ประชาไท - 11 ม.ค. 2550 กลุ่มสหภาพแรงงานย่านอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ พร้อมด้วยนางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยเดินทางเข้าพบนายอภัย จันทนจุลกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อเรียกร้องให้ช่วยเหลือผู้ก่อตั้งสหภาพแรงงานจำนวน 7 คนของบริษัท ไทยการ์เม้นต์เอกซ์ พอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปส่งออก ย่านอ้อมน้อย ที่ถูกเลิกจ้างให้กลับเข้าทำงานตามปกติและดำเนินการกับเจ้าหน้าที่เทศกิจที่จับและยึดบัตรประชาชนของแรงงานที่แจกใบปลิว

นายคงฤทธิ์ งามสง่า อดีตลูกจ้างบริษัท ไทยการ์เม้นต์เอกซ์ พอร์ต จำกัด เล่าถึงสาเหตุที่ถูกเลิกจ้างว่า  บริษัทมีนโยบายเปลี่ยนแปลงเวลาทำงานปกติ โดยให้หยุดทุกวันเสาร์สิ้นเดือนและทำงานเพิ่มจากเวลางานปกติวันละ 20 นาที โดยไม่จ่ายค่าจ้างและสวัสดิการ

ทั้งนี้ บริษัทจะเรียกคนงานที่ไม่เห็นด้วยเข้าไปเกลี่ยกล่อม โดยถามว่าทำงานมากี่ปี ทำไมถึงไม่เห็นด้วย ถ้าบริษัทไม่มีออเดอร์แล้วจะทำอย่างไร ซึ่งหลายคนเมื่อถูกบ่อยครั้งเข้าก็ต้องจำยอม เพราะกลัวถูกเลิกจ้าง

ด้านเขาและลูกจ้างส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย จึงรวมกันปรึกษาที่ที่ทำการกลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ และมีมติให้กลุ่มสหภาพฯ ดำเนินการร้องเรียนในวันที่ 3 พ.ย. 49 โดยในวันต่อมา เวลาประมาณ 16.30น. เขาซึ่งเป็นแกนนำในการคัดค้านก็ได้ถูกเลิกจ้าง โดยบริษัทอ้างว่า ปรับปรุงโครงสร้างการทำงานใหม่และลดขั้นตอนการผลิต เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนจ่ายค่าชดเชย และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ตามระเบียบ

"ตำแหน่งที่ทำคือพนักงานขับรถยกนั้นไม่สามารถยกเลิกได้ เขาออกบริษัทก็ต้องจ้างงานคนอื่นมาทำแทนอยู่ดี จึงไม่ใช่การลดขั้นตอน"

พอบริษัทเลิกจ้างเขา สมาชิก 15 คนได้ไปขอจดทะเบียนตั้งสหภาพฯ ขึ้น โดยพอได้ทะเบียนมา บริษัทก็สร้างกระแสต่างๆ สหภาพฯ เองก็พยายามชักชวนคนมาเป็นสมาชิก โดยใช้เวลานอกเวลางาน ต่อมา บริษัทได้ทราบว่า มี 6 คนซึ่งเป็นตัวหลักจึงเลิกจ้างด้วยเหตุผลเดียวกับของเขา ทั้งที่บริษัทยังรับสมัครงานในตำแหน่งเดียวกับ 6 คนนี้ จึงคิดว่า ไม่เป็นธรรมกับลูกจ้าง

พอไปหาสมาชิก บริษัทยังไปปล่อยข่าวว่า การสมัครสมาชิกจะทำให้ไม่มีงานทำ และปล่อยข่าวว่าทางเขานำเงินของสหภาพไปเที่ยว พวกเขาจึงทำแถลงการณ์ชี้แจงให้สมาชิกรับทราบ แต่บริษัทก็ไม่ให้เข้าไปแจงในโรงงาน ต้องแจกที่ทางเท้า เมื่อแจกที่ทางเท้าก็ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่เทศกิจซึ่งพกพาอาวุธปืนได้เข้ามาจับกุมคนงานและยึดเอกสารของสหภาพ โดยอ้างว่า ทำความผิดตามพรบ.รักษาความสะอาด มาตรา 10 และยึดบัตรประชาชนของสมาชิกไป

เมื่อไปแจ้งเรื่องขอเอกสารคืนที่สำนักงานเทศบาลเมืองอ้อมน้อย ทางเทศบาลได้แจ้งว่า หากจะแจกเอกสารต้องยื่นคำร้องขออนุญาต โดยเสียค่าคำร้อง 200 บาทและแจกได้ 60 วัน โดยขอดูเนื้อหาก่อนว่าเสียดสีใครหรือไม่ นอกจากนี้ยังเรียกขอดูบัตร โดยบอกว่าบัตรอะไรก็ได้ที่บอกว่า เป็นคนไทย

ทั้งนี้ พวกเขาได้ชี้แจงว่า เอกสารที่แจกเป็นของสหภาพ มีตราประทับชัดเจนและทำขึ้นเพื่อชี้แจงเนื่องจากถูกกล่าวหาจากบริษัท นายคงฤทธิ์ กล่าวและว่า "เทศกิจมีหน้าที่ดูแลจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ทำไมมาคุกคามตรงนี้ ทั้งยังมีปืนในมือ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ใช้แรงงานจะทำอย่างไร"

ด้านนางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าวว่า การเลิกจ้างและห้ามแจกเอกสารเป็นการละเมิดสิทธิแรงงาน รวมทั้งการที่เทศกิจมาจับแรงงานและยึดบัตรประชาชน ทั้งยังพกปืนถือเป็นการคุกคามอย่างชัดเจน จึงเรียกร้องให้ดำเนินการช่วยเหลือแรงงานทั้ง 7 คนที่ถูกเลิกจ้าง กลับเข้าทำงานตามปกติ และดำเนินการตรวจสอบเจ้าหน้าที่เทศกิจ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

"ทั้งที่บริษัทนี้เป็นบริษัทค่อนข้างใหญ่ มีพนักงาน 3,000 กว่าคน ทำธุรกิจส่งออก และรับรองจรรยาบรรณทางการค้าซึ่งคุ้มครองเรื่องค่าจ้างและกระบวนการที่เป็นธรรม แต่กลับเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม หากคู่ค้าทราบจะเกิดอะไรขึ้น จะกระทบต่อการสั่งสินค้าหรือไม่ คิดว่าบริษัทต้องดูแลคนงานที่จะผลิตสินค้าให้และไม่ไปละเมิดสิทธิเขา"

ทั้งนี้ นายอภัย จันทนจุลกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้ นายผดุงศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ไปดำเนินการสอบสวนรายละเอียดพนักงานที่ถูกเลิกจ้างเพิ่มเติม พร้อมนัดนายจ้างมาเจรจาอีกครั้ง ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่เทศกิจของเทศบาลเมืองอ้อมน้อยจับกุมคนงาน ขณะแจกเอกสารของสหภาพนั้น ได้สั่งการให้แจ้งสำนักเทศกิจชี้แจงเรื่องดังกล่าวด้วย