Skip to main content
sharethis


2 โพลหนุน "สมคิด" นั่งนายกฯแทน "แม้ว"

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "ผู้ประกอบการธุรกิจคิดอย่างไรต่อการลงทุนในอีก 6 เดือนข้างหน้า และบุคคลที่ควรมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป:กรณีศึกษาผู้บริหาร/ผู้ประกอบการของสถานประกอบการทั่วประเทศ" จากการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้บริหาร/ผู้ประกอบการของสถานประกอบการธุรกิจทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,055 ตัวอย่าง


 


พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 95.3 ได้ติดตามข่าวการประกาศไม่รับตำแหน่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี โดยร้อยละ 71.8 เห็นด้วยกับการตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประกาศไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่าเพราะจะทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายลงไม่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ


         


ส่วนอันดับบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ พบว่า อันดับแรกคือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร้อยละ 57.4 รองลงมา คือ นายโภคิน พลกุล ร้อยละ 11.8 และ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ร้อยละ 9.2 ตามลำดับ


         


ด้านกรุงเทพโพลล์ก็ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,309 คน ในเขตกรุงเทพฯ เช่นกัน พบว่า บุคคลที่มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแทน พ.ต.ท.ทักษิณ คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นอันดับที่ 1 ร้อยละ 37.3 นายโภคิน พลกุล ร้อยละ 10.30


 


ส่วนปฏิกิริยาหลังการประกาศเว้นวรรคทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พบว่าร้อยละ 27.5 ไม่รู้สึกแปลกใจ แต่ร้อยละ 22.6 นั้น รู้สึกชื่นชม ยกย่อง ขณะเดียวกันเมื่อถามถึงการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใน วันที่ 7 เม.ย. กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 45.1 ระบุว่าไม่เห็นด้วย อีกทั้งร้อยละ 52.7 ไม่เห็นด้วยกับการนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งหลังวันที่ 30 เมษายน ขณะที่ร้อยละ 29.3 บอกว่าเห็นด้วย


 


นักวิชาการเชื่อคนยังแห่ร่วมชุมนุมพันธมิตรฯ


ส่วนการที่พันธมิตรฯจะจัดชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 7 เม.ย. นักวิชาการเห็นแตกต่างไปจากกรุงเทพโพลล์โดยระบุว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมมากมายเช่นครั้งที่ผ่านๆ มา


 


นายเจริญ คัมภีรภาพ อาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร มั่นใจว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ จะมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมากเพราะประชาชนต้องการรับทราบท่าทีที่ชัดเจนของกลุ่มพันธมิตรฯ เนื่องจากผู้ชุมนุมรับทราบดีว่า การประกาศเว้นวรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ แค่เกมการเมืองเท่านั้น และหลังเลือกตั้ง 30 วัน ก็ไม่มีทางเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้แน่นอน แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พยายามลากถูให้เปิดประชุมสภาให้ได้ เมื่อถึงวันนั้นจะต้องถูกปฏิเสธจากประชาชนอย่างแน่นอน


 


นายไชยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเห็นด้วยเช่นเดียวกันว่าจะมีประชาชนจำนวนมากมาร่วมชุมนุมอีก เนื่องจากยังไม่พอใจและไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเว้นวรรคจริง เพราะยังอยู่ในตำแหน่งอยู่ ที่สำคัญยังต้องไปที่เน้นการตรวจสอบ ผลประโยชน์ทับซ้อน และความไม่ถูกต้องในเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งที่ผ่านมา อีกทั้งตอนนี้นายกฯก็ยังอยู่ในตำแหน่ง


         


แง้มไต๋ ทรท.เตรียมเสนอแนวคิดจัดตั้ง "คณะปฏิรูปการเมืองแห่งชาติ"


วันเดียวกัน นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคไทยรักไทย ได้ประชุมเพื่อเตรียมสรุปแนวคิดการจัดตั้งสมัชชาสนามม้า โดยจะให้แต่ละจังหวัดคัดเลือกตัวแทนจากกลุ่มอาชีพต่างๆ ส่งมายังส่วนกลาง และจะมีสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นฝ่ายธุรการ จัดประชุมทั้งหมดที่ส่งชื่อมา แล้วคัดเลือกให้เหลือเพียง 100 คน รวมทั้งจะเสนอให้มีตัวแทนศาล องค์กรอิสระ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ( ส.ส.ร.) นักวิชาการอีก 20 คน เข้าร่วม รวมทั้งหมดจะเป็น 120 คน ในนามของ  "คณะปฏิรูปการเมืองแห่งชาติ"


 


หน้าที่หลักๆ ของคณะทำงานชุดนี้ คือการหาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายใต้หลักการสำคัญคือ ไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง พรรคไทยรักไทยจะสรุปรายละเอียดและจะแถลงข่าวทั้งหมดในวันที่ 7 เม.ย.


 


สรุปรายงานผลการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตอย่างไม่เป็นทางการล่าสุด


พ.ต.อ.ประเสริฐ สุทธิสนธิ์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์  กกต. เปิดเผยถึงสรุปรายงานผลการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 แบบแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการว่าได้รับรายงานผล 398 เขต จาก 400 เขต ขาดเพียงเขต 3 นนทบุรี ที่ไม่มีผู้สมัคร และเขต 3 สมุทรสาคร ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผลคะแนนยังไม่ถูกต้อง ซึ่ง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. ได้เดินทางไปตรวจวินิจฉัยปัญหาด้วยตนเองแล้ว


        


ยอดผู้มาใช้สิทธิทั่วประเทศ 29,791,294 คน คิดเป็นร้อยละ 65.24 บัตรเสีย 3,815,870 ใบ คิดเป็นร้อยละ 12.81 และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 9,842,197 ใบ คิดเป็นร้อยละ 33.04 โดยผู้สมัครพรรคไทยรักไทยได้ 397 เขต พรรคคนขอปลดหนี้ ได้ 1 เขต


 


ส่วนการเลือกตั้งใหม่จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 23 เม.ย.นี้ใน 39 เขตเลือกตั้ง ใน 16 จังหวัด คือ กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา สงขลา สตูล สุราษฎร์ธานี เพชรบุรี และนนทบุรี โดยจะเปิดรับสมัครใหม่ในวันที่ 8-9 เมษายนนี้ และจะไม่มีการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแต่อย่างใด


 


พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงเหตุการณ์ที่มีรายงานว่าในพื้นที่ภาคใต้มีการรณรงค์ให้ฉีกบัตรเลือกตั้งว่า ให้ว่ากันไปตามกฏหมาย แต่อาจไม่ต้องขังทุกคนที่กระทำ คือประกันตัวได้บ้าง


 


อย่างไรก็ตามประธาน กกต.กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นตั้งข้อหาคนรณรงค์ให้ฉีกบัตรแต่ให้ถือว่าเป็นการทำลายการปกครองระบบประชาธิปไตย ไม่ควรทำ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net