ประชาไท—16 มิ.ย. 2549 นายคำรบลักขิ์ สุรัสวดี รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคณะทำงานปรับปรุงระบบเดินรถสาธารณะ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแต่งตั้งว่า ขณะนี้ได้จัดทำแผนเส้นทางเดินรถใหม่ ของ ขสมก. และรถโดยสารประเภทอื่นๆ ในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเรียบร้อยแล้ว และได้เสนอเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณา ซึ่งคาดว่าจะมีการเสนอแผนให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะครอบคลุมถึงการเปิดเสรีเดินรถสาธารณะ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการปรับโครงสร้างกิจการของ ขสมก. โดยกระทรวงคมนาคมจะเสนอให้คณะรัฐมนตรียกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเดิมที่ให้ ขสมก. และ บขส. เป็นเจ้าของสัมปทาน และบริหารการเดินรถ ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดเสรีรถสาธารณะทั้งระบบ โดยหลังจากนี้ ผู้ประกอบการเอกชนที่สนใจต้องการเดินรถเมล์ให้บริการ จะยื่นเรื่องขออนุมัติเส้นทาง ให้คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง และกรมการขนส่งทางบกพิจารณา

ทั้งนี้ การเปิดเสรีดังกล่าว เพื่อทำให้การจัดระบบเส้นทางเดินรถใหม่ในอนาคตเกิดความคล่องตัว หลังจากที่ได้มีแผนในการปรับปรุงเส้นทางเดินรถใหม่ทั้งระบบที่สอดรับกับเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้การจัดทำเส้นทางก็แล้วเสร็จ และจะนำรถเมล์ที่จัดซื้อใหม่ ซึ่งใช้ก๊าซเอ็นจีวี 2,000 คัน มาวิ่งให้บริการซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ใน 4-5 เดือนข้างหน้า เมื่อรถในจำนวนดังกล่าวไม่น้อยกว่า 200 คัน เริ่มประกอบและจัดส่งมาวิ่งให้บริการ

ทั้งนี้ เส้นทางเดินรถใหม่จะมีลักษณะเป็นโครงข่าย แบ่งกรุงเทพมหานคร เป็นเขตเมืองชั้นใน รอบนอกและเขตปริมณฑล และในช่วงแรกจะครอบอยู่บนเส้นทางเดินรถเดิม และมีจุดเชื่อมต่อเส้นทางเดินรถ เป็น 5 สถานีขนาดใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดที่ต้องการให้มีการใช้บริการในลักษณะรถต่อรถได้ เพื่อไม่ให้รถเมล์แต่ละสายวิ่งให้บริการเป็นเส้นทางที่ยาวเกินไป ทำให้คุณภาพของงานบริการ และสภาพตัวรถย่ำแย่

โดยแผนการปรับปรุงระบบรถสาธารณะนี้ จะดำเนินการใน 5 ขั้นตอน เริ่มจากการปรับเส้นทางเดินรถใหม่ การปรับปรุงรถร่วมบริการและรถสาธารณะที่มีอยู่เดิมเป็นระบบก๊าซเอ็นจีวีใหม่ทั้งหมด การจัดหารถใหม่มาวิ่งให้บริการ เช่น การจัดซื้อรถใหม่ 2,000 คัน การแจ้งแผนที่ชัดเจนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะมีแผนขยายสถานีบริการให้สอดคล้องกับแผนปรับระบบโครงสร้างรถสาธารณะนี้ จนไปถึงการพัฒนาระบบตั๋วโดยสารร่วมกับระบบเรือโดยสาร และรถไฟฟ้าในอนาคต

..............................................

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์