ประชาไท—8 มิ.ย. 2549 กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอว็อทช์) เตรียมยื่นจดหมายถึงนายจุนอิชิโร โคอิสุมิ ซึ่งจะเดินทางมายังประเทศไทยในช่วงปลายสัปดาห์หน้า ระบุว่าจากการที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่นได้สรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและเคยมีกำหนดจะลงนามเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ยุบสภาเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2549 ทำให้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ในฐานะรัฐบาลรักษาการไม่อยู่ในฐานะที่จะลงนามความตกลงระหว่างประเทศใดๆ

นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยก็ปฏิเสธไม่เคยให้ภาคประชาชนได้ศึกษาข้อตกลงการค้าเสรีที่รัฐบาลทำ โดยรัฐบาลไทยให้ข้อมูลกับประชาชนบางกลุ่มเท่านั้น แต่ไม่เคยให้ข้อมูลที่ครบถ้วนต่อสาธารณะทำให้ประชาชนขาดการมีส่วนร่วมและส่งผงให้รัฐบาลไทยรักไทยถูกตั้งคำถามเรื่องธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในการบริหารราชการแผ่นดิน

เอฟทีเอว็อชท์ ระบุด้วยว่า ข้อตกลงความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่นที่กำลังจะลงนามนี้ก็ยังอยู่ในข่ายที่ต้องพิจารณาด้วยว่าละเมิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่ เพราะรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยนำความตกลงดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ทั้งที่ความตกลงดังกล่าวจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 224 วรรค 2

และประเด็นสุดท้ายคือ การเจรจาเอฟทีเอ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลทักษิณถูกประชาชนต่อต้านจนกระทั่งมีการยุบสภา และเป็นประเด็นปัญหาทางการเมืองที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในประเทศไทย

เอฟทีว็อทช์ ระบุว่าในฐานะที่ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่ดีต้อกันมาเป็นระยะเวลายาวนานจึงหวังว่ารับบาลญี่ปุ่นจะไม่กระทำการในลักษณะที่เป็นการแทรกแซงการเมืองในประเทศไทย พร้อมกันนี้ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อประชาคมโลกและสร้างความมั่นใจให้ปฃกับประชาชนไทยด้วยยว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่ฉวยโอกาสลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นกับรัฐบาลรักษการของไทย จนกว่าประชาชนไทยจะได้รัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรมเพียงพอ และเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและศึกษาผลกระทบจากการทำเอฟทีเออย่างแท้จริง

เอกสารประกอบ

จดหมายจากเอฟทีเอว็อทช์ถึงนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น