Skip to main content
sharethis

 



 


ประชาไท—4 มิ.ย. 2549 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2549 เวลา 14.00 น. พระมหาวุฒิชัย(ว.วชิราเมธี) พระนักเขียนชื่อดังจากหนังสือ "ธรรมะติดปีก" พร้อมด้วยอดีตสว.เตือนใจ ดีเทศน์ เดินทางไปยังลานหอยเสียบ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย หลังจากที่ศาลปกครองตัดสินว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจละเมิดสิทธิการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นการกระทำความผิดรัฐธรรมนูญและให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชดใช้ค่าเสียหายให้เครือข่ายคัดค้านฯ ดังที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้


 


พระว.วชิราเมธีกล่าวกับเครือข่ายคัดค้านฯว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาลานหอยเสียบ เพราะที่ผ่านมาติดตามข่าวของชาวบ้านในพื้นอำเภอจะนะมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวว่าสิ่งที่ชาวบ้านต่อสู้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ดีงามและเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของคนทั้งประเทศ สุดท้ายขอให้เครือข่ายคัดค้านฯยึดหยัดต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้องต่อไป


 


อดีตสว.เตือนใจ ดีเทศน์ กล่าวว่า สำหรับคำพิพากษาของศาลปกครองสงขลา ที่ชี้ชัดว่าตำรวจละเมิดสิทธิของพี่น้องเครือข่ายคัดค้านนั้นถือเป็นชัยชนะขั้นหนึ่ง ซึ่งจะใช้เป็นบรรทัดฐานในสังคม และย้ำว่าสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบโดยปราศจากอาวุธนั้นเป็นสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญกำหนด


 


พร้อมกันนี้ นางเตือนใจกล่าวด้วยว่ารู้สึกภาคภูมิใจที่ชาวบ้านมีการศึกษาความได้เปรียบเสียเปรียบที่เกิดขึ้นกับโครงการ และมีความกล้าหาญที่กล้าลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ สุดท้ายได้ฝากว่ากรณีที่ชาวบ้านลุกขึ้นมาปกป้องที่ดินวะกัฟตามหลักศาสนาอิสลามหรืออาจเรียกว่าที่ธรณีสงฆ์ตามหลักศาสนาพุทธ ต้องยืนหยัดและต่อสู้เพื่อเอาที่ดินตามหลักการศาสนากลับมาให้จงได้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ


 


นายวะกบ หลำโส๊ะ กล่าวว่ากรณีที่ศาลปกครองมีคำพิพากษาเจ้าหน้าที่ตำรวจละเมิดสิทธิสลายการชุมนุม ซึ่งเป็นการกระทำความผิดรัฐธรรมนูญอย่างร้ายแรง เพราะเครือข่ายคัดค้านฯชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชดใช้ค่าเสียหายให้เครือข่ายคัดค้านฯถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเรื่องดังกล่าวจะเป็นบรรทัดฐานให้กับสังคมไทยว่า หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่ารัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิดประชาชนคนธรรมดาก็มีสิทธิในการตรวจสอบพฤติกรรมและการทำงานเหมือนกัน และคดีนี้จะเป็นแบบอย่างให้กับสังคมไทยว่าการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธเป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญกำหนด การชุมนุมเป็นสิ่งที่ถูกต้องและสามารถกระทำได้ ไม่ใช่ดังที่รัฐบาลทักษิณและพล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ได้ทำให้สังคมไทย เข้าใจผิดว่าการชุมนุมเป็นความรุนแรงและเลวร้าย


 


นายวะกบกล่าวต่อไปว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะถือว่าเป็นใช้กฎหมายแล้วจะใช้อำนาจหน้าที่มีข่มเหง รังแกชาวบ้านไม่ได้เจ้าหน้าตำรวจก็ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเหมือนกัน และที่สำคัญเวลานี้ตำรวจในพื้นที่ยังมีพฤติกรรมรับใช้บริษัททรานส์ไทย-มาเลเซีย ยังเป็นยามเฝ้าบริษัทและเป็นผู้คุ้มกันสนับสนุนให้บริษัทกระทำผิดกฎหมายโดยการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ในการก่อสร้างและวางแนวท่อส่งก๊าซ อยากเรียกร้องให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net