Skip to main content
sharethis

ชายแดนภาคใต้—23 ส.คง 2549 หวั่นกระทบธุรกิจลูก - หลาน อดีตเลขาฯใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์มลายา "เฉินผิง" ออกโรงปฏิเสธ "อดีตจคม." ไม่มีเอี่ยวขบวนการป่วนใต้ เตรียมเปิดแถลงข่าวใหญ่เร็วๆ นี้ แพทย์เผยโอกาสรอด "จูหลิง" ริบหรี่ จับแก๊งค้ายาเสพติดชายแดนใต้ ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 5 ล้าน


 


อดีตจคม.โต้ไม่เกี่ยวป่วนใต้


นายวุฒิกร บุญนำ ประธานเครือข่ายประชาชนพิทักษ์รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า หลังจากผู้นำกองทัพของไทยออกมาระบุมีอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มลายา เข้าไปมีส่วนร่วมกับการก่อสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้อดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์มลายาไม่สบายใจอย่างมาก


 


นายวุฒิกร เปิดเผยต่อไปว่า ขณะนี้ นายเฉินผิง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มลายา ซึ่งพำนักอยู่ในมาเลเซีย เตรียมจะเดินทางมาเปิดแถลงข่าวชี้แจงในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้รับทราบว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตอนนี้อดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์มลายา ทั้งที่อยู่ในไทยและในมาเลเซีย กำลังประสานงานกันอยู่ โดยนายเฉินผิงอาจจะเดินทางมาแถลงเอง หรือมอบหมายให้อดีตรองเลขาธิการพรรคคนใดคนหนึ่งแถลงแทน


 


นายวุฒิกร กล่าวอีกว่า นายเฉินผิงยืนยันว่า ความเคลื่อนไหวในนามพรรคคอมมิวนิสต์มลายา ได้ยุติไปตั้งแต่มีการเจรจายุติสงคราม ภายใต้นโยบาย 66/2523 โดยมีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธาน มีการลงนามในข้อตกลง 8 ประการ กับรัฐบาลไทย เช่น เรื่องการให้สัญชาติไทยและที่อยู่อาศัย สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มลายาที่มีอยู่ทั้ง 3 กรม คือ กรม 8 อยู่ที่เขาน้ำค้าง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา กรม 10 อยู่ที่อำเภอยะหา จังหวัดยะลา และกรม 12 อยู่ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ประมาณ 2,000 คน จึงสลายตัว โดยส่วนหนึ่งไปอยู่ที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ส่วนที่อยู่ในไทยประมาณ 600 คน ดังนั้น การเคลื่อนไหวในนามพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาจึงไม่มีอีกแล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวบุคคล   นายเฉินผิง ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เข้าไปมีส่วนร่วมสร้างสถานการณ์ความรุนแรงหรือไม่


 


"สิ่งที่อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาเป็นห่วง ก็คือ เครือข่ายที่เป็นลูกหลานของอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มลายา ที่ปัจจุบันหันไปเอาดีทางด้านธุรกิจ เช่น ทำธุรกิจทัวร์เชื่อมโยงวัฒนธรรมไทย - จีน จะได้รับผลกระทบจากข่าวที่ออกมา" นายวุฒิกร กล่าว


 


ดักยิงชาวบ้านสามีดับ-ภรรยาเจ็บ


เวลา 12.50 น. วันเดียวกัน ขณะที่นายนิพนธ์ ชาติมนตรี อายุ 36 ปี และนางจำเนียน ชาติมนตรี อายุ 23 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 6 ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ กลังจากซื้อของที่ตลาดนัดอำเภอบันนังสตา เมื่อมาถึงหมู่บ้านบือซู หมู่ 6 ตำบลบันนังสตา มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด ยิงนายนิพนธ์ เสียชีวิตคาที่ ส่วนนางจำเนียนอาการสาหัส จากนั้นคนร้ายได้ยึดเอาปืนพกสั้นของนายนิพนธ์ พร้อมจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป


 


"ครูจูหลิง" โอกาสริบหรี่


สำหรับความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของครูจูหลิง ปงกันมูล ครูโรงเรียนกูจิงลือปะ จังหวัดนราธิวาส ที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์แถลงว่า ยังคงไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา สมองยังไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น ความหวังที่จะรอดชีวิตริบหรี่


 


ส่วนอาการของนายฟัครุดดีน บอตอ รักษาการสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนราธิวาส ที่ถูกยิงได้รีบบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เช่นกัน สภาพร่างกายเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ แต่แพทย์ยังคงเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ


 


มอบเงินช่วยเหยื่อไฟใต้


วันเดียวกัน นายณฐพลฒ์ วิเชียรเพริศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์เยียวยาฯ จังหวัดยะลา เดินทางไปพบนางรอสือเมาะห์ วาแมดีซา ภรรยาของนายซูดิง วาแมดีซา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลกายูบอเกาะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ที่ถูกกลุ่มก่อความไม่สงบยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2549 ที่บ้านพักตำบลท่าธง อำเภอรามัน เพื่อให้กำลังใจและมอบเงินโครงการเยียวยาผู้ประสบภัยจากสถานการณ์การก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 150,000 บาท จากทั้งหมด 500,000 บาท


นายณฐพลฒ์ กล่าวว่า ทางราชการจะดูแลครอบครัวผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะจะช่วยเหลือการศึกษาบุตรจนจบชั้นสูงสุด ส่วนภรรยาจะได้รับการช่วยเหลือตามโครงการจ้างงานเร่งด่วน 4,500 บาทต่อเดือน ขณะเดียวกัน ตนได้กำชับให้นายอำเภอทุกอำเภอแจ้งกำนัน - ผู้ใหญ่บ้านให้เข้มงวดดูแลความปลอดภัยพ่อค้าเร่อย่างใกล้ชิด พร้อมกับประสานกองกำลังในพื้นที่ ช่วยกันดูแลความปลอดภัยอีกทางหนึ่งด้วย


 


จับแก๊งค้ายาบ้านราฯยึดทรัพย์5ล้าน


เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม 2549 ทางตำรวจได้ติดต่อล่อซื้อยาบ้า จากนายยาการียา กาเจ อายุ 53 ปี และน.ส.สุวรรณา กาเจ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 7 ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส


 


เมื่อถึงเวลานัดหมาย น.ส.สุวรรณาได้ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน กข - 4866 นราธิวาส ไปพบสายของตำรวจ ที่หน้าโรงแรมฮาวาย ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส โดยวางถุงดำไว้ที่เท้าคนขับ ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ตรวจสอบพบว่าภายในถุงดำ มียาบ้าบรรจุถุงพลาสติกสีฟ้า 10 ถุง 2,000 เม็ด


 


จึงควบคุมตัวน.ส.สุวรรณา ไปยังบ้านเลขที่ 139/6 หมู่ 5 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก - ลก จากการตรวจค้นพบถุงกำมะหยี่สีแดงในตู้เสื้อผ้า ภายในมียาบ้าบรรจุถุงพลาสติกสีฟ้าอีก 10 ถุง 2,000 เม็ด และพบสิ่งของอื่นๆ อีกหลายรายการ เช่น บัตรประชาชนของน.ส.สุวรรณา ทั้งไทยและมาเลเซีย, สมุดธนาคารไทยและมาเลเซีย, เงินสดไทยและมาเลเซีย, รถยนต์ 4 คัน, รถจักรยานยนต์ 4 คัน จึงยึดไว้เป็นของกลางมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ส่วนยอดเงินในสมุดธนาคารทั้งไทยและมาเลเซียยังไม่ได้ตรวจสอบ


 


ทั้งนี้ ขบวนการค้ายาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกตั้งข้อสงสัยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net