Skip to main content
sharethis

ประชาไท—11 ส.ค. 2549 ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาลงมติเลือกผู้สมัครเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จาก 42 คน เหลือ 10 คนแล้ว วานนี้ (10 ส.ค.) โดย 8 ใน 10 เป็นอดีตผู้พิพากษา และทั้งหมดไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานกกต.


 


หลังจากคัดเลือกผู้สมัครเป็น กกต. ได้ 10 คนแล้วศาลฎีกาจะต้องส่งรายชื่อผู้สมัครทั้ง 10 ไปยังวุฒิสภา เพื่อให้วุฒิสภาทำการคัดเลือกเหลือ กกต. 5 คนในที่สุด


 


รายชื่อ ผู้สมัคร กกต. ที่ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีดังนี้


 


 


1.นายอุดม เฟื่องฟุ้ง ผู้พิพากษาอาวุโสศาลอาญากรุงเทพใต้ เกิดวันที่ 10 ต.ค.2481 อายุ 67 ปี การศึกษาจบนิติศาสตร์บัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ เคยเป็นประธานศาลอุทธรณ์ ปี 2540 -2542


 


2.นายวิชา มหาคุณ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา เกิดวันที่ 8 มี.ค.48 อายุ 60 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี จบนิติศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระดับปริญญาโทจบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกันและจบรัฐศาสตร์ภาคบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


 


3.นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา เกิดวันที่ 5 ส.ค.2540 อายุ 59 ปี การศึกษาจบนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


 


4.นายอภิชาต สุขัคคานนท์ เกิด 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2488 อายุ 60 ปี ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา จบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยผ่านการดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 9 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสงขลา อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5และ อธิบดีผู้พิพากษาภาค


 


5.นายสมชัย จึงประเสริฐ อายุ 59ปี ตำแหน่งปัจจุบันจนถึงวันสมัคร- ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา จบนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบเนติบัณฑิตไทย ส่วนประวัติ การทำงานนั้นเคยเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลอุทธรณ์ภาค 3 อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 และอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งเป็นอย่างดี เคยพิจารณาคดีเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามาหลายคดี


 


6.นายประพันธ์ นัยโกวิท รองอัยการสูงสุด เกิดวันที่ 20 ก.พ.2490 การศึกษาจบนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกียรตินิยมดี จบเนติบัณฑิตไทย จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาและจบการศึกษาปริญญาโทจาก ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย ขณะนี้ดำรงตำแหน่งเป็นรองอัยการสูงสุดตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน


 


7.นายสุเมธ อุปนิสากร ผู้พิพากษาอาวุโสประจำศาลอาญากรุงเทพใต้ เกิดวันที่ 9 มี.ค.2481 อายุ 68 ปี การศึกษาจบนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยก่อนเกษียณราชการในปี 2542 ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 7


 


8.นายแก้วสรร อติโพธิ อายุ 55 ปี อดีตวุฒิสมาชิก กทม. จบการศึกษา- นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบเนติบัณฑิตไทย เคยเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2539 และเป็นวุฒิสมาชิก


 


9.นางสดศรี สัตยธรรม ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา อายุ 60 ปี ผ่านการดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลอุทธรณ์ภาค 9 ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ผู้พิพากษาพิจารณาคดีชำนัญพิเศษแผนกคดีปกครองของศาลฎีกา จบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตและมหาบัณฑิตจากจุฬาฯ


 


10.นายนาม ยิ้มแย้ม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาคัดค้านคดีเลือกตั้ง เกิดวันที่ 1 เม.ย.2479 อายุ 70 ปี การศึกษาจบนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และเป็นเนติบัณฑิตไทยจากเนติบัณฑิตยสภา เคยดำรงตำแหน่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุบลราชธานี จันทบุรี และชลบุรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา รวมทั้งเป็นประธานศาลอุทธรณ์ เมื่อเกษียณราชการเป็นที่ปรึกษา กกต. ชุดที่มีนายธีรศักดิ์ กรรณสูต เป็นประธาน


 


นอกจากนี้ยังเป็นอนุกรรมการวินิจฉัยของ ปปช. โดย ดำรงตำแหน่งเป็นประธานอนุกรรมการพิจารณาคัดค้านการเลือกตั้งของ กกต. ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง กกต.-ปัจจุบัน ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงพรรคการเมืองว่าจ้างล้มการเลือกตั้ง โดยคณะอนุกรรมการ ฯ ดังกล่าวสรุปผลให้ กกต. สั่งยุบพรรครวม 5 พรรคการเมือง ซึ่งมีพรรคไทยรักไทยรวมอยู่ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net