โดย วิลาศ เตชะไพบูลย์
24ตุลาคม 49 กองเรือรบจู่โจมของสหรัฐทั้งสิ้น 3 กลุ่มได้เข้าประจำการในบริเวณอ่าวเปอร์เซียและทะเลอาหรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กองเรือดังกล่าวประกอบด้วย กองเรือยูเอสเอสเอ็นเทอร์ไพรสที่ประจำการอยู่ก่อนแล้ว และกองเรือ ยูเอสเอสไอเซนเฮาเวอร์และยูเอสเอสอีโวจีม่า ที่เพิ่งเดินทางไปถึง ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วมีเรือรบทั้งสิ้น 104ลำ หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง34%ของกองทัพเรือสหรัฐ
หน่วยงานข่าวทางราชการของอิหร่านหรือไออาร์เอ็นเอ ได้รายงานว่า สหรัฐกำลังเตรียมการซ้อมรบทางทะเลในบริเวณใกล้กับประเทศบาห์เรน เพื่อทดสอบขีดความสามารถในการค้นหาและสกัดกั้นเรือที่อาจซุกซ่อนอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง
ทางสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษได้อ้างถึงคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ในกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน ซึ่งกล่าวว่า "การซ้อมรบของกองทัพเรือสหรัฐในครั้งนี้ ไม่เพียงไม่เป็นการเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงของกลุ่มประเทศในภูมิภาคนี้ เท่านั้น แต่ยังมีเป้าหมายเพื่อปลุกปั่นให้เกิดวิกฤตขึ้นอีกด้วย"
การซ้อมรบนี้ อาจนำไปสู่การสร้างสถานการณ์เพื่อให้ความชอบธรรมกับสหรัฐในการทำสงครามกับอิหร่าน ดังเช่น ที่เคยเกิดขึ้นกับ "กรณีอ่าวทองคิน" เมื่อสิงหาคมปี 2507 ก็เป็นได้
ในครั้งนั้น ท่านประธานาธิบดี ลินดอน จอร์นสันของสหรัฐได้ออกประกาศว่า เวียดนามเหนือได้ลอบโจมตีกองทัพสหรัฐ ขณะกำลังทำการซ้อมรบในบริเวณอ่าวทองคิน ประเทศเวียดนาม
ทั้งนี้ ภายหลังเหตุการณ์ พลเรือเอก เจมส์ สตอกเดล ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐในขณะนั้น ผู้ซึ่งในคืนที่เกิดเหตุ เขาได้บินลาดตระเวนเหนืออ่าวทองคิน ได้เปิดเผยว่า พบเห็นกองทัพเรือสหรัฐกำลังระดมโจมตีเป้าที่ไม่มีตัวตน
อนึ่ง หลักฐานคำพูดของพลเรือเอกเจมส์นี้ เท่ากับเป็นการบ่งบอกว่า "กรณีอ่าวทองคิน"ไม่เคยเกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวก็ได้กลายเป็นชนวนที่นำไปสู่สงครามเวียดนามในเวลาต่อมา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)