Skip to main content
sharethis

2 ส.ค. 2549 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ผ่านมติด้วยคะแนน 14-1 เสียง ให้อิหร่านระงับการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียมและยอมรับข้อเสนอตอบแทนของนานาชาติ ภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ โดยหากฝ่าฝืน อาจเผชิญมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเมือง


 


มติดังกล่าวผลักดันโดยอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี เป็นคำเตือนที่ชัดเจนที่สุดจากนานาชาติ หลังมีการโต้เถียงเรื่องนี้นาน 3 เดือน ทั้งเป็นครั้งแรกที่สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงเห็นพ้องให้ผูกมัดอิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์ หลังจาก รัสเซีย และจีน คัดค้านการลงโทษอิหร่านมาโดยตลอด


 


ทั้งนี้ กาตาร์เป็นสมาชิกหนึ่งเดียวที่ออกเสียงคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้วิกฤตตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น


 


เนื้อหาของมติ 1696 ยังเรียกร้องให้อิหร่าน "ระงับกิจกรรมอันเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเข้มข้นทั้งมวล ตลอดจนการแปรรูปนิวเคลียร์ทั้งหลาย รวมทั้งกิจกรรมในลักษณะการวิจัยและพัฒนา"


 


ถ้าอิหร่านไม่ยอมทำตามภายในเส้นตายสิ้นเดือนนี้ คณะมนตรีจะพิจารณาใช้ "มาตรการที่เหมาะสม" ภายใต้มาตรา 41 ของหมวด 7 ในกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งเท่ากับเป็นการอ้างถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเมือง


 


การอ้างอำนาจตามหมวด 7 แห่งกฎบัตรยูเอ็น ทำให้มตินี้มีอำนาจผูกพันทางกฎหมายซึ่งรัฐสมาชิกทั้งมวลต้องทำตาม อีกทั้งเปิดทางให้แก่การดำเนินมาตรการลงโทษในเวลาต่อไปด้วย อย่างไรก็ตาม เนื้อหาของมติก็ยังไม่ถึงขั้นขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างแน่นอน เนื่องจากจีนและรัสเซียคัดค้าน โดยเรียกร้องให้มีการปรึกษาหารือกันใหม่ ถ้าถึงขั้นจะต้องลงมือทำอะไรแล้ว


 


ด้านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐ กล่าวว่า โลกได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความมั่นใจว่าอิหร่านจะไม่เข้าถึงเทคโนโลยีหรือผลิตอาวุธนิวเคลียร์


 


ขณะที่ดร.คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เผยว่า มติที่ออกมาเป็นความคืบหน้าสำคัญ แต่ไม่ใช่การปิดประตูการทูต เนื่องจากอิหร่านยังสามารถเจรจาเกี่ยวกับข้อเสนอตอบแทนจาก 6 ชาติ


 


นายจาวัด ซาริฟ ทูตอิหร่านประจำยูเอ็น ย้ำจุดยืนเดิมว่าอิหร่านต้องการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ และมติที่ออกมาเป็นความพยายามของสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงบางชาติ ที่ไม่ต้องการเห็นอิหร่านยืนด้วยตนเอง


 


ที่ผ่านมา อิหร่านเผยว่าจะให้คำตอบแผนของคณะมนตรีความมั่นคงในวันที่ 22 สิงหาคม


 


นายวิตาลี เชอร์กิน ทูตรัสเซียประจำยูเอ็น เรียกร้องให้อิหร่านปฏิบัติตามมติอย่างจริงจัง แต่เน้นว่าเป้าหมายของมติ คือ ให้สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ได้รับความร่วมมือจากอิหร่าน เพื่อลดข้อกังขาโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน


 


ทั้งนี้ หัวหน้าไอเออีเอจะต้องรายงานต่อยูเอ็นในวันที่ 31 สิงหาคม ว่าอิหร่านระงับการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียมหรือไม่


 


ด้านบรรดาผู้แทนยุโรป กล่าวว่า ถ้าอิหร่านยอมร่วมมือและระงับกิจกรรมเพิ่มความเข้มข้นยูเรเนียม ก็ยังคงได้ประโยชน์จากแพกเกจผลประโยชน์ที่ฝ่ายตะวันตกเสนอให้ก่อนหน้านี้ อันมีทั้งแรงจูงใจด้านพลังงาน เทคโนโลยี และการพาณิชย์


 


เรียบเรียงจาก เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่นและเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net