น.ส.สุรีรัตน์ แต้ชูตระกูล ที่ปรึกษากลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก และกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด เปิดเผยว่า ได้แจกแถลงการณ์ การก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินให้ชาวบ้านใน อ.ทับสะแก อ.บางสะพาน และพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อนัดชุมนุมต่อต้านโรงไฟฟ้าทับสะแกที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง

น.ส.สุรีรัตน์กล่าวถึงการนัดชุมนุมว่า สำหรับการนัดชุมนุมไม่มีปัญหากรณีอยู่ในระหว่างการประกาศกฎอัยการศึกเนื่องจากการชุมนุมของชาวบ้านเป็นไปโดยความสงบตามหลักสิทธิชุมชนเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น ทั้งนี้ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินครั้งนี้จะเป็นระเบิดเวลาที่สั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล เนื่องจากมีการตัดสินใจใช้พลังงานที่ผิดพลาด และใช้โอกาสในขณะที่มีทหารเข้ามาควบคุมการปกครองประเทศสร้างความชอบธรรม เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มทุนถ่านหิน แต่อ้างว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงในการใช้เชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้าในประเทศ

ขณะนี้ตนออกแถลงการณ์ชี้แจงเหตุผลในการคัดค้านซึ่งชาวบ้าน เข้าใจว่าจะมีการจ้างงานในอนาคต เนื่องจากโรงไฟฟ้าถ่านหินจะใช้เฉพาะวิศวกรซึ่งแตกต่างจากการใช้แรงงานในโรงงานสับปะรดกระป๋อง ส่วนประเด็นสำคัญหลังการสร้างโรงไฟฟ้าจะส่งผลกระทบกับชาวประมงกว่า 2,000 ราย ต้องเตรียมตัวตกงานและหมดอาชีพ เพราะผลกระทบของระบบนิเวศวิทยาจากการดูดน้ำทะเลไปใช้ในระบบหล่อเย็นแล้วปล่อยทิ้งตลอดเวลา 25 ปี นอกจากนั้นโรงไฟฟ้าถ่านหินจะมีมลพิษทางอากาศไม่แตกต่างจากโรงไฟฟ้าที่แม่เมาะซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงยังมีปัญหาจากผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างซ้ำซาก น.ส.สุรีรัตน์ กล่าวในที่สุด

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่ร้านแซ็กโซโฟน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ร่วมกับมูลนิธิศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ร่วมจัดงานแสดงศิลปะสืบสานการต่อสู้ของนายเจริญ วัดอักษร อดีตประธานกลุ่มรักษ์บ่อนอก แกนนำคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินบ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยจัดแสดงดนตรี และภาพวาดของศิลปิน เพื่อนำรายได้จากการแสดงสมทบทุนก่อสร้างฐานรูปปั้นของนายเจริญ ที่จะนำไปติดตั้งที่อนุสรณ์สถานบ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์

นางกรณ์อุมา พงษ์น้อย ภรรยาของนายเจริญ ซึ่งเดินทางมาร่วมงานด้วย กล่าวว่า อยากจะให้อนุสาวรีย์นี้ ไม่ใช่เป็นสัญลักษณ์ของเจริญเพียงคนเดียว หรือกระทั่งชาวบ้านบ่อนอกเพียงชุมชนเดียว แต่เป็นผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อยกย่องเชิดชูชาวบ้านสามัญชนอย่างเราทั่วทุกหัวระแหง ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยอุดมการณ์ของความรักท้องถิ่น และสามัคคีกันทั้งชุมชน เพื่อเป็นพลังอันเข้มแข็ง

"ขอบคุณพี่ๆ ศิลปินทั้งหลาย ที่มีหัวใจกว้างใหญ่พอที่เข้าใจกับการต่อสู้ของพวกเรา ที่จัดงานในครั้งนี้ขึ้น และนำรายได้จากการจัดงานทั้งหมดมาใช้ในการจัดทำฐานอนุสาวรีย์ ที่สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูการต่อสู้ของประชาชน ให้เป็นอนุสาวรีย์ของพวกเราทุกคน" นางกรณ์อุมากล่าว

.....................................

ที่มา เดลินิวส์และข่าวสด

ประชาไทย้อนหลัง

คนประจวบฯ ตื่นอีกค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน 4,000 เมกกะวัตต์ 26 พ.ย. 2549