S.H.A.N. (29 กรกฎาคม 2549) - กะเหรี่ยงคอยาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนยืนยันจะไม่ขอย้ายหมู่บ้านไปอยู่รวมกันตามคำสั่งผู้ว่าฯ และจะไม่อพยพกลับเข้าไปอยู่ในพม่าตามที่พม่าร้องขอก่อนหน้านี้ แต่จะเลือกย้ายเข้าไปในศูนย์อพยพผู้หนีภัยการสู้รบแทน เพราะมีความปลอดภัยอีกทั้งมีโอกาสไปอยู่ในประเทศที่สาม
ตามที่นาย
ซึ่งต่อมานายดิเรก กล่าวว่า หากกะเหรี่ยงคอยาวไม่ยอมย้ายตามคำสั่งและมุ่งหวังจะอพยพไปอยู่ในประเทศที่สามนั้น ทาจังหวัดจะไม่ยอมและจะให้กะเหรี่ยงคอยาวเลือก 3 ทางเลือก คือ1.ย้ายไปอยู่รวมกันที่บ้านน้ำเพียงดิน (บ้านห้วยปูแกง) ที่จังหวัดจัดให้ 2 .หากไม่เลือกข้อ 1 ก็จะต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์ที่พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านปางแทรกเตอร์ และ3. หากต้องการไปอยู่ประเทศที่สาม จะต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์ที่พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบอย่างน้อย 10 ปี หรือถ้าไม่เลือกข้อใดข้อหนึ่งทางจังหวัดก็จะผลักดันกลับไปอยู่ที่ประเทศพม่าดังเดิม ทั้งนี้เป็นรายงานของผู้จัดกรออนไลน์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดเมื่อวานนี้(28 ก.ค.) สำนักข่าวกันตาระวดีไทม์รายงานว่า กลุ่มกะเหรี่ยงคอยาวยืนยันว่าจะขอย้ายเข้าไปอยู่ในศูนย์อพยพผู้หนีภัยการสู้รบแทนการย้ายไปอยู่ที่บ้านห้วยปูแกงตามคำสั่งของผู้ว่าฯ โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้ชีวิตของพวกเขามีความปลอดภัยอีกทั้งจะมีโอกาสไปอยู่ในประเทศที่สามด้วย พร้อมยืนยันด้วยว่า จะไม่อพยพกลับเข้าไปอยู่ในพม่าตามที่พม่าร้องขอก่อนหน้านี้ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในพม่ายังไม่สงบ
ทั้งนี้ กะเหรี่ยงคอยาวกลุ่มนี้เป็นผู้หนีภัยการสู้รบจากประเทศพม่าเข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนประมาณ พ.ศ. 2529 ปัจจุบัน จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้หนีภัยการสู้รบจากประเทศพม่าอยู่ประมาณ 50,000 กว่าคน โดยอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน อ.ขุนยวม และอ.สบเมย
--------------------------------------------------------------------------------
ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ข่าวสาละวิน (Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ chuem@cm.ksc.co.th และ snn_news@cm.ksc.co.th พร้อมติดตามอ่านข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าภาคภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org และภาคภาษาไทยใหญ่ได้ที่ www.mongloi.org