกประเทศไทย"


 


ประชานิยมไม่ช่วยคนหายจน


นายสมบูรณ์ ศิริประชัย อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า นโยบายประชานิยมของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำของชนชั้นได้


 


นโยบายประชานิยมมุ่งแก้ปัญหาของคนจนผ่าน 3 นโยบาย คือ กองทุนหมู่บ้าน โครงการ 30 บาท และการพักชำระหนี้เกษตรกร ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์มีความกังวลมาก เพราะรัฐบาลใช้จ่ายโดยไม่ผ่านการตรวจสอบจากรัฐสภา ทั้งตั้งเป็นงบกลางขึ้นมาและใช้เงินผ่านกองทุนต่างๆ ซึ่งทำให้ตรวจสอบไม่ได้


 


การที่นโยบายเหล่านี้เป็นนโยบายเอาใจ เน้นที่การให้แบบเหวี่ยงแห จะไม่มีทางลดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยได้ ที่ผ่านมาจะเห็นว่า รัฐบาลทักษิณไม่เคยเสนอนโยบานภาษีก้าวหน้า เช่น ภาษีที่ดิน มรดก และทรัพย์สินเลย ทั้งที่นโยบายเหล่านี้จะสร้างความเสมอภาคของสิทธิ์และโอกาสได้


 


แม้ทักษิณจะหมดอำนาจ แต่นโยบายประชานิยมเหล่านี้จะยังอยู่ โดยจะกลายเป็นมรดกที่เปลี่ยนกลับไม่ได้ เพราะคนจนก็จะประท้วง หากไม่มีเหตุผลที่ดีพอ เหมือนที่เกิดขึ้นในอาร์เจนตินาและเมกซิโก


 


ปฏิเสธทุนนิยมไม่ได้


นายบรรยง พงษ์พานิช ตัวแทนนักธุรกิจจากบริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่มาพูดในวันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับบริษัท


 


รัฐบาลที่ผ่านมามีนโยบายทางเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม กล้าหาญกว่ารัฐบาลชุดอื่น กล้าทำให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ทั้งนี้เพราะเข้าใจความต้องการของเจ้าของคะแนนเสียง


 


5 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าการดำเนินนโยบายของรัฐมีประสิทธิผล เพราะเกิดขึ้นจริง มีการลงทุนจริง แต่จะมีประสิทธิภาพไหมต้องใส่เครื่องหมายคำถามตัวโตๆ ไว้ก่อน แต่ที่น่าห่วงมาก คือ ความแตกแยกของสังคม ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม จะดำเนินนโยบายบรรลุผลได้ยาก หรือได้แบบมีอุปสรรค เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่อย่างไรก็ต้องทำต่อ แต่คำถามคือทำแบบไหน เพราะแม้ในระยะสั้นไม่มีผล แต่ระยะยาวจะไม่มีเงินมาลงทุน


 


กระแสต่อต้านนายกฯตอนนี้ตามมาด้วยกระแสต่อต้านโลกาภิวัฒน์ ทุนนิยม และสร้างกระแสชาตินิยม ซึ่งไม่เอาโลกาภิวัตน์เท่ากับไม่เอาทุนต่างชาติ ซึ่งเราจะพัฒนาด้วยทุนตัวเองไม่ได้เพราะไม่พอ นอกจากนี้ การมาของทุนต่างชาติยังมีเทคโนโลยีเข้ามาด้วย ถ้าไม่เอาทุนต่างชาติ เทคโนโลยีที่ใช้ก็คือภูมิปัญญาของตัวเอง นี่ไม่ได้ดูถูกภูมิปัญญาของเรา แต่น่าเป็นห่วงที่การต่อต้านคนๆหนึ่งเท่ากับต่อต้านทุนนิยม ซึ่งตอนนี้โลกทั้งโลกเดินไปในระบบเดียวคือ ทุนนิยม


 


ทักษิณหมดความน่าเชื่อถือ


ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ฝ่ายการพัฒนาเศรษฐกิจส่วนรวม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย แสดงความเห็นว่า ไม่รู้ว่าโพสต์ทักษิณจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทยไม่อาจจะอยู่ยั่งยืนยง เพราะประวัติศาสตร์เมืองไทยไม่มีพรรคการเมืองไหนที่อยู่ได้ตลอดไป


 


แต่มีเรื่องที่ลึกกว่านั้นคือระบบประชานิยม  เชื่อว่าในที่สุดต้องหมดไป เพราะไม่มีประเทศไหนที่ทำให้ประชานิยมอยู่ได้ยาวๆ ต้องเปลี่ยนรูปแบบไป  โดยมีเงื่อนไขในการเข้าถึงประชานิยม


 


หลังเลือกตั้ง 2  เมษายน ถ้าคุณทักษิณยังกลับมาเป็นนายกฯ หรืออยู่เบื้องหลังถามว่าจะมีความเสียหายไหม จะพบว่า อำนาจการบริหารของคุณทักษิณจะหมดไป เพราะไม่มีใครยอมรับ  และจะมีคนต่อต้านตลอดเวลา เพราะเลยจุดที่คนจะไม่ต่อต้านแล้ว


 


เพราะฉะนั้น ตราบใดที่มียังคุณทักษิณอยู่ ก็มีความเสี่ยงอยู่มาก เพราะความเชื่อถือไม่มีแล้ว ดูจากการนำเสนอรัฐบาลแห่งชาติที่ถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ถ้าหลับตาไม่รู้ว่าคุณทักษิณเป็นคนเสนออาจมีคนสนใจมากขึ้น แม้จะบอกว่ามีเจตนาที่ดีในการทำนโยบายต่างๆ เช่น เอฟทีเอ แต่คุณทักษิณนั่งอยู่หัวโต๊ะ ทุกคนก็ต้องเชื่อว่าต้องมีผลประโยชน์ทับซ้อน 


 


2 เมษา "ตะแบงลากตั้ง"


นายประสาร มฤคพิทักษ์ เครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หลังเลือกตั้งไม่น่าจะเกิน 2  เดือน คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ไม่ได้ เพราะความไม่ชอบธรรมที่บ่มมาเป็นเวลานาน  2-3 เดือนที่ผ่านมา  มากขึ้น สั่งสมทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ


 


ก่อนเลือกตั้ง คุณทักษิณทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างชัดเจน จากการที่ไปปราศรัยเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่บอกว่าจะให้คอมพิวเตอร์เด็กประถมในปี 2550 แต่กกต. ก็ยังไม่ดำเนินการอะไรเลย


 


การเลือกตั้ง 2 เมษาคงถูกประณามว่าสกปรกที่สุดในประเทศ จะมีการโกง สารพัดโกง เพราะใช้ตราประทับโกงการเลือกตั้ง และมีการเลือกตั้งซ่อม แต่อย่างไรก็จะเปิดสภาไม่ได้ใน 30 วัน   


 


การเลือกตั้ง 2 เมษาจะได้ส.ส.ไม่ครบและเปิดประชุมสภาไม่ได้ เป็นการตะแบงลากตั้ง ต้องเลือกตั้งซ่อมใหม่ แต่อย่างไรก็จะมีปัญหาในภาคใต้ ซึ่งจะได้คะแนนเสียง 20% ยากมาก


 


หลังเลือกตั้งจะมีการประท้วงทุกหัวระแหง จะทำอะไร เช่น ปฏิรูปการเมือง ก็จะไม่มีใครกล้าร่วมด้วย เพราะหมดความชอบธรรมแล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net