Skip to main content
sharethis


ประชาไท - 28 เม.ย.49     บรรดาแพทย์ นักกิจกรรมด้านเอดส์ และเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องอีกครั้งหนึ่งต่อบริษัทยาของสหรัฐอเมริกา นามว่า แอบบอท แลบอราทอรี่ส์ จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ติดเชื้อไทยสามารถเข้าถึงยาต้านไวรัสตัวสำคัญของบริษัทด้วยราคาที่เป็นธรรม


 


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา  แพทย์ นักวิชาการ นักกิจกรรมด้านเอดส์กว่า 25 คนและองค์การหมอไร้พรมแดน-เบลเยี่ยม (ประเทศไทย) ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บริษัทบริษัทแอบบอท ไปแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ โดยเรียกร้องให้นำยาโลพินาเวีย/ริโทนาเวีย (LPV/r) หรือที่รู้จักกันในนามชื่อการค้าว่า คาเลทรา (Kaletra) รูปแบบใหม่ มาขึ้นทะเบียนตำรับยาในประเทศไทยและขายในราคายุติธรรม โดยยารูปแบบใหม่มีข้อดีกว่ายารูปแบบเก่าที่ขายอยู่ในประเทศไทยเพราะจำนวนเม็ดที่รับประทานต่อวันน้อยกว่าและไม่จำเป็นต้องเก็บรักษาในที่เย็น


 


ข้อเรียกร้องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทแอบบอทได้ทยอยเก็บยารูปแบบเก่าออกจากตลาดในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปเพื่อวางขายยารูปแบบใหม่นี้แล้ว แต่ยังไม่มีการนำยานี้มาจดทะเบียนในประเทศไทย จึงดูเหมือนว่า บริษัทแอบบอทมีเจตนาที่จะใช้ประเทศไทยเป็นที่โละยารูปแบบเก่า


 


ปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อประมาณ 80,000 คนได้รับการรักษาภายใต้โครงการพัฒนาการเข้าถึงบริการยาต้านไวรัสเอดส์สำหรับผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ (National Access to Antiretroviral Programs for PHA -NAPHA) ของกระทรวงสาธารณสุข และมีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ต้องเปลี่ยนสูตรยาจากยาต้านไวรัสเอดส์พื้นฐานเป็นสูตรสำรอง เช่น ยา LPV/r (คาเลทรา) เมื่อเกิดอาการดื้อยา โดยกระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ว่า ในปี 2549 นี้มีผู้ป่วยผู้ติดเชื้อต้องการใช้ยา LPV/r ประมาณ 8,000 คน แต่จากราคาที่แพงมาก ทำให้งบประมาณของรัฐบาลที่มีอยู่สามารถจัดหายาให้ผู้ติดเชื้อได้เพียง500 คนเท่านั้น


 


ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขไทย ต้องจ่ายค่ายา LPV/r รูปแบบเก่าในราคา 108,000 บาท/ผู้ป่วย/ปี ขณะที่ในบราซิล ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ระดับกลางเช่นเดียวกับไทยจ่ายเพียงครึ่งหนึ่งของราคาที่คนไทยต้องจ่าย คือ 55,200 บาท/ผู้ป่วย/ปี ส่วนกัมพูชาและประเทศแถบแอฟริกาซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด ซื้อ LPV/r ในราคาเพียง 20,000 บาท/ผู้ป่วย/ปีเท่านั้น


 


อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทแอบบอท แลบอราทอรี่ส์ จำกัด ได้ประกาศที่จะขายยา LPV/r รูปแบบใหม่ในราคาพิเศษ (20,000 บาทต่อผู้ป่วยต่อปี) ให้กับประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด - LDCs ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทวีปแอฟริกา แต่ยังไม่ประกาศราคายารูปแบบใหม่ที่จะขายในประเทศไทย


 


ผู้ที่ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บริหารบริษัทแอบบอท แลบอราทอรี่ส์ จำกัด สหรัฐอเมริกา เพื่อเรียกร้องให้นำยา LPV/rรูปแบบใหม่มาขึ้นทะเบียนตำรับยาในประเทศไทย และขายในราคาที่ยุติธรรม รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนายาขนานสำหรับเด็ก ประกอบไปด้วย เช่น ศ.นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย,ศ.พญ.เพลินจันทร์ เชษฐโชติศักดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาอายุศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, รศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ


แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาโรคติดเชื้อในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ศิริราชพยาบาล, อ.จอน อึ้งภากร วุฒิสมาชิก, นายกมล อุปแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย และนางสาวสุภัทรา นาคะผิวประธานคณะกรรมการองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net