Skip to main content
sharethis

โดย สำนักข่าวประชาธรรมอุดรธานี


 


31 ส.ค. 2549 เมื่อวันที่ 30 ส.ค. เวลา 10.00 น. แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการจังหวัดอุดรธานีระบุว่า เจ้าพนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องคดีแกนนำชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี จำนวน 5 คน ในข้อกล่าวหาฐานร่วมกันบุกรุก ซึ่งคาดว่าจะมีหมายเรียกจากศาลภายในเร็ววันนี้


 


สืบเนื่องจากขั้นตอนดำเนินการรังวัด ปักหลักหมาย เขตพื้นที่เหมืองแร่ และโรงแต่งแร่ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา  กลุ่มชาวบ้านได้เข้าไปทำการคัดค้านและขัดขวาง จนทำให้แกนนำชาวบ้านทั้ง 5 คน ถูก บริษัทเอเชีย แปซิกฟิก โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) แจ้งความดำเนินคดี ในข้อกล่าวหาฐานร่วมกันบุกรุก และทำให้เสียทรัพย์  ซึ่งในเวลาต่อมา บริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลล็อปเมนต์ จำกัด ได้เข้าซื้อหุ้นต่อจาก บริษัทเอพีพีซี เพื่อดำเนินการขอสัมปทานโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี จึงได้รับช่วงคดีความต่อด้วย


 


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนของ บริษัทอิตาเลี่ยนไทย  ดีเวลล็อปเมนต์  จำกัด นำโดย น.ส.ประพิมพรรณ สุดชูเกียรติ ได้ทำการแถลงข่าวถึงการถอนแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ 5 แกนนำชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่ห้องประชุมคำชะโนด ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี พร้อมทั้งเชื้อเชิญ นายจารึก ปริญญาพล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มาเป็นประธาน


 


ผู้สื่อข่าวได้รายงานความคืบหน้าว่า หลังจากที่มีการแถลงข่าวแล้ว ตัวแทน บริษัทอิตาเลี่ยนไทย ได้ดำเนินการถอนแจ้งความในข้อกล่าวหาหมิ่นประมาท และทำให้เสียทรัพย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังเหลือข้อกล่าวหาร่วมกันบุกรุก เนื่องจากว่าเป็นความผิดต่อแผ่นดินซึ่งไม่สามารถยอมความกันได้ จนในที่สุดสืบทราบว่าเจ้าพนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งให้ฟ้องคดีกับ 5 แกนนำชาวบ้านในข้อกล่าวหาที่เหลืออยู่


 


โดยนางมณี บุญรอด รองประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า การแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 ส.ค.คือการจัดฉากของบริษัทฯ ร่วมกับผู้ว่าฯ เพื่อซักฟอกตนเองต่อสาธารณชนให้เห็นว่ายอมถอยหรือทำทุกอย่างเพื่อเอาใจชาวบ้านแม้แต่การยอมถอนคดีความ  แต่ทั้งนี้กลับแฝงเร้นด้วยกลโกง ความไม่จริงใจ เนื่องจากว่ารู้ทั้งรู้ว่าคดีร่วมกันบุกรุกเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่สามารถยอมความกันได้  ถึงแม้ว่าตัวผู้เสียหายจะยอมความแล้วก็ยังไม่สิ้นสุด แต่อย่างไรก็ดี หากว่าบริษัทฯ และผู้ว่าฯ ต้องการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งกับชาวบ้านจริงก็สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นไปได้ แต่นี่กลับเก็บไว้เพื่อเล่นงานชาวบ้าน ซึ่งบริษัทฯ มีแต่ได้กับได้ แล้วโยนบาปให้กับกลุ่มอนุรักษ์ฯ และก็เป็นเช่นนั้นจริงเมื่อทราบข่าวว่าเจ้าพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้อง นางมณีกล่าว 


 


นางมณี ยังกล่าวอีกว่า "ทุกประเด็นที่บริษัทฯ ได้แถลงไป ไม่ว่า จะเป็นการแก้ไขสัญญาให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม, การทำอีไอเอใหม่, การยกเลิกการรังวัดเดิม, และการถอนคดี  พบว่าไม่เคยมีหนังสืออะไรแจ้งมาให้กลุ่มอนุรักษ์ฯ ซึ่งเป็นคู่กรณี ได้ทราบเลย เพียงแต่บอกว่า จะ จะ แล้วก็จะ  จะทำทุกอย่างแต่ไม่เคยเห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา แล้วจะให้ชาวบ้านเขาเชื่อใจได้อย่างไร"  นางมณีกล่าว


 


ด้าน น.ส.ประพิมพรรณ  สุดชูเกียรติ  ผู้จัดการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์  โครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย  เปิดเผย  "ตอนนี้ก็ทราบอยู่เหมือนกัน เรื่องเจ้าพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้อง  5  แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ฯ  ซึ่งเราก็ไม่อยากให้ออกมาในรูปแบบนี้  แต่เนื่องจากว่าข้อกล่าวหาร่วมกันบุกรุกเป็นคดีอาญาที่ยอมความกันไม่ได้จึงไม่สามารถถอนแจ้งความได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ได้มีการพูดคุยกับผู้ว่าฯ แล้ว ก็ยังคงยืนยันเหมือนเดิม เพราะไม่อยากขัดแย้งกับชาวบ้านอยู่แล้ว ในเมื่อชั้นนี้ไม่สามารถทำอะไรได้  ทางบริษัทฯ ก็จะยืนยันในชั้นศาลว่ามีความประสงค์จะถอนฟ้องไม่ติดใจเอาความกับชาวบ้าน"  น.ส.ประพิมพรรณกล่าว 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net