16 ก.ค. 49 น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย เปิดเผยว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนตนได้รับแจ้งจากมารดา ซึ่งอยู่ที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ได้นำหนังสือจากกองปราบปราม ซึ่งลงนามโดยพ.ต.อ.อนาชัย เล็กบำรุง รองผู้บังคับการกองปราบ ส่งไปถึงตน ซึ่งในหนังสือสรุปใจความได้ว่ากรณีที่ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร กับพวกแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น อาศัยอำนาจประมวลกฎหมายความอาญาผู้ต้องหาตามาตรา 52 ขอให้ตนซึ่งมีชื่ออยู่ในกลุ่มแนวร่วมพันธมิตรฯไปพบพนักงานสอบสวนในฐานะพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์ตามรูปคดี โดยให้ไปที่กองปราบในวันที่ 17 ก.ค. 2549 เวลา 10.00 น.

น.ส.วิไลวรรณ กล่าวว่า ในช่วงท้ายของหนังสือยังมีหมายเหตุระบุด้วยว่า การขัดหมายเรียกเป็นเหตุให้ออกหมายจับ ซึ่งภายหลังตนพิจารณาข้อความทั้งหมดพร้อมกับปรึกษาผู้รู้ได้ตัดสินใจที่จะไม่เดินทางไปตามหมายเรียก เพราะที่ผ่านมาทั้งตนและพันธมิตรฯไม่ได้ทำอะไรผิด และการออกไปชุมนุมถือว่าเป็นหนทางของกระบวนการประชาธิปไตย แต่ที่รู้สึกไม่ดีเลยคือแทนที่หมายเรียกครั้งนี้จะส่งมาให้ตนโดยตรง เพราะทุกฝ่ายต่างทราบกันดีว่าตนทำงานอยู่ในเมืองมาหลายสิบปี แต่กลับจงใจส่งหนังสือให้มารดาซึ่งมีอายุมากแล้ว

"ดิฉันมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากเป็นความพยายามคุกคามของรัฐบาล ทราบมาว่านอกจากดิฉันแล้ว ยังมี น.ส.กชวรรณ ชัยบุตร เลขาธิการ สนนท.ที่ถูกหมายเรียกเช่นกัน ที่สำคัญตำรวจที่ไปส่งหนังสือยังขอเบอร์โทรศัพท์มือถือของดิฉันด้วย เขาทำอย่างนี้ทำให้แม่และคนในครอบครัวเสียความรู้สึก เป็นวิธีการที่ไม่ควรทำ และตัวดิฉันเองก็ไม่รู้จะไปเป็นพยานอะไร เพราะไม่เห็นมีใครทำอะไรผิด"น.ส.วิไลวรรณ กล่าว

....................................................

ที่มา : เดลินิวส์