อาจเป็นเพราะภูมิประเทศที่ใกล้เคียงกัน รวมถึงวัฒนธรรมและความคิดความอ่านที่ไหลเวียนถ่ายเทกันอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ทำให้ปรากฏการณ์ในไทยและพม่าไม่แตกต่างกันมากนัก

เมื่อ "คลิปตบ" สร้างความฮือฮาในสังคมไทยได้พักหนึ่ง คนไทยที่เพิ่งคุ้นเคยกับเทคโนโลยีก็ได้รู้ว่าความบันเทิงจากภาพเคลื่อนไหวสามารถส่งต่อถึงกันได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ อันเป็นเครื่องมือสื่อสารที่เปรียบได้กับอวัยวะชิ้นสำคัญของคนยุคนี้ และการส่งต่อภาพเคลื่อนไหวเดี๋ยวนี้ ทำได้อย่างง่ายดายเพียงกระดิกนิ้วกดปุ่มไม่กี่คลิก

เช่นเดียวกับชาวพม่าจำนวนไม่น้อยที่มีโอกาสเข้าถึงความทันสมัยก็ใช้เทคโนโลยีเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลถึงกันอย่างมีประสิทธิภาพ และคลิปเหตุการณ์ล่าสุดที่ชาวพม่ากล่าวขวัญถึงอย่างอื้ออึงหนาหูก็คงจะหนีไม่พ้น "คลิปงานแต่ง" ความยาว 10 นาที ที่บันทึกพิธีวิวาห์ของสาวไฮโซ "ธันดาร์ ฉ่วย" ลูกสาวของนายพลผู้นำพม่า "ตานฉ่วย" และเจ้าบ่าวของเธอคือ "ซอเพียววิน" นักการเมืองหนุ่มอนาคตไกลที่เข้าร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาลทหารพม่าอย่างเออออห่อหมกและหวานเจี๊ยบ

คลิปวิดีโอที่ว่านี้ถูกชาวพม่าและพลเมืองแห่งไซเบอร์สเปซทั่วโลกดาวน์โหลดไปดูกันมากมาย นับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งต้นตอของคลิปดังกล่าวอยู่ในเวบ "You Tube" ที่เปิดโอกาสให้ใครต่อใครได้ฝากไฟล์ต่างๆ ไว้ก่อน และเปิดโอกาสให้ใครต่อใคร (คนอื่นๆ) ได้ดาวน์โหลดข้อมูลภาพเคลื่อนไหวที่อยู่บนหน้าเวบไปใช้เพื่อประโยชน์อะไรก็ตามแต่ใจของแต่ละคน

งานแต่งของ ธันดาร์ ฉ่วย กับ ซอเพียววิน ถูกนำมาเผยแพร่ให้ดูและให้ดาวน์โหลดในอินเตอร์เน็ตอยู่เป็นนานสองนาน จนกระทั่งตาน ฉ่วย เริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น แต่ก็คงจะสายเกินไป เมื่อนักกิจกรรมชาวพม่า ซึ่งปัจจุบันทำวารสาร "อิรวดี" ได้นำภาพดังกล่าวขึ้นแสดงในเวบไซต์เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา เรื่องนี้ก็เลยกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก แม้ว่าในความเป็นจริงงานวิวาห์ของธันดาร์ ฉ่วย จะจัดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2549 ซึ่งจะว่าไปก็ผ่านมานานหลายเดือนแล้ว

แม้จะดูเป็นการเหมารวมไปสักหน่อย แต่คงไม่เกินความจริงไปนัก ถ้าหากจะสรุปง่ายๆ ว่าคนทั่วไปชมชอบที่จะเสพย์ความบันเทิงที่พูดถึงเรื่องราวอันแตกต่างไปจากชีวิตจริงของคนส่วนใหญ่ เพื่อหลีกหนีไปให้พ้นจากความเป็นจริงรอบๆ ตัว ที่ปะปนกันไป ทั้งความน่าเบื่อหน่าย ความทุกข์ ความอัตคัดขาดแคลน รวมถึงภาวะอื่นๆ ที่ไม่น่าอภิรมย์

เรื่องราวอันแปลกใหม่ที่หาไม่ได้จากชีวิตจริงจึงถูกนำมาร้อยเรียงและนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ นับไม่ถ้วน ซึ่งชีวิตรักที่ลงเอยด้วยพิธีวิวาห์ พระเอกนางเอกครองรักกันอย่างมีความสุข มีครอบครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์แบบ และร่ำรวยมั่งคั่ง ก็เป็นหนึ่งในนิยายชวนฝันที่นำมาสร้างเป็นเรื่องราวแห่งความบันเทิงที่ชวนให้หนีไปจากความจริงชั่วครู่ชั่วยามได้ชะงัดนัก ทั้งยังเป็นพล็อตอมตะที่คงจะหากินไปได้อีกนานทั่วโลก

แต่คลิปงานแต่ง 10 นาที ที่ธันดาร์ ฉ่วยและสามี ทำหน้าที่ "ดาราจำเป็น" ให้ประชาชนชาวพม่าดู ปฏิกิริยาตอบรับจากการแพร่ภาพเหล่านี้กลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เพราะแทบจะไม่มีใครคล้อยตามความโอ่อ่าหรูหราที่ได้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว

ลำพังถ้ามีแค่ภาพ ธันดาร์ ฉ่วย สวมชุดแต่งงานสีขาวเป็นมันและรอยยิ้มบนใบหน้าอิ่มเอิบ ก็คงไม่มีอะไรที่ร้ายแรงเกิดขึ้น แต่เมื่อตากล้องของคลิปวิดีโอที่ว่าเริ่มนำสายตาของคนดูไปสู่สร้อยเพชรห้อยระย้าและพาดูไปเครื่องประดับที่ทำจากมุกเม็ดเบ้อเริ่มที่ประดับประดาบนเรือนผมของเจ้าสาว ความขุ่นเคืองคับข้องใจของชาวพม่าที่ได้เห็นคลิป 10 นาทีนี้ก็ปะทุขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ความหรูหราโอ่อ่าของโรงแรมที่จัดงาน รวมถึงบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมพิธีอย่างคับคั่งสมกับเป็นงานแต่งของลูกสาวผู้นำประเทศ ทำให้ประชาชนชาวพม่าที่ยังอยู่อย่างยากจนอีกเป็นล้านๆ คน (และไม่มีโอกาสได้รับเชิญไปร่วมงานนี้) เกิดความสงสัยใคร่รู้ว่าท่านนายพลผู้นำที่มักจะสร้างภาพว่าตนเป็นคนสมถะอยู่อย่างพอเพียงตลอดเวลา สามารถหาเงินมากมายขนาดนี้มาจัดพิธีแต่งงานหรูเริ่ดอลังการเช่นนี้ให้ลูกสาวได้อย่างไร?

สาเหตุที่คลิปนี้กลายเป็นประเด็นระดับชาติ และคาดกันว่าอาจปลุกกระแสความวุ่นวายในพม่าได้อย่างไม่ต้องเร่งเชื้อไฟอะไรเพิ่มเติม (ว่ากันว่า) เป็นเพราะค่าใช้จ่ายในพิธีวิวาห์ครั้งนี้มีจำนวนมากเป็น 3 เท่าของงบประมาณสาธารณสุขตลอดทั้งปีของชาวพม่าเลยทีเดียว

แม้จะมีชาวพม่าจำนวนน้อยมากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอนี้ด้วยตัวเอง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าถึงเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยมากนัก แต่การบอกเล่าถึงภาพพิธีแต่งงานแบบปากต่อปากก็ถือเป็นเครื่องมือชั้นดีที่กระจายข้อมูลไปสู่วงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน

และหากจะสรุปอย่างเหมารวม โดยทั่วไปแล้ว แม้ชนชั้นกลางและชนชั้นล่างของสังคมส่วนใหญ่ชมชอบที่จะรับรู้รับฟังเรื่องราวของคนอีกชนชั้นที่ตัวเองไม่เคยได้สัมผัสในชีวิตจริง แต่ภาพและเสียงราว 10 นาทีที่ได้เห็นคลิปวิดีโองานแต่งงานของธันดาร์ ฉ่วย กลับเป็นหนามทิ่มแทงใจชาวพม่าที่แสนจะเจ็บปวดยิ่งนัก

เมื่อนายพลตาน ฉ่วย ยึดอำนาจรัฐบาลชุดเก่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น เขาได้ให้เหตุผลในการทำรัฐประหารว่ารัฐบาลชุดก่อนหน้ามีปัญหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น และขาดความโปร่งใสในการบริหารประเทศ รวมถึงกีดกันมิให้ผู้นำพรรคสันนิบาตชาติอย่าง "อองซาน ซูจี" ได้รับอิสรภาพจากการถูกจองจำภายในบ้าน

แต่ตลอดเวลาที่ตาน ฉ่วย ขึ้นมาเป็นผู้นำพม่า เขาก็เดินย่ำตามรอยเท้าเดิมของรัฐบาลที่ถูกรัฐประหารไป ทั้งเรื่องของความโปร่งใสในการบริหารประเทศที่ติดลบมาโดยตลอด และการยืดเวลากักขังอองซานซูจีต่อไปอย่างไม่มีกำหนด

หากกรณีล่าสุดที่ทำให้ชาวพม่ารู้สึกเหมือนกับว่ามันจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายก็คงจะเป็นภาพคลิปงานแต่งที่ คาดว่ามีผู้จงใจปล่อยออกมาเพื่อสร้างกระแสชี้นำอะไรบางอย่างให้เกิดขึ้น

ไม่ว่าผู้ที่ปล่อยคลิปนี้ออกมาจะมีวัตถุประสงค์อย่างไร เรื่องราวของความสุขราวเทพนิยายที่ปรากฏพร้อมภาพและเสียงเพียงแค่ 10 นาที กลับมีอานุภาพแตกต่างไปจากเดิมมากนัก เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ใครรู้สึกซาบซึ้งตรึงใจไปด้วยแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ยังปลุกระดมให้ชาวพม่าจากหลายๆ พื้นที่ลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาลทหารอย่างถี่และต่อเนื่องมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

อ่อง ซอ วิน นักวิชาการชาวพม่า กล่าวสรุปถึงคลิปวิดีโอนี้กับนักข่าวรอยเตอร์ว่า "พม่าในตอนนี้คงไม่ต่างจากฝรั่งเศสในยุคพระนางมารีอังตัวแนตสักเท่าไหร่ ความหรูหรามั่งคั่งที่จำกัดวงอยู่แค่ในกลุ่มชนชั้นสูงเริ่มกลายเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้มากขึ้นทุกที ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่วันใดก็วันหนึ่ง คงมีอะไรมาทำให้มันแตกหักไปจนได้"