Skip to main content
sharethis

เนื่องจากวันที่ 11 ก.ย. ในปีนี้เป็นการครบรอบ 5 ปี ของการก่อวินาศกรรมในสหรัฐ หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา "สงคราม"กับ "ก่อการร้าย" ก็เกิดขึ้นอย่างเห็นชัดเจนรู้สึกว่าใกล้ตัวจนแทบสัมผัสได้มาจนถึงวันนี้อย่างไม่มีทีท่าว่าจะสงบได้


 


ในปีนี้แม้จะไม่มีความสูญเสียใหญ่หลวงอย่างเช่นในวันนั้น แต่อาการตกค้างกลับยังคงเด่นชัดในความทรงจำของคนทั้งโลก


 


อเมริกันจัดพิธีรำลึก


พิธีรำลึกครบรอบ 5 ปีเหตุวินาศกรรม 11 ก.ย.ในสหรัฐจะเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 19.46 น. ตามเวลาประเทศไทยพิธีหลัก ๆอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ 3 แห่งคือ กราวด์ซีโร่ เป็นที่ตั้งเดิมของอาคารเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ ในนครนิวยอร์ก ก่อนถูกกลุ่มก่อการร้ายจี้เครื่องบินโดยสาร 2 ลำพุ่งชน ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คน


 


ส่วนจุดที่ 2 จัดขึ้นนอกเมืองแชงค์สวิลล์ รัฐเพนซิลวาเนีย เป็นจุดที่เครื่องบินลำที่ 3 ตกหลังผู้โดยสารช่วยกันขัดขวางสลัดอากาศไม่ให้จี้เครื่องบินโจมตีเป้าหมาย ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องทั้ง 343 คนเสียชีวิต และจุดที่ 3 จัดขึ้นที่กระทรวงกลาโหมในวอชิงตัน เป็นจุดที่เครื่องบินลำที่ 4 ตกใส่เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 184 คน



ส่วนกองกำลังสหรัฐในอัฟกานิสถานก็ได้จัดพิธีรำลึกถึงวันดังกล่าวเช่นกัน แต่ในฟิลิปปินส์ มีผู้ประท้วงออกมาชุมนุมกันตามท้องถนนในกรุงมะนิลา เพื่อต่อต้านนโยบายของสหรัฐในตะวันออกกลาง



อัล-กออิดะห์ขู่โจมตีอิสราเอลและประเทศแถบอ่าวเปอร์เซีย


นายไอมาน อัล-ซาวาฮิรี ผู้นำหมายเลขสองของกลุ่มอัล-กออิดะห์ เตือนว่า อิสราเอลและประเทศแถบอ่าวเปอร์เซียจะเป็นเป้าหมายการโจมตีต่อไปของกลุ่ม อัล-กออิดะห์ คำเตือนนี้อยู่ในวีดิโอชุดใหม่ที่ออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ ในวันที่ 11 ก.ย.



นายซาวาฮิรี กล่าวด้วยว่า แทนที่ประเทศตะวันตกจะห่วงทหารที่ประจำการอยู่ในอิรักและอัฟกานิสถาน สิ่งที่ควรจะห่วง อันดับแรกคือชาติตะวันตกจะถูกขับไล่ออกจากอ่าวเปอร์เซีย และเศรษฐกิจจะถูกทำลาย ส่วนประการที่สองก็คืออิสราเอล


 


นายซาวาฮิรีถูกตั้งเงินรางวัล 25 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับผู้ให้ข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมตัวเขาไม่ว่าจับเป็นหรือจับตาย



ผู้นำในอาเซมร่วมไว้อาลัยเหยื่อวินาศกรรม 11 ก.ย.


ในวันนี้เช่นกัน บรรดาผู้นำทั้ง 38 ชาติจากทวีปเอเชียและยุโรปร่วมกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัยเป็นเวลาประมาณ 1 นาที ให้กับเหยื่อผู้สังเวยชีวิตจากเหตุวินาศกรรมอาคารเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ในนิวยอร์ก ระหว่างการประชุมอาเซมที่กรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์


 


นอกจากนี้ยังมีแถลงการณ์จากสหภาพยุโรป (อียู) ระบุว่าการโจมตีอาคารเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า การก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามต่อทั้งรัฐและชาวโลกทุกคน ขณะที่ผู้นำของทุกชาติต่างก็ให้คำมั่นว่าจะยังคงร่วมมือกันเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายต่อไป



ปากีสถานไม่ประมาทเข้มรักษาความปลอดภัยในที่สำคัญ


ในวันนี้ทางการประเทศปากีสถานเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตามสถานที่สำคัญของชาวต่างชาติในปากีสถาน โดยส่งกำลังตำรวจเพิ่มเติมไปประจำการตามจุดสำคัญต่าง ๆ


 


เจ้าหน้าที่ปากีสถาน กล่าวว่า การเพิ่มการรักษาความปลอดภัยมีขึ้นที่ท่าอากาศยาน ศูนย์บัญชาการทหาร สถานทูต และสถานที่สำคัญต่าง ๆ นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ตำรวจและทหารเพิ่มการคุ้มกันนครการาจี ศูนย์กลางด้านการพาณิชย์และเมืองใหญ่สุดของปากีสถาน ที่เคยเกิดเหตุระเบิดและความรุนแรงหลายครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังรักษาความปลอดภัยบริเวณร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังและสถานทูตต่างชาติ รวมถึงพื้นที่เสี่ยงภัยด้วย


 


จีนระบุสหรัฐยังไม่จำบทเรียน


หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี ของทางการจีนรายงานว่า สงครามกวาดล้างการก่อการร้ายที่สหรัฐเปิดฉากขึ้น โดยเฉพาะสงครามในอิรัก เพื่อตอบโต้เหตุวินาศกรรม เป็นความผิดพลาด นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี บอกว่า "วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้วเป็นวันหายนะของมนุษยชาติ แต่น่าเศร้ายิ่งกว่าที่บางคนไม่ได้รับบทเรียนจากโศกนาฏกรรมครั้งนั้น"



นิวยอร์กไทม์เผยไทยเป็นที่สอบปากคำ "อัล-กออิดะห์"


เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นิวยอร์กไทม์รายงานว่าหลังเกิดเหตุการณ์ 911 หน่วยงานลับของสหรัฐได้จับกุมตัว นายอาบู ซูเบด้า ผู้ช่วยของ อุซามะฮ์ บินลาดิน หัวหน้าเครือข่ายอัลกออิดะห์ จากประเทศปากีสถาน นำมาควบคุมตัวที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งในประเทศไทย เมื่อปี 2549 โดยระบุว่าระหว่างที่ถูกสอบปากคำ นายซูเบดา ถูกทรมานจนร่างกายสาหัส และเสียชีวิตในที่สุดนั้น


 


อย่างไรก็ตาม นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องนี้เพียงสั้นๆ ว่ายังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้ แต่ยอมรับว่า ประเทศไทยมีความร่วมมือที่ดีต่อมิตรประเทศด้านต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ ในลักษณะของความร่วมมือที่เหมาะสมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องตรวจสอบข้อมูลกับประเทศที่เกี่ยวข้องต่อไป


 


นอกจากนี้นายกิตติ ยังปฎิเสธข่าวและข้อมูลที่บ่งชี้ว่า มีคุกลับในประเทศไทย ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานตรวจสอบข้อมูลไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งข่าวกรองและทางทหาร อีกทั้งได้มีการพูดคุยในระดับสูงแล้ว ต่างยืนยันว่าไม่มีคุกลับในไทย


       

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net