Skip to main content
sharethis

27 ก.ย.2549 -   นายชัยพันธุ์ ประภาสะวัติ ผอ.สถาบันเพื่อสิทธิชุมชน และตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ เปิดเผยกับ "ประชาไท" ว่า ภาคีคนฮักเจียงใหม่ ได้ร่วมกันหารือถึงปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากโครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เกิดขึ้นภายใน จ.เชียงใหม่  เช่น โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โครงการเชียงใหม่เวิลด์ โครงการอุทยานช้าง โครงการเคเบิ้ลคาร์ โครงการสร้างพนังกั้นน้ำปิง และโครงการพืชสวนโลก เป็นต้น ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อคนเชียงใหม่โดยรวมอย่างหนัก


 


"และที่สำคัญ โครงการเหล่านี้ มีการทุจริตคอรัปชั่นกันเป็นจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะโครงการมหกรรมพืชสวนโลก ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการกันอยู่ หลังจากได้มีการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดแล้ว พบว่า มีการทุจริตกันเป็นทอดๆ ในวงเงินนับ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนทั้งสิ้น อีกทั้งโครงการพืชสวนโลกนอกจากจะมีการทุจริตกันเป็นจำนวนมากแล้ว ยังอาจเข้าข่ายผิดระเบียบ ครม.เรื่องการนำพืชต่างถิ่นเข้ามาโดยขัดต่อกฎหมายอีกด้วย"


 


นายชัยพันธุ์ กล่าวอีกว่า ทางภาคีคนฮักเจียงใหม่เห็นว่า จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นโครงการต่างๆ เหล่านี้โดยเร่งด่วน จึงเห็นตรงกันว่า ควรจะยื่นเอกสารต่อ คณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินงานและโครงการต่างๆ ที่ได้รับอนุมัติและเห็นชอบโดยบุคคลในคณะรัฐมนตรี ที่มีนายนายสวัสดิ์  โชติพานิช เป็นประธาน ได้เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งให้มีการระงับโครงการต่างๆ เหล่านี้เอาไว้ก่อน


 


"โดยตัวแทนภาคีฯ จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อแถลงข่าวแฉการทุจริตคอรัปชั่นทั้งหมด ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ ที่ห้องประชุม 14 ต.ค.16 อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ในเวลา 9.30 น. หลังจากนั้นจะเคลื่อนไปยื่นหนังสือต่อคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินงานและโครงการต่างๆ ที่ได้รับอนุมัติและเห็นชอบโดยบุคคลในคณะรัฐมนตรี" นายชัยพันธุ์ กล่าว


 


ด้านนายนิคม พุทธา ผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชภาคเหนือ และตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่มีการยื่นหนังสือให้มีการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นของโครงการเมกะโปรเจ็กต์เหล่านี้แล้ว การดำเนินงานในขั้นตอนต่อไปของภาคีฯ ก็คงจะรอให้มีการตั้งรัฐบาลชั่วคราวก่อน หลังจากนั้น คงจะเคลื่อนในเรื่องต่อไป คือ ทำอย่างไรถึงจะให้ภาคประชาชนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญในระยะยาว


 


"หลังจากนั้น  ควรจะมีการจัดเวทีภาคประชาชนเพื่อระดมความคิดเห็นในการกำหนดทิศทางการพัฒนาการปฎิรูปการเมือง ซึ่งน่าจะมีการจัดเวทีย่อย เช่น เวทีภาคีคนฮักเจียงใหม่ เวทีของเครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติฯ รวมไปถึงเวทีใหญ่ คือ พันธมิตรเพื่อการปฏิรูปการเมืองทั่วภาคเหนือด้วย เพราะที่ผ่านมา เราสูญเสียทุกอย่างไม่ว่าในเรื่องโครงสร้างของสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม แม้กระทั่งความเป็นคนเชียงใหม่ล้วนถูกกลืน ดังนั้น ทำอย่างไรเราจะฟื้นฟูคุณค่า จิตวิญญาณของความเป็นคนเชียงใหม่ได้กลับคืนมา" นายนิคม กล่าวทิ้งท้าย


 


ทั้งนี้ นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพื่อการจัดการทางสังคม(วจส.) และตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ ได้เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานของภาคีคนฮักเจียงใหม่ ว่า จุดยืนของภาคีคนฮักเจียงใหม่ ก็คือ อะไรที่ส่งผลกระทบกับเมืองเชียงใหม่ โดยไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนๆ ที่สร้างปัญหาสร้างผลกระทบต่อเชียงใหม่เราก็จะสู้ และทำอย่างไรคนท้องถิ่นจึงจะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนาต่างๆ ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net