Skip to main content
sharethis


ประชาไท - 9 ม.ค.2550 เมื่อวันที่ 8 ม.ค.50 เวลา 09.00 น.ที่ศาลาวัดอรุณธรรมรังษี บ้านโนนสมบูรณ์ ต.ห้วยสามพาด กิ่ง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตช ได้มีการประชุม หารือ ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา จากกรณีที่มีข่าวว่ากลุ่มทุนบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ขอสัมปทานแหล่งแร่โปแตช จ.อุดรธานี ต่อจากรายเดิม คือบริษัทเอเซีย แปซิกฟิก โปแตชคอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) และปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาตประทานบัตรเพื่อประกอบการทำเหมือง ได้เข้าพบกับพล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2  เพื่อขอให้ "ล็อค"การเคลื่อนไหวแกนนำชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ


 


ในที่ประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้มีมติเห็นชอบร่วมกันว่ากลุ่มอนุรักษ์ฯ จะไม่มีการเข้าพบเพื่อรับฟังคำชี้แจงจากพล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2 ที่จะเดินทางมาจังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ พร้อมยืนยันปักหลักต่อสู้ในพื้นที่


 


โดยกลุ่มชาวบ้านให้เหตุผลว่าจากเดิมเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้แทนทหารจากมณฑลทหารบกที่ 24  ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานีได้มาชี้แจงกับกลุ่มชาวบ้านพร้อมกับปฏิเสธลั่นบนศาลาวัดว่าไม่ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแม่ทัพภาค 2 กับบริษัทอิตาเลี่ยนไทย แต่ทางด้านบริษัทฯ กลับเปิดเผยยอมรับกับสื่อสำนักหนึ่งในจังหวัดอุดรธานีว่าได้มีการเข้าไปพบจริง


 


ทั้งนี้ นางมณี บุญรอด รองประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า กลุ่มชาวบ้านไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องเข้าพบกับแม่ทัพภาคที่ 2 ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ อีกแล้ว เนื่องจากว่าคำตอบที่ได้รับก็คงไม่ต่างจากวันที่ผู้แทนทหารมาชี้แจงบนศาลาวัด ซึ่งสวนทางกันกับบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ที่กล้าออกมายอมรับความจริงอย่างลูกผู้ชายว่าได้ไปพบแม่ทัพภาค 2 จริง


 


อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าจะมีการปฏิเสธข่าวขอให้ "ล็อค" การเคลื่อนไหวของชาวบ้าน เป็นเพียงการเข้าไปเยี่ยมคาระ อวยพรปีใหม่เท่านั้น แต่มันชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่กลุ่มเคลื่อนไหวได้รับทราบมามีมูลความจริง


 


"กลุ่มอนุรักษ์ฯ จะไม่มีการเจรจากับแม่ทัพภาค 2 ไม่ว่า ณ ที่ใดก็ตาม เพราะว่าประเด็นทั้งหมดชาวบ้านเข้าใจแล้ว และที่ผ่านมาแนวทางการต่อสู้ของชาวบ้านก็ชัดเจน และเปิดเผยมาโดยตลอด หากจะมีอะไรเกิดขึ้นคนทั่วไปก็คงตัดสินได้ทันที แต่อย่างไรก็ดี เราขอบอกเอาไว้ว่าไม่ว่าบริษัท หรือทหารถ้าหากมาทำไม่ดีในพื้นที่จะต้องเจอดีกันแน่" นางมณีกล่าว


 


ด้านนายสุวิทย์ กุหลาบวงศ์ ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี เปิดเผยว่า "การที่บริษัทอิตาเลี่ยนไทย เข้าไปพบทหารแล้วก็ออกมาพูด ให้สัมภาษณ์เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ต่างฝ่ายกลับพูดสวนทางกัน ซึ่งมันคืออะไรกันแน่ ทำไมต้องเข้าไปพูดคุยกันเพียงแค่ 3-4 คน ทั้งนี้ กำลังแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ กับทหารกำลังประสานผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งหมายถึงทุนสามานย์ และกลับมาสู่คำถามเดิมที่ว่าทหารปฏิวัติเพื่ออะไรกัน" นายสุวิทย์กล่าว


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net