Skip to main content
sharethis

ประธานาธิบดีซานานา กุสเมา ผู้นำติมอร์ตะวันออก ออกแถลงการณ์ในค่ำวันนี้ (30 พ.ค.) ว่าจะรับผิดชอบตำแหน่งกลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติแต่เพียงผู้เดียว เพื่อระงับเหตุขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากความแตกแยกของกลุ่มต่างๆ โดยมาตรการฉุกเฉินจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเป็นระยะเวลา 30 วัน


 


โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่นานหลังจากเจ้าหน้าที่คณะรัฐบาลแถลงการณ์ประกาศปลดรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทยที่มีขึ้นระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินเพื่อคลี่คลายวิกฤตในติมอร์-เลสเต ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 27 คนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา


 


ด้านเจ้าหน้าที่ติมอร์ตะวันออกระบุว่า ในวันนี้ได้มีม็อบกลุ่มหนึ่ง ใช้มีดเป็นอาวุธ บุกเข้าไปยังแผนกคดีอาญาร้ายแรงในสำนักงานอธิบดีกรมอัยการในกรุงดิลี และขโมยหลักฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์กองกำลังอินโดนีเซีย สังหารหมู่ชาวติมอร์ตะวันออกในช่วงแยกตัวเป็นเอกราชจากอินโดนีเซียเมื่อปี 2542 ไป และยังเข้าไปในแผนกอื่นๆ ขโมยคอมพิวเตอร์และสิ่งของมีค่าอื่นๆ ไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคนร้ายเจตนาทำลายเอกสาร ซึ่งไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนหรือไม่


 


ขณะเดียวกัน ในกรุงดิลีก็ยังมีการปล้นสะดมภ์ และชาวบ้านก็เข้าแย่งชิงอาหาร แม้ว่าจะมีกองกำลังต่างชาติเข้าไปช่วยฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย โดยยังมีการสู้รบเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นยังคงบุกเข้าไปเผาบ้านเรือน และเข้าปล้นตามสถานที่ราชการ และยังมีกลุ่มวัยรุ่นที่ถืออาวุธเดินตระเวนไปตามท้องถนน ทำลายข้าวของและร้านค้า ซึ่งมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งแต่ไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่


 


ขณะที่บรรดาแกนนำในรัฐบาล ได้ประชุมฉุกเฉินกันเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ เพื่อพยายามหาทางยุติวิกฤติเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่สถาปนาเป็นประเทศมานาน 7 ปี โดยมีทหารคุ้มกันทำเนียบรัฐบาลอย่างแน่นหนา


 


 


ที่มา: เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net