ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องที่ พล.ต.ต.
โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า พล.ต.ต.
อย่างไรก็ตาม ในคำสั่งศาลได้ระบุว่า ในการดำเนินคดี ผู้ร้องยังมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้รับทราบข้อกล่าวหาใหม่ได้
วันเดียวกัน ที่ ศาลปกครองสูงสุด นาย ประนัย วณิชชานนท์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ตุลาการเจ้าของสำนวน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด กรณีที่นาย
นอกจากนี้ ยังให้นำมาตรา 96 และมาตรา 97 ที่ให้สมาชิกรัฐสภารวมรายชื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดการสิ้นสุดของตำแหน่งรัฐมนตรีได้ ดังนั้น คดีดังกล่าวจึงไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง ทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้ง 3 ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งต่อมาศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งระบุว่า ศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นพ้องกับเหตุผลของศาลปกครองกลาง และคำอุทธรณ์ที่ระบุว่าหนังสือแจ้งต่อหน่วยงานราชการว่านายกรัฐมนตรีลาพักการปฏิบัติราชการถือเป็นคำสั่งทางปกครองนั้น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าหนังสือดังกล่าวเป็นเพียงหนังสือเวียนแจ้งแก่หน่วยงานราชการเท่านั้น ไม่มีสภาพเป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.ระเบียบวิธีทางปกครอง และคำอุทธรณ์ที่ว่าหากศาลปกครองเห็นว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญก็ขอให้ศาลปกครองส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามมาตรา 266 ของรัฐธรรมนูญ โดยศาลพิเคราะห์แล้วว่า แม้ว่าศาลปกครองจะเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีอำนาจจะส่งเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ แต่กรณีนี้ไม่เป็นความขัดแย้งระหว่างศาลปกครองกับองค์กรใดเลย คำอุทธรณ์จึงฟังไม่ขึ้น ศาลปกครองสูงสุดจึงพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง ให้ยกฟ้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)