Skip to main content
sharethis



ภาพประกอบจาก หนังสือ บนเส้นทางภูบรรทัด ตำนานการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธของประชาชน พัทลุง-ตรัง-สตูล


 


วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2006


ไชยยงค์ มณีพิลึก นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย 


 


ข้อมูลใหม่ที่ พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ระบุถึงสถานการณ์การก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การก่อการร้ายตั้งแต่เหตุปล้นปืนของกองพันพัฒนาที่ 4 หรือ ค่ายปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส จนถึงขณะนี้นั้น เป็นการวางแผนร่วมกันของขบวน การแบ่งแยกดินแดน และพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่ล่มสลายไปแล้ว


 


ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อต้องการทำลายสถาบันของชาติ แยกคนไทยเป็นภาคๆ และทำลายระบบทุนนิยม เพื่อฟื้นระบบคอมมิวนิสต์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้


 


ข้อมูลจากปากของ ผบ.ทบ.ดังกล่าว ไม่เพียงแต่คนไทยทั้งประเทศที่ตกใจและงุนงง แม้แต่หน่วยข่าวทุกหน่วยในพื้นที่ต่างนิ่งเงียบด้วยความตกใจ เพราะถือว่า เป็นข้อมูลใหม่ เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่เกิดความไม่สงบขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังไม่เคยมีหน่วยข่าวไหนของประเทศเคยได้ข้อมูลว่า พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยร่วมมือกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนในการก่อความไม่สงบ โดยเป้าหมายไม่เพียงแต่การแบ่งแยกสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ต้องการทำลายสถาบัน และทำลายระบบทุนนิยม เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงมีการตั้งคำถามกันให้แซด ในหน่วยข่าวทุกหน่วย ถึงข้อมูลใหม่ ที่ ผบ.ทบ.ได้มา


 


โดยข้อเท็จจริง ในการจัดตั้งขบวนการเบอร์ซาตูที่มี ดร.วันอับดุลกอเดร์ เจะมาน เป็นประธาน เพื่อเป็นองค์กรนำในการแบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ผู้ที่ร่วมในการก่อตั้งคือ คนของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และในการก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2547 เป็นต้นมานั้นได้ฝ่ายยุทธการของขบวนการบีอาร์เอ็น โคออดิเนต มาวางแผนในการต่อสู้จัดตั้งสงครามกองโจรในชุมชนเมือง การฝึกวิธีการก่อวินาศกรรม ซุ่มโจมตีและตั้งหน่วยพยาบาล เพื่อรักษาผู้บาดเจ็บจากการสู้รบมาจากสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มลายาเชื้อสายมุสลิม การเข้ามาเกี่ยวข้องของพรรคคอมมิวนิสต์ กับขบวนการแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงมีเพียงสองส่วนเท่านั้นที่มีข้อมูลชัดเจน


 


ข้อมูลใหม่ ที่ ผบ.ทบ.นำมาพูดถึง อาจจะได้มาจากอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเคยมีบทบาทในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในภาคใต้ รุ่นเดียวกับ สุรชัย แซ่ด่าน ที่หลังจากการล้มสลายของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อดีตผู้นำ พคท.ในเขตงานสุราษฎร์ธานี และนครศรี ธรรมราชบางส่วน มาทำงานการข่าวและมวลชนให้กับตัวบุคคลในกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 4 มาโดยตลอด ทั้งในยุคของพล.อ.หาญ ลีนานนท์ พล.อ.กิตติ รัตนฉายา และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และขณะนี้ อดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กลุ่มเก่าๆ กลุ่มนี้ ยังคงเกาะติดอยู่กับตัวบุคคลบางคน ในกองทัพ เพื่อทำงานในด้าน "การเมือง" และ "การข่าว"


 


โดย หน่วยข่าวทุกหน่วยของภาคใต้ต่างวิเคราะห์ว่า ข้อมูลใหม่ที่พล.อ.สนธินำมาเปิดเผยครั้งนี้ ยังเป็นข้อมูลที่ต้องหาข้อเท็จจริง เพื่อความเป็นไปได้เพื่อเป็นข้อมูลใหม่ที่ยัง "สับสน" ของที่มา โดยเฉพาะหากมาจากอดีตแกนนำ พคท.ที่เคยเกาะติดกับตัว "บุคคลไของกองทัพภาคที่ 4" ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมามี "บุคคล" หลายคนในกองทัพเคยตกเป็น "เหยื่อ" มาแล้ว แต่ถ้าข้อมูลใหม่ ที่ พล.อ.สนธิ ออกมาพูดเป็นเรื่องจริง ปัญหาของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คงจะยิ่งเลว ร้ายรุนแรงมากยิ่งขึ้น และเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการก่อการร้ายในประเทศเท่านั้น


 


ในขณะที่มีการเชื่อกันว่า การออกมาเปิดประเด็นเรื่องพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยฟื้นคืนชีพของ ผบ.ทบ. เป็นการนำเอาเรื่องการแบ่งแยกดินแดนของขบวนการก่อการร้ายในสามจังหวัด ไปโยงกับความแตกแยกของประชาชนในประเทศ และการบ่อนทำลายสถาบันหลักๆ ของประเทศ เพื่อปรามนักการเมืองบางกลุ่ม ที่ยังพยายามเดินเกมสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสถาบันหลักๆ และประชาชนในแต่ละภาคของประเทศไทย ให้หยุดการกระทำดังกล่าว ก่อนที่ประเทศชาติจะเสียหาย และสูญเสียที่รุนแรงมากกว่านี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net