เตรียมบูมท่องเที่ยวชาวเขา สำนักพัฒนาการท่องเที่ยวฯ เล็งแม่วางผุดคอมเพล็กซ์ 11 ชนเผ่า ชี้บัญชา "นายกทักษิณ" อีกแล้ว ด้าน อพท.เล็กอมก๋อยลงสำรวจพื้นที่แล้ว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหนุน แต่ขอทำให้ถูกทิศ
การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้วยการชมวิถีชีวิตชนเผ่าเริ่มกลับเข้ามาอยู่กระแสการพัฒนาอีกครั้ง โดยนาย
มีรายงานข่าวว่าสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมโครงการคอมเพล็กซ์ชาวเขาเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโครงการตามดำริของ พ.ต.ท.
รายงานระบุด้วยว่าแนวคิดการสร้างคอมเพล็กซ์ชาวเขาเชียงใหม่นั้น เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวขึ้นมาใหม่ โดยนำชาวเขาแต่ละชนเผ่าจำนวน 11 ชนเผ่าในกลุ่มล้านนามาอยู่รวมกัน เพื่อนำเสนอวิถีชีวิตของแต่ละชนเผ่าให้นักท่องเที่ยวที่มีเวลาจำกัดได้สัมผัสทั้ง 11 ชนเผ่า และยังสามารถพัฒนาเป็นโฮมสเตย์ได้
นาย
"พื้นฐานแต่ละเผ่ามีความแตกต่างกันจะต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เราเพียงคิดเพื่อแก้ปัญหาเชิงสังคมด้วย เมื่อเขาไม่ต้องย้ายลงมาเขตเมืองที่มีวิถีชีวิตแตกต่าง เมื่อมีพื้นที่อยู่ใกล้เคียงกับสภาพเดิมแล้ว หากทำการเกษตรไม่พอ จะเสริมด้วยการท่องเที่ยวเข้าไปพัฒนาและคงความเป็นสังคมชมเผ่าอยู่ได้หรือไม่ ที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่าการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชาวเขาได้รับความสนใจ แต่การเติบโตพัฒนาจะเป็นไปด้วยตัวเอง ซึ่งบางแห่งก็ทำได้ดี บางแห่งก็ผิดที่ผิดทาง
นายบุญเลิศ ยกตัวอย่างของหมู่บ้านชนเผ่าที่บ้านท่าตอนที่ถูกขับไล่จากพื้นที่อื่น และมีมูลนิธิของนายมีชีย วีรไวทยะเข้าไปช่วยพัฒนาให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวยั่งยืน มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น มีพิพิธภัณฑ์ชนเผ่า มีลานกิจกรรมทำให้ชนเผ่ารักษาวิถีของตนเองและมีรายได้ที่เหมาะสม หลักคิดเช่นนี้ที่น่าจะส่งเสริมพัฒนา โดยหากไปจัดระบบการจัดการในพื้นที่เชียงใหม่ในขนาดที่ใหญ่ขึ้นเท่านั้น
นาย
นายสมฤทธิ์ กล่าวถึงหมู่บ้านชาวเขาเชิงนิเวศน์บ้านโต่งหลวงที่กำลังเป็นกรณีมีกะเหรี่ยงคอยาวว่า เดิมเป้นหมู่บ้านเชิงนิเวศน์ที่ทำการเกษตรและมีชนเผ่าปะหล่องจากอำเภอเชียงดาวมาทำงานในด้านการเกษตร ซึ่งได้มีบริษัททัวร์นำนักท่องเที่ยวระดับบนไปชมวิถีชีวิตอยู่เป็นระยะซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะมีความเป็นส่วนตัว และเป็นวิถีชีวิต ขณะเดียวกันมัคคุเทศก์ก็มีความสบายใจที่จะได้นำเสนอถึงข้อมูลว่าชนเผ่านั้นๆ มีวิถีชีวิตในพื้นถิ่นเชียงใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งทิศทางการทำงานของมัคคุเทศก์ ตลอดจนความต้องการของนักท่องเที่ยวเองก็ต้องการมาชมในสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของชนเผ่าต่างๆ และพื้นที่ใดที่เป็นที่ดั้งเดิม นักท่องเที่ยวจะดิ้นรนไปหา เพื่อไปชมความเป็นจริง แต่ระยะหลังมีการนำเข้าชมเผ่าหลายเผ่าเข้ามาที่รากเหง้าถิ่นเดิมไม่ได้อยู่จุดนั้น ในกลุ่มมัคคุเทศก์และผู้ประกอบการก็ไม่สบายใจ และเห็นว่าเสน่ห์ที่แท้จริงได้หางไป
"เส้นทางท่องเที่ยวเดิมควรจะเป็นการดั้นด้นเข้าไปศึกษาชื่นชมในถิ่นที่อยู่ของชนเผ่านั้นจริงๆ ไม่ใช่นำมารวมกันเป็นการค้า เหมือนกับเรานำหมีแพนด้ามาให้ชมที่นี่แล้ว คุณไม่ต้องเดินทางไกลไปเมืองเฉินตู ถ้าเช่นนั้นอีกหน่อยจะมีเผ่าใดไปอยู่ที่ไนท์บาร์ซาร์ก็ได้เช่นนั้นหรือ?"
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)