Skip to main content
sharethis

22 ต.ค. 49 ผู้จัดการรายงานว่าระหว่างที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และ คมช. พร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ร่วมเดินทางไปทอดผ้าพระกฐินซึ่งกองบัญชาการทหารบกเป็นเจ้าภาพ ที่วัดอรุณญาศรี ต.วัดป่า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีจัดทำใบปลิวโจมตี คมช. ส่งถึงชาวบ้านหลายหมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.หลักด่าน อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ โดยส่งทางจดหมายจ่าหน้าซองติดแสตมป์พร้อมประทับตราสีแดงคำว่า ด่วนมาก ที่มุมซองคล้ายกับหนังสือราชการ ซึ่งจากการสังเกตพบว่าจดหมายถูกประทับตรารับเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ส่วนไปรษณีย์ที่รับฝากอ่านได้ชัดเจน


 


ทั้งนี้ จดหมายส่วนใหญ่ส่งถึงผู้รับเมื่อวันที่ 21 ต.ค. เมื่อชาวบ้าน เปิดจดหมายพบว่าภายในมีเอกสารลักษณะเป็นกระดาษขาว พิมพ์ข้อความด้วยตัวอักษรจากเครื่องพิมพ์ดีด มีเนื้อหาโจมตี คมช.


 


ผู้จัดการยังอ้างด้วยว่า นายพัฒน์ พิลาบุตร กำนัน ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับจดหมาย บอกว่า เมื่อเปิดซองดูจึงทราบว่าเป็นใบปลิวโจมตี คมช. ซึ่งเมื่อได้อ่านข้อความดังกล่าวแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่น่าเกิดในพื้นที่นี้ จึงอยากให้ทางจังหวัดและอำเภอทุกแห่งมีหนังสือเรียกประชุมแกนนำหมู่บ้าน รวมถึงผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อทำความเข้าใจและแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ชาวบ้านได้รับทราบทั่วกัน เพราะที่ผ่านมาแต่ละชุมชน หมู่บ้าน ต่างเป็นฐานเสียงให้กับพรรคการเมือง ดังนั้นเมื่อมีใบปลิวออกมากล่าวโจมตีเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม หากทางจังหวัดยังไม่ดำเนินการอะไรอาจเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง เพราะพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งค่อนข้างหนาแน่น ดังนั้นจังหวัดน่าจะเรียกประชุมด่วนเพื่อแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว


 


ทั้งนี้ หลังจากมีการแจ้งว่าพบใบปลิว ฝ่ายทหารได้ส่งสายข่าว ออกหาข่าวและเดินทางเข้าไปในพื้นที่เพื่อหาข้อมูลทันทีและจะได้ทำการตรวจสอบและที่มาของใบปลิว ขณะเดียวกันก็มีนายทหารยศพันโท ซึ่งมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.น้ำหนาว ทำการถ่ายสำเนาเอกสารไว้จำนวนหนึ่ง


 


วันเดียวกัน คมช.ได้เรียกแกนนำครูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 15 คน เข้าพบที่หน่วยทหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดย นายทหารชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่งได้แจ้งต่อแกนนำครูว่าสถานการณ์ขณะนี้น่าเป็นห่วง เพราะได้มีคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้นหลายกลุ่ม แม้แต่ครู นักเรียน และนักศึกษาเอง ก็เริ่มไม่เห็นด้วยกับทหารที่เข้ามาฉีกรัฐธรรมนูญ หลายฝ่ายเริ่มเห็นว่า ที่มีการยึดอำนาจนั้นเกิดเพราะทหารกลุ่มหนึ่งเสียผลประโยชน์ และรู้ว่าจะเสียอนาคต เป็นการตัดไฟแต่ต้นลมของกลุ่มนายทหารที่ขัดแย้งกับระบอบทักษิณ


 


นอกจากนี้ผู้จัดการได้อ้างแหล่งข่าวที่เปิดเผยว่า ครูได้เสนอให้ทหารกลับที่ตั้งและนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาปรับใช้ ให้สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ เลือกบุคคลที่เหมาะสมมายกร่างรัฐธรรมนูญทันที ต้องคืนประชาธิปไตยให้ประชาชนภายในเดือนมกราคม พ.ศ. 2550 นี้เท่านั้น และต้องเลือกตั้งไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 ถ้าทหารทำงานช้า อาจมีการต่อต้านมากขึ้นและนำไปสู่การทำลายล้าง


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแกนนำครูที่เดินทางเข้าพบ คมช.ครั้งนี้ ทั้งหมด เป็นครูฝ่ายสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี โดยก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มครูดังกล่าวเคยเคลื่อนไหวสนับสนุนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ชนกับกลุ่มที่ค้านการถ่ายโอนการศึกษา ซึ่งมีนายอวยชัย วะทา เป็นแกนนำ


 


อย่างไรก็ตาม ซีกฝ่ายครูที่เคยขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณก็มีปฏิกริยาต่อเรื่องนี้เช่นกัน โดยนายสมยงค์ แก้วสุพรรณ ประธานคัดค้านการถ่ายโอน จ.ขอนแก่น และรองประธานแนวร่วมครูกู้ชาติ กล่าวว่า กรณี คมช. เรียกตัวแกนนำครูภาคอีสานจำนวน 15 คนเข้าพบนั้น ส่วนตัวไม่ทราบมาก่อน ประกอบกับกลุ่มที่เข้าพบในวันนี้ไม่ใช่กลุ่มผู้ที่เคลื่อนไหวคัดค้านการถ่ายโอนการศึกษา จึงไม่ทราบว่ามีการนัดหมายให้เข้าพบเรื่องใด และมีนัยแอบแฝงหรือไม่นั้นคงต้องติดตามต่อไป


 


นายสมยงค์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีความคาดหวังในการทำงานของ คมช. อย่างมาก แต่หลังจากมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้ามาทำงานแล้ว รู้สึกผิดหวังอย่างมาก เนื่องจากมีตัวแทนจากภาคประชาชนน้อย พร้อมทั้งมองว่า คมช. ไม่มีความจริงใจในการพัฒนาประชาธิปไตย เหมือนกับที่พูดเมื่อครั้งทำรัฐประหาร จึงทำให้กลุ่มเกษตรกรและครูไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ส่วนอนาคตนั้นไม่แน่อาจมีการเคลื่อนไหว ซึ่งคงต้องดูกันต่อไปก่อน


 


"ตอนนี้กลุ่มครูไม่สนใจ คมช. แล้ว เพราะที่ผ่านมาการทำงานไม่ตรงกับเจตนาที่ประกาศในวันยึดอำนาจ และรู้สึกผิดหวังตั้งแต่ตั้ง ครม. ดังนั้นเกษตรกรและองค์กรครูจะไม่ยุ่ง มีเพียงเฝ้าติดตามสถานการณ์ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ตกเป็นเครื่องมือของใคร"


 


………………………………………………………….


 


ที่มา : ผู้จัดการรายวัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net