Skip to main content
sharethis

เจตนารมย์เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพภาคใต้


 


            จากวิกฤตการณ์ทางการเมืองจนนำมาสู่วิกฤตชาติตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แม้บัดนี้ดูเหมือนว่าวิกฤตจะคลี่คลายไปสู่ทิศทางแห่งความหวัง แต่ก็ยังมีความน่าเป็นห่วงอยู่อีกหลายประเด็น ในช่วงเวลาปัจจุบันจึง เป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งการการขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ความอภิวัฒน์


เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพภาคใต้ ซึ่งเป็นองค์กรแนวราบที่เป็นที่รวมตัวของวิชาชีพแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล หมออนามัย และสหเวชศาสตร์ที่ปฏิบัติงานในภาคใต้ ได้ประชุมร่วมกันที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมีเจตนารมณ์ต่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมืองดังนี้



  1. ระบบสุขภาพเป็นระบบที่มีความกว้างขวางและใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญต่อประชาชนในสังคม ปัจจุบันนิยามของสุขภาวะหมายความกว้างถึงทั้งทางกาย จิต สังคม และจิตวิญญาณ ระบบการเมืองเป็นระบบที่มีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตประชาชน ดังนั้นระบบการเมืองที่มีศีลธรรมเป็นความหวังของสังคมไทย การเมืองที่มีปัญหาเพราะขาดศีลธรรมหรือขาดปัญญาย่อมจะนำมาซึ่งปัญหาสังคมที่กระทบต่อสุขภาวะของคนทั้งประเทศ ดังนั้นวิชาชีพสุขภาพต้องก้าวข้ามมิติการทำงานด้านการสาธารณสุขมาสู่การทำงานเพื่อร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมือง ให้เกิดระบบการเมืองที่ดี เป็นระบบที่มีศีลธรรมและปัญญา ซึ่งจะสร้างสุขภาวะให้กับคนไทยทุกคนได้อย่างมาก

  2. สำหรับการแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองในระยะเฉพาะหน้า

2.1   เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพภาคใต้ขอเรียกร้องต่อทุกพรรคการเมืองให้นำเสนอนโยบายในการปฏิรูปการเมืองและนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาวะที่ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนเลือกและเป็นสัญญาประชาคมที่ต้องผลักดันต่อไป


2.2   สังคมไทยต้องการกลไกการเลือกตั้งที่มีความบริสุทธิ์ ถูกต้องและเป็นธรรม ปราศจากอำนาจทุนและอำนาจรัฐครอบงำ ซึ่งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ จะเป็นการเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดในการปฏิรูปการเมืองครั้งสำคัญของประเทศไทย เสนอให้มีกลไกการตรวจสอบจากคณะกรรมการอิสระที่เป็นที่เชื่อถือของสังคมไทย ในการช่วยตรวจสอบกระบวนการในการจัดการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นการจัดการเลือกตั้งของกกต.ชุดใดก็ตาม



  1. สำหรับการปฏิรูปการเมืองในระยะต่อมานั้น

3.1   เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพภาคใต้ต้องการเห็นระบบการเมืองที่สามารถป้องกันอำนาจทุนขนาดใหญ่ในการครอบงำภาคการเมืองและองค์กรอิสระ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของการปฏิรูปการเมืองในครั้งนี้ เสนอให้มีการแก้ไขให้มีการถ่วงดุลอำนาจในการบริหารประเทศให้มีการเมืองภาคพลเมือง เพื่อการกำกับและการตรวจสอบ ภาคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง


3.2   เมื่อมีรัฐบาลใหม่ ขอให้มีการการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อการแสวงหาความจริงและสมานฉันท์ที่สังคมยอมรับ เพื่อสะสางตรวจสอบข้อกล่าวหาหรือข้อสงสัยทุกกรณีต่อประเด็นที่ไม่มีคำตอบจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา อันจะก่อให้เกิดการเรียนรู้ในความถูกผิดในอดีตและเกิดความสมานฉันท์ในสังคมไทย


3.3   สังคมไทยต้องมีกลไกการสื่อสารสาธารณะที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง เพื่อเผยแพร่ความจริง ให้การสื่อสารความจริงและความดีต่างๆในสังคม เป็นเครื่องมือในการสร้างชาติสร้างประชาธิปไตย โดยการมีการตั้งคณะกรรมการอิสระที่มาดูแลและบริหารจัดการการสื่อสารที่เป็นอิสระและสาธารณะ และต้องระบุให้เป็นกลไกอิสระสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้น



  1. วิชาชีพด้านสุขภาพที่กระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศไทยทั้งในเมืองและในชนบท มีหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการเมืองภาคประชาชน เพราะประชาธิปไตยไม่ใช่การเลือกตั้ง การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น จะเป็นรากฐานที่สำคัญยิ่งของประชาธิปไตย ซึ่งภาคสาธารณสุขสามารถเข้าไปสนับสนุน ร่วมขับเคลื่อนกับภาคส่วนอื่นให้การเมืองภาคประชาชนเข้มแข็งขึ้นมาเคียงคู่การเมืองภาคผู้แทน ด้วยการร่วมกันทำงานเป็นเครือข่าย เชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารสู่ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

 


 


เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพภาคใต้


  9 พฤษภาคม 2549


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net