โดย ศูนย์ข่าวประชาสังคม อุบลฯ

เครือข่ายจริยธรรมทางสังคมและการเมือง ร่วมกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จัดสัมมนาเวทีสาธารณะ "นิติรัฐกับสังคมอยู่เย็นเป็นสุข" มีประชาชนชาวอุบลฯ ให้ความสนใจเข้ารับฟังกว่า 300 คน ขณะที่นักวิชาการ ชี้ประชาชนควรมีความรู้ด้านกฎหมายบ้าง

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2549 เวลา 09.00 น. เครือข่ายจริยธรรมทางสังคมและการเมือง มูลนิธิสื่อสร้างสรรค์ ศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมัชชาสุขภาพ จัดสัมมนาเวทีสาธารณะ " นิติรัฐกับสังคมอยู่เย็นเป็นสุข" ขึ้นที่ศาลาวัดเลียบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยมีนายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ รักษาการสมาชิกวุฒิสภา จ.อุบลราชธานี ร่วมเสวนาในครั้งนี้ด้วย

สืบเนื่องจากสถานการณ์ปัญหาในสังคมที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาวะของชุมชนทั้งในด้านความเป็นอยู่ การดำรงชีวิต ด้านทรัพยากร ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมการศึกษาและด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในชุมชน เริ่มปรากฏขึ้นให้เห็นตามชุมชนต่าง ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนในชุมชนขาดความความรู้ความเข้าใจทางด้านกฎหมาย ส่งผลให้อำนาจรัฐบางอย่างเข้ามามีส่วนทำให้ชุมชนเกิดความแตกแยกนำไปสู่ปัญหาที่รอการแก้ไข อาจารย์อินทิรา ซาฮีร์ อาจารย์ประจำคณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวในเวทีสัมมนาสาธารณะ "นิติรัฐกับสังคมอยู่เย็นเป็นสุข " ว่า มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสังคมที่แสดงออกให้เห็นถึงความขัดแย้ง โดยภาครัฐที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นผู้นำโครงการต่าง ๆ ลงสู่ท้องถิ่นเข้าใจว่า เป็นการนำความเจริญมาให้กับบุคคลในชุมชน โดยไม่ตระหนักถึงความต้องการของของชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งตามหลักประชาธิปไตยแล้วอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนที่สามารถแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ ที่ผู้นำท้องถิ่นหรือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ เพราะหากผู้น้ำและคนในชุมชนมีความคิดที่สอดคล้องกันและร่วมเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นความขัดแย้งที่เป็นตัวบั่นทอนความเจริญในสังคมก็จะไม้เกิดขึ้น

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บรรเจิด สิงคเนติ กล่าวว่า นิติรัฐกับสังคมอยู่เย็นเป็นสุขนั้น เป็นรูปแบบของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ การที่มีโครงการภาครัฐลงไปพัฒนายังชุมชนนั้นบางโครงการเป็นการพัฒนาที่อีกฝ่ายได้รับผลกระทบซึ่งภาครัฐเองต้องมาศึกษาถึงความเป็นไปได้ของโครงการ เนื่องประเทศไทยเป็นชุมชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งโครงการที่จะนำมาพัฒนาต้องสอดคล้องกับชุมชนและความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นหลักในการตัดสินใจ ในขณะเดียวกันคนในชุมชนเองก็ควรที่จะเรียนรู้ข้อกฎหมายที่ใกล้ตัวไว้ด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อจะได้นำไปใช้หากไม่ได้รับความเป็นธรรมในกรณีที่ตนเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และศาลก็ถือเป็นสถาบันที่สามารถให้ความเป็นธรรมในสังคมให้แก่ประชาชนได้

การจัดสัมมนาเวทีสาธารณะ " นิติรัฐกับสังคมอยู่เย็นเป็นสุข" ในครั้งนี้มีประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานีที่สนใจเข้าร่วมรับฟังกว่า 300 คน ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ ซึ่งมีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และรักษาการสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ รวมทั้งตัวแทนภาครัฐและเอกชนอื่น ๆ ที่สนใจเข้าร่วมเวทีเสวนาในครั้งนี้ด้วย