ภาพจากสำนักข่าว AP
อาเมียร์ เปเรตซ์ (Amir Peretz) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิสราเอลแถลงการณ์ในวันที่ 19 ก.ค. 49 ว่ารัฐบาลอิสราเอลไม่มีเจตจำนงที่จะยุติปฏิบัติการทางทหารในเลบานอนจนกว่ากองกำลังฮิซบอลลาห์จะพ่ายแพ้ และรัฐมนตรีเปเรตซ์ยังกล่าวประณามฮิซบอลลาห์ที่ยิงขีปนาวุธเข้าโจมตีเมืองไฮฟาของอิสราเอล เป็นเหตุให้มีพลเมืองเสียชีวิตนับสิบรายด้วย
อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศของอิสราเอลยังคงบุกเข้าไปทิ้งระเบิดในเมืองเบรุตซึ่งเป็นเมืองหลวงของเลบานอน และยังคงโจมตีเมืองเทียร์ (Tyr) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเลบานอน และเป็นพื้นที่ที่กองกำลังฮิซบอลลาห์รวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่น และรายงานล่าสุดแจ้งว่ายอดผู้เสียชีวิตในเลบานอนมีจำนวนกว่า 300 ราย รวมถึงผู้บาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน
ทางด้านรัฐบาลของนานาประเทศที่มีประชาชนตกค้างอยู่ในเลบานอน อาทิ อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา ไทย และสหรัฐอเมริกา ต่างพากันเร่งอพยพประชาชนของตนออกจากเลบานอนทั้งทางรถและทางเรือ แต่ก็ประสบปัญหาอยู่บ้าง เนื่องจากท่าเรือที่เบรุตคับคั่งไปด้วยเรือจากหลายแห่ง เพราะขณะนี้เลบานอนได้กลายเป็นเขตสงครามไปแล้ว การนำประชาชนออกมาจากประเทศที่ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางทหารจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก
ส่วนข้อกล่าวหาที่สื่อมวลชนและกลุ่มประเทศอาหรับคัดค้านอิสราเอลที่ใช้กำลังเข้าโจมตีเลบานอน ทั้งที่สาเหตุความขัดแย้งมาจากกองกำลังฮิซบอลลาห์ ซึ่งเป็นเพียงกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ชาวเลบานอนทั้งหมดนั้น รัฐมนตรีเปเรตซ์ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของวายเน็ตนิวส์ว่า
"เราตั้งใจจะแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าเราจะไม่มีทางยุติสถานการณ์สู้รบครั้งนี้เด็ดขาด เราจะยืนหยัดจนกว่าเราจะได้เห็นว่าฮิซบอลลาห์ไม่มีทางกลับมาผงาดที่ชายแดนภาคใต้ของเลบานอนอีก ธงของฮิซบอลลาห์จะไม่มีวันถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสา และรัฐบาลเลบานอนที่มีอำนาจในการปกครองประเทศ ต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในดินแดนของตนเองด้วย"
ด้วยเหตุนี้ การต่อสู้ระหว่างกองกำลังฮิซบอลลาห์และอิสราเอลจึงไม่มีทีท่าว่ายุติลงง่ายๆ สำนักข่าวบีบีซีของประเทศอังกฤษจึงนำเสนอบทสัมภาษณ์ประชาชนคนธรรมดาที่อาศัยอยู่ในฝั่งอิสราเอลและเลบานอน เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าเสียงระเบิด ควันปืน และขีปนาวุธ มีผลกระทบอย่างไรแก่ผู้คนที่อยู่ทั้งสองฝั่งบ้าง
เสียงจากฝั่งอิสราเอล
กัล โปลินอฟสกี (GAL POLINOVSKY) ประชาชนจากเมืองไฮฟา
"ตอนที่ไฮฟาถูกโจมตีเมื่อวานนี้ (18 ก.ค. 49) ฉันกำลังอยู่พิธีศพของนายทหารคนหนึ่งซึ่งเสียชีวิตไปในระหว่างที่ฮิซบอลลาห์ก่อเหตุลักพาตัวเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เขาเพิ่งจะอายุ 24 ปีเท่านั้นเอง และฉันก็ทำงานที่เดียวกับน้องชายของเขา มันเป็นเรื่องเศร้ามากที่พ่อของเขาต้องมากล่าวไว้อาลัยแก่ลูกชาย"
"นี่เป็นครั้งแรกที่มีจรวดยิงมาโจมตีที่ไฮฟา นับตั้งแต่สงครามอ่าวครั้งที่หนึ่งเกิดขึ้นในปี 91 (พ.ศ.2534) แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เราก็ต้องเจอกับระเบิดพลีชีพอยู่หลายครั้งทีเดียว"
"ฉันทำงานให้กับบริษัทคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ตอนนี้เราได้หยุดงาน และต้องรอว่าเมื่อไหร่จะได้กลับไปทำงานอีกครั้ง ฉันเลยวางแผนว่าจะไปพักร้อนที่ประเทศไทยสักสามอาทิตย์ แต่ฉันก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะถึงเราจะไปได้ และยังมีเที่ยวบินอยู่ แต่ตอนนี้มันก็มีการต่อสู้เกิดขึ้นรอบๆ ตัว มันคงยากที่ฉันจะเดินทางไปในขณะที่ญาติพี่น้องของฉันยังตกอยู่ในอันตราย"
ราฟี ไวน์เบิร์ก-ลิทมัน (RAFI WEINBERG-LITTMAN) ประชาชนจากเมืองคาร์มิเอล (16 ปี)
"วันนี้ (19 ก.ค. 49) มีจรวดโจมตี (จากฝั่งเลบานอน) มากกว่าเดิม ผมนับจรวดได้อีกสี่ลูก มีอยู่ลูกหนึ่งตกใส่บ้านหลังหนึ่ง ทุกอย่างพังราบ และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จรวดลูกหนึ่งตกใส่บ้านอาจารย์ผมด้วย"
"มีหลายคนอพยพจากที่นี่ไปอยู่เมืองหลวง แต่ครอบครัวผมจะอยู่ที่นี่ต่อไป เพราะเราเกิดและโตที่นี่ ผมรู้ว่ามันมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับชาวเลบานอน แต่สำหรับพวกเราชาวอิสราเอล สถานการณ์ที่นี่มันก็ไม่ได้ดีเหมือนอย่างที่พวกคุณจินตนาการไว้หรอก"
"พวกเราใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องใต้ดินของบ้าน เวลาที่มีจรวดยิงข้ามฝั่งมา เราก็จะวิ่งเข้าไปในห้องหลบภัย และอยู่ในนั้นประมาณ 15 นาที เพราะระยะเวลาในการโจมตีส่วนใหญ่จะกินเวลาประมาณนั้น แล้วพอทุกอย่างเงียบไป เราก็จะออกมาจากห้อง"
"ถ้าเป็นเวลาปกติ ตอนนี้ผมคงได้ไปออกกำลังกายที่โรงยิม เล่นบาสเกตบอลที่สนาม หรือไม่ก็ออกไปเจอเพื่อนๆ ตอนนี้ผมได้แต่นั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์อย่างเดียว"
เสียงจากฝั่งเลบานอน
เอดมันด์ คูรี (
"นับตั้งแต่มีการก่อตั้งรัฐอิสราเอลขึ้นมา พวกเรา (ชาวเลบานอน) ต้องสูญเสียอะไรไปมากมาย อีกสองปีข้างหน้าก็จะครบรอบ 60 ปี (สงครามแย่งชิงดินแดนระหว่างเลบานอนและอิสราเอล) แต่ทำไมประชาคมโลกถึงไม่เข้ามาช่วยกันหาทางแก้ไขนี้อย่างจริงจังเสียที เพราะสิ่งที่พวกเราต้องการมากที่สุดก็คือความสันติสุขในตะวันออกกลาง"
"แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ชาวเลบานอนก็ยังต้องทนทุกข์ทรมานหลังจากที่อิสราเอลบุกเข้าโจมตีเมื่อหลายสิบปีก่อน และเราคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากเตรียมตัวให้พร้อมกับความเจ็บปวดครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น"
"มีคำกล่าวที่ว่า "อย่าแหย่เสือหลับ เพราะคุณอาจจะถูกมันกินได้" และตอนนี้เราจะหวังอะไรได้อีก"
วาลิด นาสรัลลาห์ (Walid Nasrallah) 50 ปี, ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัย
"ผมได้แต่นั่งนิ่งอยู่กับบ้าน ไม่กล้าออกไปเดินเพ่นพ่านข้างนอก และพวกเราก็จะนั่งล้อมวงกันหน้าทีวีเพื่อรอฟังข่าว"
"ถ้าผมเป็นพวกฮิซบอลลาห์ ผมคงจะไม่ลักพาตัวทหารอิสราเอลทั้งสองนาย แต่ตอนนี้เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว มันคงไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเรา-ชาวเลบานอน ที่จะกล่าวโทษการกระทำนี้"
"เราตกอยู่ในสถานการณ์ของสงคราม ไม่มีอะไรที่เราจะทำได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว และผมไม่คิดว่าการตัดสินใจของฮิซบอลลาห์ครั้งนี้จะทำให้ชาวเลบานอนลุกขึ้นมาต่อต้านพวกเขา"
"หลายคนพูดว่าอิสราเอลตอบโต้กลับมาอย่างรุนแรง เป็นเพราะพวกเขารอให้มีข้ออ้างที่เหมาะสมในการบุกเข้าโจมตีหนักๆ อย่างนี้อยู่แล้ว และบางคนก็พูดว่ารัฐบาลเลบานอนพยายามใช้โอกาสนี้พิสูจน์ให้ชาวเลบานอนเห็นว่ามันลำบากยากเย็นแค่ไหนที่เราไม่มีมาตรการรับมือการโจมตีที่เหมาะสมเลย"
"เราทำได้แค่รอดูเท่านั้น ผมเชื่อว่าเรื่องนี้คงไม่สงบในเร็ววันนี้หรอก ผมไม่ห่วงด้วยซ้ำว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมกังวลว่าอีกเดือนหนึ่งข้างหน้าเราจะเป็นอย่างไรต่างหาก"
นาตาลี มาลเฮม (NATHALIE MALHAME) ประชาชนในเบรุต
"คนส่วนใหญ่ รวมถึงฉันด้วย ต่างก็พากันไปซื้ออาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาตุนไว้ทั้งนั้น รวมทั้งเรายังได้เติมน้ำมันจนเต็มถังด้วย แต่สิ่งที่เป็นห่วงกันมากตอนนี้ก็คือว่าเราจะจัดการกับสัตว์เลี้ยงของพวกเรายังไง"
"เมื่อเช้านี้ (18 ก.ค. 49) ฉันคิดว่าอะไรๆ คงจะดีขึ้น แต่แล้วฉันก็ได้ยินข่าวจากวิทยุว่าพวกฮิซบอลลาห์โจมตีอิสราเอลอีกแล้ว ฉันก็เลยวิตกกังวลขึ้นมาอีก"
"ที่จริงแล้ว ฉันเป็นคริสเตียน ฉันอาศัยอยู่ในย่านชาวคริสต์ การกระทำของฮิซบอลลาห์ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะสนับสนุนเลย ฉันคิดว่าพวกเขาเป็นบ้าไปแล้ว และพวกเขาไม่ใช่ตัวแทนของชาวเลบานอนทั้งหมดด้วย"
"เรารู้สึกเสียใจแทนประชาชนผู้บริสุทธิ์ในอิสราเอลที่เสียชีวิตไป ถึงแม้ว่ากองทัพของอิสราเอลจะไม่เคยรู้สึกรู้สาหรือเห็นอกเห็นใจพวกเราที่นี่เลยก็ตาม"
เดนิส นาสซิฟ (DENISE NASSIF) นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน
"ฉัน สามีของฉัน และลูกๆ อีกสามคน มีกำหนดจะบินออกจากจากเบรุตไปอเมริกาในคืนนี้ (18 ก.ค. 49) แต่เราก็ทำไม่ได้ เพราะทหารอิสราเอลระเบิดสนามบินซ้ำแล้วซ้ำเล่า"
"เมื่อคืนนี้เด็กๆ ร้องไห้กันใหญ่ เพราะพวกเขาได้ยินเสียงระเบิดทำลายสะพานข้ามหุบเขาเบกา ที่เชื่อมระหว่างเมืองที่เราอยู่กับกรุงเบรุต แรงระเบิดทำให้กระจกร้าวเลยทีเดียว"
"ที่เมืองบัลเบคก็โดนระเบิดเหมือนกัน เพราะที่นั่นเป็นฐานที่มั่นอีกแห่งหนึ่งของฮิซบอลลาห์ เสียงระเบิดดังตลอดทั้งคืนเลย"
"พวกเราถูกตัดขาดและติดอยู่ในเลบานอน พวกนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ก็ไม่ต่างจากเรานัก"
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)