26 ก.ย. 2549 เมื่อวันที่ 25กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 15 ว่า พายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้ เมื่อเวลา 16.00น.ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามและเคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาวแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 80 กม. ทางตะวันออกของ จ.หนองคายและกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหลของ จ.เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลกและจ.เพชรบูรณ์ ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ 

อนึ่ง ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำสายต่างๆ ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกซึ่งได้แก่บริเวณจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา ปราจีนบุรี และสระแก้ว ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่งต่อไปอีกระยะหนึ่งเนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีฝนตกสะสมจำนวนมาก

วันเดียวกัน กรมทรัพยากรธรณี ออกประกาศฉบับที่48/2549 เตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภูเขาสูงและหมู่บ้านในหุบเขาบริเวณ จ.เลย เพชรบูรณ์ พิษณุโลก แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย น่าน พะเยา เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชรและจังหวัดใกล้เคียง เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ1-2วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งได้เกิดรอยแยกบนภูเขาและดินไหลมาแล้ว ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ซึ่งอาจมีดินไหลหรือหินร่วงมาปิดทับเส้นทาง 

ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)กล่าวว่า ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนที่ไหลเข้า กทม. มีปริมาณสูงขึ้นมาก ประมาณ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ กทม. ยังรับได้หากไม่เกิน2,500-3,000ลูกบาศก์เมตร โดยจะประสานกรมชลประทานให้เร่งระบายน้ำออกโดยเร็ว เพื่อไม่ให้พื้นที่ชั้นใน กทม.มีปัญหา

แต่หากฝนตกมากอย่างที่กรมอุตุฯพยากรณ์ไว้ในช่วง 2-3 วันข้างหน้า โดยเฉพาะวันที่ 28กันยายน จะมีน้ำทะเลหนุนสูงด้วยนั้น จะทำให้พื้นที่ชั้นในจุดที่น้ำท่วมเป็นประจำได้รับผลกระทบ กทม.จึงวางกระสอบทรายกั้นริมฝั่งเจ้าพระยาไว้ 2 แสนใบ 

ขณะที่ นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า หากภายใน 2-3วันนี้ ฝนยังไม่หยุดตก จะส่งผลกระทบต่อ กทม.และพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำอย่างแน่นอน ดังนั้น วันที่ 26กันยายนนี้ จะเรียกประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์น้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ศาลากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะต้องแก้ไขปริมาณน้ำใน จ.อยุธยา ให้ลดก่อน เนื่องจากขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤติ

อย่างไรก็ตาม พื้นที่เสี่ยงของกทม.ที่ยังต้องท่วมอยู่ แม้ว่าปริมาณน้ำที่ไหลลงจะลดลงแล้วก็ตาม ได้แก่ พื้นที่เขตหนองจอก มีนบุรี และ จ.สมุทรปราการ แต่ยืนยันว่าที่สนามบินสุวรรณภูมิจะไม่มีน้ำท่วมแน่นอน เพราะมีระบบระบายน้ำลงคลองถึง 17สาย 

ส่วนนายสุวิทย์ คณีกุล ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต12 รับผิดชอบพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมไว้เรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไว้24ชม.รวมทั้งการเปิดบริการสายด่วนหมายเลข1784 อีกด้วย 

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสภาพน้ำท่วมในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ล่าสุด ที่ จ.สุโขทัย แม่น้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมหลายอำเภอ ทำให้โรงเรียนชั้นประถมศึกษา 2 แห่งที่ อ.ศรีสำโรง ต้องปิดเรียน รวมถึงโรงเรียนใน อ.สวรรคโลก และ อ.เมืองสุโขทัย อีก 4 แห่ง ที่ จ.พิษณุโลก แม่น้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลกยังคงน่าเป็นห่วง แม้ระดับน้ำที่เชิงสะพานเอกาทศรถ อ.เมืองพิษณุโลก ปรับตัวลดลงเหลือ 9.99เมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติ1ซม.และมีแนวโน้มจะลดประมาณชั่วโมงละ1ซม.แต่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำน่านที่ลดลงมีผลมาจากเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ได้หยุดการระบายน้ำเพื่อช่วยเหลือไม่ให้น้ำท่วม จ.พิษณุโลก เป็นเวลา 36ชั่วโมง ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 25กันยายนนี้ 

ด้าน จ.อ่างทอง สถานการณ์น้ำท่วมยังอยู่ในขั้นหนัก โดยเมื่อคืนวันที่ 24กันยายนที่ผ่านมา ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอีก 20ซม.ทำให้หลายพื้นที่ของ จ.อ่างทอง ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะใน ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทอง กระแสน้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือน 450หลังคาเรือน มีระดับสูงกว่า 1ม. โรงเรียนต้องปิดเรียนและถนนหลายสายถูกตัดขาด ประชาชนต้องนำรถยนต์และสัตว์เลี้ยงมาไว้บนถนน โดยทางจังหวัดได้เข้าช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว 

นายฉัตรณรงค์ อุตสาหกุล หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอ่างทอง กล่าวว่า ตอนนี้ระดับน้ำสูงขึ้นน่ากลัวมาก โดยน้ำถูกปล่อยมาจากเขื่อนจำนวน 2,082 ลบ.ซม.ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอีก 20ซม.โดยวัดระดับน้ำที่หน้าศาลากลางจังหวัดได้ 7.40 เมตร ซึ่งใกล้ถึงจุดวิกฤติแล้ว ทำให้เกือบทุกพื้นที่ที่อยู่ติดแม่น้ำ ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่หนักที่สุดคือ ต.โผงเผง อ.ป่าโมกและ ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทอง 

ขณะที่นายภาดล ไชยรักษ์ ประธานสภา อบต.ย่านซื่อ จ.อ่างทอง กล่าวว่า ตอนนี้คันกั้นน้ำบริเวณหมู่ 3 เกิดทรุดตัว จึงต้องเกณฑ์ประชาชนออกมาช่วยกันกรอกทราย เพื่อนำมาเสริมแนวคันดินไม่ให้น้ำทะลักเข้ามา หากจุดนี้พังลงมาจะทำให้ตลาดอ่างทอง ต.ศาลาแดง ต้องประสพกับน้ำท่วมอย่างแน่นอน ปัญหาตอนนี้ที่พบคือพ่อค้าขายกระสอบทรายได้ขึ้นราคา จากเดิมขายในราคา 3 บาท เพิ่มเป็น 7-9บาท ซึ่งเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างมาก แทนที่จะช่วยเหลือกับมาซ้ำเติมชาวบ้าน 

ทางด้านนายพรชัย จิ๋วเจริญ นายกเทศมนตรี เทศบาล ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า แม่น้ำท่าจีนยังทรงตัว แต่บ้านเรือนราษฎรในเขต ต.ศรีประจันต์ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำกำลังประสบปัญหาน้ำท่วม ทางเทศบาลได้เข้าไปช่วยเหลือและสำรวจเพื่อนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่าย สำหรับพื้นที่การเกษตรเช่นนาข้าว มีน้ำท่วมประมาณ 180 ไร่ ทางเทศบาลได้แก้ปัญหาโดยนำเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำออกแล้ว 

ที่ จ.พิจิตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้แม่น้ำ 2 สายที่ไหลผ่าน จ.พิจิตร ปริมาณน้ำเลยจุดวิกฤตแล้ว โดยปริมาณแม่น้ำน่านเพิ่มสูงเฉลี่ย 10ซ.ม.ต่อวัน โดยบริเวณน้ำที่แพดับเพลิงของเทศบาลเมืองพิจิตร สูง 10.57เมตร เลยจุดวิกฤต 10เมตร ส่งผลให้ปริมาณน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนใน อ.เมืองพิจิตร อ.ตะพานหินและอ.บางมูลนาค กว่า 1 พันหลังคาเรือน บางจุดสูงกว่า 1.50 เมตร

ขณะที่แม่น้ำยมปริมาณสูง 6.70 เมตร สูงจากจุดวิกฤต 70ซ.ม.ส่งผลให้น้ำเอ่อท่วม อ.วชิระบารมี ส่ามง่าม โพธิ์ประทับช้าง โพธิ์ทะเลและกิ่ง อ.บึงนาราง ทำให้ชาวบ้าน อ.โพธิ์ประทับช้าง กว่า 100 ครอบครัว ต้องอพยพคนและทรัพย์สินหนีน้ำไปอยู่บนถนนรอบหมู่บ้าน แต่ไม่วายถูกลักน้ำมันรถจักรยานยนต์ที่จอดหนีน้ำ 

ล่าสุด กลางดึกคืนวันที่ 24กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุเศร้าสลด เมื่อ ดญ.ประภัทรศร ทองเพิง อายุ14ปี ถูกงูเห่ากัดที่ขาจนเสียชีวิต ขณะนอนอยู่ชั้นบนหลังชั้นล่างถูกน้ำท่วม แต่ชาวบ้านต่างโจษขานว่าน่าเป็นอาถรรพ์เนื่องจากผู้เป็นพ่อมีอาชีพจับงูขาย 

ขณะที่นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข หน.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำที่เขื่อนเก็บกักไว้อยู่ที่ 680ล้านลูกบาตรเมตร จากความจุทั้งหมดที่ 960ล้าน หรือประมาณ 70เปอร์เซนต์ของเขื่อนและหลังจากมีคำสั่งให้ระบายน้ำลดลง เพราะมีน้ำทะเลหนุนนั้น ทางเขื่อนจึงลดการระบายน้ำจากวันละ 20ล้านลูกบาตรเมตรเหลือ 10ล้านลูกบาตรเมตรเท่านั้น

ที่มา: เว็บไซต์แนวหน้า