15 มิถุนายน 2549 เวลา 14.30 น. กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอว็อทช์) ประมาณ 25 คน พร้อมทั้งผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหน้าสถานทูตญี่ปุ่นด้านถนนอโศกเพื่อขอพบตัวแทนเจ้าหน้าที่สถานทูตและยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายจุอิชิโร โคอิซูมิ เพื่อคัดค้านการลงนามในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) กับรัฐบาลรักษาการของไทย โดยได้มีการโทรแจ้งไปยังสถานทูตล่วงหน้า

อย่างไรก็ตามทางสถานทูตไม่ส่งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบออกมารับ แต่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ล่ามแปลเพื่อสอบถามถึงความต้องการของกลุ่มฯแทน เพื่อนำไปสื่อสารต่อภายในสถานทูต เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้กลุ่มฯทราบว่าทางสถานทูตยืนยันที่จะไม่ออกมารับจดหมายข้างหน้า แต่จะให้ตัวแทนกลุ่มฯเข้าพบ 1 คน ทางกลุ่มฯพยายามชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ของการมาครั้งนี้เพียงเพื่อยื่นจดหมายเท่านั้นซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน และไม่สามารถจะให้ตัวแทนเข้าไปยื่นจดหมายภายในสถานทูตเพียงลำพังได้เพราะจะเกิดความไม่โปร่งใส อย่างไรก็ตาม ทางสถานทูตยังคงยืนยันเช่นเดิม ดังนั้น ทางกลุ่มฯจึงเจรจาต่อรองขอให้ตัวแทนเข้าพบ 5 คน แต่ถึงกระนั้น ทางสถานทูตก็ยังต้องใช้เวลานานในการตัดสินใจโดยไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อไร เมื่อถึงเวลา 15.40น. ทางกลุ่มฯจึงตัดสินใจที่จะแนบจดหมายไว้ที่ประตูใหญ่แทนการยื่นหนังสือกับเจ้าหน้าที่โดยตรง

"เรามายื่นหนังสืออย่างเป็นทางการโดยสุภาพ เราได้ประสานงานมาก่อนล่วงหน้าแล้ว แต่ท่าทีของคนในสถานทูตญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทยวันนี้ถือว่าเป็นท่าทีที่ก้าวร้าวมาก ไม่ยอมมารับหนังสือ เราได้แปะหนังสือไว้หน้าสถานทูตเพื่อบอกว่าข้อความในหนังสือเป็นข้อความที่เราเรียกร้องให้ญี่ปุ่นอย่ามาเซ็นเอฟทีเอในขณะนี้ขณะที่ไทยยังมีรัฐบาลรักษาการ เราต้องการให้รัฐบาลญี่ปุ่นมีท่าทีที่ชัดเจนว่าเป็นมิตรกับคนไทยและประเทศไทย แต่ไม่มีใครเป็นมิตรกับเราในการมารับหนังสือ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก" นางสาวสายรุ้ง ทองปลอน ผู้จัดการสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าว

"เรามาแสดงเจตจำนงของเราโดยถูกต้องและโดยบริสุทธิ์ใจว่าไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลไปเซ็นสัญญาขณะที่ยังเป็นรัฐบาลชั่วคราว แต่สิ่งที่ได้รับคือ ไม่ได้รับการตอบสนองหรือมีตัวแทนจากสถานทูตญี่ปุ่นเข้ามารับเรื่อง ความจริงน่าจะแสดงเจตจำนงออกมาคุยกับเราหรือให้ตัวแทนเราเข้าไปคุยเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นและรับรู้ข้อมูล อย่างนี้แสดงว่าไม่ให้เกียรติเรา ประเทศนี้เป็นประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องนี้คงจะไม่จบลงแค่นี้ เราจะต้องมีการเคลื่อนต่อไป ถ้ายังมีการดื้อดึงเซ็นเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น และกรกฎาคมจะเป็นเดือนที่จะเซ็นกัน เราจะมาอีกครั้งหนึ่ง" ตัวแทนจากเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ประเทศไทย กล่าว

ผู้แทนกลุ่มฯ ยังเปิดเผยด้วยว่า ทางกลุ่มฯจะได้ส่งหนังสือไปทางโทรสารและจดหมายลงทะเบียนอีกครั้ง และขอให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลรักษาการจะลงนามเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่นช่วยกันส่งโทรสารไปยังสถานทูตญี่ปุ่นที่เบอร์ 0-2253-4153 หรือไปที่หน้าความคิดเห็นของสถานทูต www.th.emb-japan.go.jp/en/mail/iken.htm เพื่อขอคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลญี่ปุ่นภายในเดือนมิถุนายนนี้ และหากจะยังมีการลงนามในเอฟทีเอระหว่างไทย-ญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคม ทางกลุ่มฯจะมีการเคลื่อนไหวต่อไป

ทั้งนี้ เนื้อหาในจดหมายระบุว่า "ที่ผ่านมาตลอดช่วงการเจรจาทางการไทยให้ข้อมูลเฉพาะบางส่วนกับบางกลุ่มเท่านั้น ขาดการมีส่วนร่วมและไม่เคยให้ข้อมูลที่ครบถ้วนต่อสาธารณะ และนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกตั้งคำถามถึงธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในการบริหารราชการแผ่นดิน"

"การที่รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความจำนงที่จะลงนามกับรัฐบาลรักษาการอาจถูกมองได้ว่าแสดงท่าทีสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่มบุคคลในฝ่ายบริหารซึ่งทำหน้าที่เพียงรักษาการจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไป"

"ดังนั้น ทางกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลของท่านชี้แจงท่าทีที่ชัดเจนต่อประชาคมโลกและให้ความมั่นใจกับประชาชนไทยว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่ฉวยโอกาสลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) กับรัฐบาลรักษาการ จนกว่าประชาชนไทยจะได้รัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรมเพียงพอ และเริ่มต้นกระบวนการพิจารณาความตกลงฯที่มีการมีส่วนร่วมของประชาชนไทยอย่างแท้จริง และมีการศึกษาถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน ซึ่งนั่นอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพื่อให้คำว่า "ผลประโยชน์ที่แท้จริงกับทั้งสองฝ่าย" เป็นจริง"

เอกสารประกอบ

จดหมายถึงนายกฯญี่ปุ่น ขอทราบท่าทีรัฐบาลญี่ปุ่นต่อกรณีการลงนามในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น