ภาพจาก www.nationchannel.com
ประชาไท2 เม.ย. 2549 เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. รศ. ดร.
โดยนายไชยันต์ ให้เหตุผลว่าต้องเลือกระหว่างการเป็นพลเมืองดี กับการเป็นคนดี เนื่องจากขณะนี้ ทั้ง 2 อย่างไม่ได้เป็นสิ่งเดียวกัน นายไชยันต์กล่าวด้วยว่า การฉีกบัตรเลือกตั้งครั้งนี้ ในทางหนึ่งก็คือการป้องกันการถูกสวมรอยใช้สิทธิด้วยเพราะสามารถตรวจสอบได้ว่าบัตรหายไป 1 ใบ
ทั้งนี้ นายไชยันต์ ซึ่งจบการศึกษาด้านปรัชญาการเมืองและสอนวิชาปรัชญาการเมืองกล่าวว่า สิ่งที่เขากระทำลงไปนั้นก็เพื่อนำทางไปสู่การตั้งคำถามว่าประชาธิปไตยนำไปสู่สิ่งที่ดีงามหรือไม่ และการเป็นพลเมืองที่ดี ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น กฎหมายเลือกตั้งนั้น เหตุใดจึงไม่ใช่สิ่งเดียวกันกับความเป็นคนดี และเหตุใดเราจึงต้องเลือกระหว่างสองสิ่งนี้
เขากล่าวด้วยว่า ในฐานะที่เขาเป็นอาจารย์สอนด้านรัฐศาสตร์เขาก็ต้องเป็นตัวอย่างในการตั้งคำถามเหล่านี้ พร้อมระบุว่า เขาคิดว่าคดีที่เขาฉีกบัตรเลือกตั้งนี้ จะเป็นกรณีศึกษาของปรัชญาการเมือง
อย่างไรก็ตาม สำหรับความผิดตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตรารา 108 ซึ่งระบุว่าผู้ที่ทำลายบัตรเลือกตั้งโดยเจตนา ถือว่ามีความผิดนั้น นายไชยันต์กล่าวว่าเขาใช้สิทธิการแสดงออกทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายที่สูงกว่า อีกประการหนึ่งคือ เขาเชื่อว่า มาตรา 108 นั้น น่าจะมีวัตถุประสงค์ลงโทษผู้ที่ทำลายบัตรเลือกตั้งจนเป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สามารถดำเนินไปได้ แต่เขาทำลายบัตรเลือกตั้งของตนเอง มิได้ไปทำลายบัตรของผู้อื่นแต่อย่างใด และไม่แนะนำให้ใครเลียนแบบ
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งมาตรา 108 กำหนดโทษสำหรับผู้เจตนาทำลายบัตรเลือกตั้งว่ามีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 รวมทั้งจะเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 5 ปี ซึ่งนายไชยันต์ได้ใช้ตำแหน่งของตนเองประกันตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งนาย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)