5 ส.ค.2549 - นายสุชน ชาลีเครือ รักษาการประธานวุฒิสภา ระบุว่าจะเปิดประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม 2549 เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติและความประพฤติของผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และที่ประชุมใหญ่ ศาลฎีกาก็จะลงมติเลือกผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.จำนวน 10 คน

จากนั้น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะประสานงานกับสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อขอพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ ส่วนการพิจารณาเลือกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 7 ส.ค. 2549 จึงมีความเป็นไปได้ที่จะขอเปิดประชุมเพื่อพิจารณาทั้ง 2 เรื่องในคราวเดียวกัน

โดยนายสุชนกล่าวว่าอยากให้ขั้นตอนดำเนินการเสร็จทันกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค. แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมวุฒิสภาด้วย แม้ว่าวุฒิสภาจะพยายามลดขั้นตอนทางธุรการ แต่ก็ไม่สามารถข้ามขั้นตอนการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อได้ ส่วนระยะเวลาที่คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ จะใช้มากเท่าใด ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่วุฒิสภาจะเป็นผู้กำหนด

ขณะเดียวกัน ประชาชนหลายฝ่ายต้องการให้เลื่อนการตั้งกกต.ออกไปก่อน เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งความคิดดังกล่าวขึ้นอยู่กับความเห็นของแต่ละบุคคล แต่กระบวนการตรวจสอบประวัติฯ เป็นสิ่งที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย จึงไม่สามารถที่จะละเลยได้ และแม้ว่าศาลฎีกาจะเลือกคนที่ดีที่สุดแล้ว แต่กระบวนการตรวจสอบยังมีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอยู่

กรณีที่ศาลฎีกากำหนดให้มีการลงมติเลือก กกต.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 138 (2) และ (3) ในวันเดียวกัน มีนักข่าวตั้งคำถามว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการตีความกระบวนการสรรหาในภายหลังหรือไม่ นายสุชนกล่าวว่า ศาลฎีกาคงพิจารณาประเด็นนี้แล้ว เรื่องนี้จึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งคิดว่าน่าจะทำได้เพื่อเป็นการลดขั้นตอนที่ยุ่งยากทุกอย่างลงมา

ส่วนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ เต็มสภา นายสุชนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะจะทำให้เสียเวลามากขึ้น จึงคิดว่าควรให้คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ ดำเนินการไปตามขั้นตอนจะดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม คงไม่สามารถยืนยันได้ว่าวุฒิสภาจะดำเนินการทุกอย่างเสร็จสิ้นทันเวลาที่พระราชกฤษฎีกากำหนดให้วันเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ส.ค. ได้หรือไม่