Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


ชง 16 ข้อให้ปชช.ตัดสินที่มานายกฯ-ส.ว.-โละปาร์ตี้ลิสต์-สังกัดพรรค


เว็บไซต์คมชัดลึก -นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายเลขานุการ กมธ.ได้ร่างคำถามเพื่อที่จะนำไปถามความเห็นประชาชนในประเด็นต่างๆ ไว้แล้วเบื้องต้น 16 คำถาม ซึ่งมาจาก 9 กรอบที่ กมธ.ชุดใหญ่ได้วางไว้ เช่น นายกรัฐมนตรีควรมาจาก ส.ส.หรือไม่ ควรจะลดจำนวน ส.ส.หรือไม่ ส.ส.ควรสังกัดพรรคการเมือง 90 วันหรือไม่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ควรจะมีอยู่ต่อไปหรือไม่ ส.ว.ควรจะมาจากการสรรหาจากประชาชนทุกกลุ่มหรือไม่


 



"วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ ฝ่ายเลขานุการจะนำคำถามทั้งหมดซึ่งอาจจะมากกว่า 16 คำถามมอบให้แก่ กมธ.วิสามัญประสานการมีส่วนร่วมและการประชามติ ที่มี นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เป็นประธาน เพื่อไปถามความเห็นประชาชน โดยการฟังความเห็นนั้นจะฟังแบบกว้างๆ ไม่ใช่การทำแบบงานวิจัยที่ต้องแยกเพศอายุสาขาอาชีพ ซึ่งเมื่อฟังความเห็นแล้วตรงกับกรรมาธิการก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าความเห็นตรงกันข้ามกับกรรมาธิการก็ต้องทบทวน หรือหาเหตุผลอธิบายให้ได้ชัดเจนว่า เหตุใดกรรมาธิการจึงวางหลักไว้อย่างนี้ เพราะการร่างรัฐธรรมนูญนั้นต้องคำนึงถึงเสียงของประชาชน" เลขานุการ กมธ. กล่าว


 


         


ปธ.คมช. ให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติ ยืนยัน ทหารจะกลับไปเป็นทหารอาชีพ หลังมีรัฐบาลใหม่


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค -พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ยืนยันว่า จะจัดการเลือกตั้งภายในปีนี้แน่นอน และหลังจากมีรัฐบาลใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งแล้วทหารจะถอนกำลังกลับไปเป็นทหารอาชีพเช่นเดิม ส่วนเรื่องเหตุระเบิด 9 จุด คาดว่า เป็นเรื่องการเมือง เพื่อต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และยืนยันนโยบายเดิมที่จะไม่ใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามขบวนการแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้


         


นอกจากนี้ ประธาน คมช.ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินสายให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติ เพื่อเรียกร้องความสมานฉันท์ของคนในชาติ และคืนประชาธิปไตยให้กับประชาชน ว่า เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นออกจากการสอบสวนในเรื่องการทุจริต ที่คาดว่าจะนำไปสู่การดำเนินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ครอบครัว และคนรู้จัก ส่วนในเรื่องที่จะอนุญาตให้อดีตนายกฯ กลับประเทศหรือไม่นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ยินดีต้อนรับ แต่จะไม่รับรองความปลอดภัย โดยกล่าวว่า ในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายก มีคนหลายแสนออกมาต่อต้าน ซึ่งเป็นอันตรายมากสำหรับคนที่มีคนไม่ชอบมากขนาดนั้น และด้วยเหตุผลนี้ พล.อ.สนธิ จึงไม่สามารถรับรองความปลอดภัยให้ได้


 


 


สุวัจน์-พินิจทิ้งทรท.แน่ยื่นลาออกสัปดาห์หน้า


ผู้จัดการรายวัน- นายสุรชาติ ชำนาญศิลป์ อดีตส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย สมาชิกกลุ่มวังพญานาค กล่าวถึงการตั้งพรรคใหม่ร่วมกันระหว่างกลุ่มวังพญานาค ของนายพินิจ จารุสมบัติ และกลุ่มลำตะคองของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ว่า ที่ผ่านมาทั้ง 2 กลุ่ม ได้หารือกันถึงสถานการณ์การเมืองอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มสูงที่จะตั้งพรรคใหม่ร่วมกัน นอกจากนั้นยังจะมีอดีตแกนนำของพรรคไทยรักไทยมาร่วมด้วยหลายคน อาทิ นายสุวิทย์ คุณกิตติ นายประจวบ ไชยสาส์น นายกร ทัพพะรังสี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นต้น


         


สำหรับพรรคใหม่จะยึดแนวทางสมานฉันท์ เบื้องต้นจะนำนโยบายที่พรรคไทยรักไทยเคยทำไว้ได้ดีมาปรับใช้เป็นนโยบายของพรรคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน โครงการเอสเอ็มแอล ตลอดจนโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาชื่อพรรคใหม่ และตั้งทีมนักวิชาการมาพิจารณา ด้านนโยบาย วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ความเป็นไปได้ต่างๆ ทั้งเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ และสถานการณ์การเมืองในอนาคต


         


นายสุรชาติ กล่าวว่า ในวันที่ 7 ก.พ.นี้กลุ่มวังพญานาคจะหารือกันภายใน ถึงแนวทางการตั้งพรรคใหม่ และในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันเกิดนายสุวัจน์นั้น ทางกลุ่มจะไปร่วมงานด้วย


         


ส่วนการลาออกจากพรรคไทยรักไทยนั้น ขณะนี้ทางกลุ่มวังพญานาคที่มีประมาณ 20 คน ได้เซ็นใบลาออกกันไว้เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะไปยื่นในช่วงเวลาใกล้เคียง กับกลุ่มลำตะคองของนายสุวัจน์ คือช่วงสัปดาห์หน้า


         


ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคใหม่ที่จะตั้งขึ้นเกรงจะถูกมองว่าสืบทอดอำนาจทางทหาร หรือไม่ เพราะจากกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้นายพินิจ แกนนำกลุ่มวังพญานาค มีความใกล้ชิดกับแกนนำคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติบางคนนายสุรชาติ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเราไม่ได้สืบทอดอำนาจ เรามีนโยบายเพื่อประชาชนชัดเจน สมาชิกส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นอดีตส.ส.


         


อย่างไรก็ตามในอนาคตหากจะมีทหารเข้ามาร่วมด้วยเราก็ไม่ปิดกั้น แม้แต่ สมาชิกคมช.บางคนหากเกษียณอายุแล้วอยากมาเล่นการเมือง เราก็พร้อมพิจารณา


 


 


คตส.ย้ำ"ปรีดิยาธร"รับผิดชอบถ้าดันแก้ กม.หวยบนดิน มีผลนิรโทษกรรม"ทักษิณ"


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น-นายอุดม เฟื่องฟุ้ง ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการออกสลากพิเศษ 2 ตัว 3 ตัวหรือหวยบนดิน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยว่ากระทรวงการคลังสามารถออก พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาลได้ โดยไม่มีผลต่อการเอาผิดรัฐบาลชุดที่แล้วที่ออกหวยบนดิน ว่า เป็นการแก้ไขกฎหมายตัวเดียวกับที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเคยวินิจฉัยไว้ ตนเองยืนยันในหลักการเดิมตามประมวลกฏหมายอาญาว่า ถ้าในอดีตมีใครกระทำผิดไว้แล้วต่อมาออกกฏหมายแก้ไขที่เป็นคุณ จะเสมือนว่าความผิดนั้นถูกยกไป เรื่องนี้อนุกรรมการตรวจสอบต้องทำหน้าที่ก่อน ถ้าผลการสอบสวนพบว่ามีมูลก็ต้องตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน แต่ถ้าไม่มีมูล เรื่องก็ต้องยุติ แต่ คตส.ไม่มีอำนาจพิพากษาตัดสินเพราะเป็นอำนาจของศาลยุติธรรม ทั้งนี้ถ้าคดีนี้เข้าสู่ศาลแล้ว  ศาลบอกว่าบุคคลที่ถูกชี้มูลพ้นผิดไปแล้ว เพราะมีการออกกฎหมายที่เป็นคุณ คนที่เสนอกฎหมายฉบับนี้ก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ข้อเป็นห่วงของเราก่อนหน้านี้ก็คือการแก้ไขกฎหมายอาจมีผลย้อนหลัง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคตได้


 


 


โปรดเกล้าฯ2รมต.แม้วฉะคมช.ผ่านไทม์ทำไทยถดถอย


เว็บไซต์คมชัดลึก - โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "วรากรณ์ สามโกเศศ" เป็น รมช.ศึกษาฯ "อรนุช โอสถานนท์ " เป็น รมช.พาณิชย์ ด้าน "ทักษิณ" ยืนยันวางมือการเมืองผ่านสื่อไทม์


 


พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีว่า รัฐมนตรีของสองกระทรวงมีงานมาก จึงต้องการผู้ที่เข้ามาช่วยงาน


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นความเห็นของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ และเจ้ากระทรวงเป็นผู้เลือกเอง ส่วนกระทรวงอื่นๆ ที่ไม่ขอมาขณะนี้ยังไม่มีการปรับ



 


เมื่อถามว่า การปรับคณะรัฐมนตรีสองตำแหน่ง จะทำให้รัฐบาลมีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เฉพาะสองกระทรวงนี้ และคิดว่าจะมีจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะงานด้านการศึกษามีมาก ในขณะที่งานของกระทรวงพาณิชย์ก็มีเพิ่มมากขึ้นด้วย เนื่องจากมีงานประชุมในต่างประเทศ และคงไม่ต้องเน้นอะไรเป็นพิเศษ เพราะแต่ละคนเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญกว่าตน เก่งทั้งคู่


 


         


"ทักษิณ" ยันวางมือผ่านสื่อไทม์


พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์นางฮันนาห์ บีช หัวหน้าศูนย์ข่าวของไทม์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กรุงโตเกียว ถึงประเด็นการเกิดเหตุการณ์รัฐประหารที่แทบจะไม่มีประชาชนออกมาคัดค้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เลยว่า ก็เหมือนกับการปฏิวัติ 17 ครั้ง ที่เคยเกิดขึ้นในไทย โดยตอนแรกประชาชนจะรู้สึกตกใจ และเริ่มแสดงความกังวลออกมา จากนั้นก็จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะปฏิรูปการปกครอง (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ) คนไทยเป็นคนมีวินัย และเชื่อฟัง แต่พวกเขาก็ยังจับตาดูว่า รัฐบาลใหม่จะทำอะไร และจะคืนประชาธิปไตยให้ประชาชนเมื่อไร แต่ความอดทนของคนก็มีขีดจำกัด


  


ส่วนที่รัฐบาลใหม่แสดงความรับผิดชอบต่อนโยบายที่มีการโต้แย้งกันมาก ทั้งเรื่องการควบคุมเงินทุน ที่นำมาใช้เมื่อเดือนธันวาคม และการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เพื่อจำกัดการเข้าถือครองหุ้นบริษัทไทยของนักลงทุนต่างประเทศนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ มองการเคลื่อนไหวเหล่านี้ว่า "ไม่มีใครสามารถใช้ลัทธิกีดกันได้อีกต่อไป ไทยต้องพร้อมที่จะก้าวสู่ยุคโลกาภิวัตน์ คุณไม่สามารถปฏิเสธมันได้ อะไรก็ตามที่ไปสวนกระแสเรื่องที่เปิดกว้างอย่างมากอยู่แล้ว จะทำให้เกิดความสับสน และไม่แน่นอน ซึ่งจะทำให้นักลงทุนถอนตัวออกไป" 


 


ต่อข้อถามว่า จากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พบปะกับบรรดาผู้นำธุรกิจหลายคนในญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่สุดในไทยมาเป็นเวลาช้านาน ได้บอกอะไรพวกเขาบ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชี้แจงว่า ได้บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในไทยคืออาการติดขัดเพียงชั่วคราว ซึ่งท้ายที่สุดแล้วประชาธิปไตยจะมีชัยเหนือทุกสิ่ง และการลงทุนของพวกเขาจะได้รับผลตอบแทน


 



พ.ต.ท.ทักษิณ ยังตอบคำถามที่ว่า คมช.อ้างว่า กลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในกรุงเทพมหานครช่วงปีใหม่ โดยปฏิเสธว่าตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง ส่วนผู้กระทำต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย การชี้มาที่ผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานและปราศจากการสอบสวน เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง


  


ส่วนการที่มีการระบุว่า รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมทุจริตนั้น อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ตนได้ซักถามรายละเอียดของโครงการต่างๆ ก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติอนุมัติ โดยการปฏิวัติทั้ง 17 ครั้งที่ผ่านมา คอรัปชั่นเป็นหนึ่งในข้ออ้างที่ใช้กัน แต่ผู้นำในการปฏิวัติบางคนก็ลงเอยด้วยการคอรัปชั่นยิ่งกว่าเก่า ไม่ว่าอย่างไร การคอรัปชั่นก็ไม่หายไปจากเมืองไทย เพราะมันอยู่ในระบบ


 



พ.ต.ท.ทักษิณ ยังปฏิเสธเรื่องการปิดกั้นสื่อในช่วงที่ขึ้นบริหารประเทศว่าไม่เป็นความจริง โดยอ้างว่าสื่อตีพิมพ์ข้อมูลที่ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับตน หนังสือพิมพ์ไม่ควรตีพิมพ์ หากข้อความทั้งหมดไม่ใช่ความจริง เพราะจะทำลายชื่อเสียงของผู้อื่น ฉะนั้นตนจึงติเตียนพวกเขา โดยใช้คำพูดที่แข็งกร้าวในบางครั้ง และยืนยันว่าไม่เคยแทรกแซงการทำงานของสื่อ


  


อดีตนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวตอบข้อซักถามที่ว่าประชาธิปไตยในไทยเติบโตแค่ไหนแล้วว่า หากไม่มีประชาธิปไตย ไทยก็ก้าวหน้าไปไม่ได้ เพราะหากไม่มีประชาธิปไตย เราก็ทำให้บรรดานักลงทุนเชื่อใจและมั่นใจในการพัฒนาประเทศไม่ได้ หากมองย้อนไปถึงพัฒนาการของความเจริญแล้ว เส้นโค้งแรกของความเจริญคือกองทัพ หรือเกมแห่งเกียรติยศ โค้งที่สองคือ การเป็นประเทศอุตสาหกรรม หรือเกมแห่งความมั่งคั่ง ส่วนเส้นโค้งปัจจุบัน คือเกมแห่งองค์ความรู้ หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) เราต้องแข่งขันในเกมแห่งองค์ความรู้ ไม่ใช่เกมแห่งเกียรติยศ แต่ คมช.ต้องการทำให้ประเทศถอยหลังกลับไปสู่จุดนั้น ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดี ควรจะพาประเทศก้าวไปข้างหน้า


 



ต่อข้อถามว่าจะหวนกลับมาเล่นการเมืองอีกหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนมีความรู้สึกหลายอย่าง หลังจากหลุดจากตำแหน่งโดยการปฏิวัติ


  


"ในทางลบ ผมรู้สึกว่าเป็นโชคร้ายของประเทศไทย และระบอบประชาธิปไตยของไทย ทั้งความเชื่อมั่นที่ผมพยายามสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยความยากลำบาก หลังจากวิกฤติการเงินเมื่อปี 2540 ก็สูญหายไป แต่ในทางบวก ผมก็คิดว่า โอ...ตอนนี้ผมเกษียณได้แล้ว ผมสามารถมีเวลาเป็นของตัวเอง มีเวลาให้ครอบครัว ไปพบปะเพื่อนฝูง และพักผ่อนได้เต็มที่ ชีวิตคนมันสั้น ถ้าคุณสามารถสร้างความสุขให้ตัวเองและครอบครัวของคุณได้ ก็เป็นสิ่งที่ดี ในวันนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าหากผมลงเลือกตั้งอีก ผมชนะแน่นอน แต่ผมไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมืองแล้ว ผมเรียกมันว่า การวางมือ" พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการเดินสายให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เกิดขึ้นหลังจากมีข่าวการว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ให้เข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์และแก้ข้อกล่าวหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังถูกยึดอำนาจจนต้องพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


 


         


จารุวรรณเผยทักษิณค้านนั่งอนุกก.ไต่สวน


คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณส่งทนายคัดค้าน 3 อนุกรรมการไต่สวนซีทีเอ็กซ์ว่า บุคคลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คัดค้านคือ ตน และนายไพฑูรย์ ทิพยทัศน์ ผอ.สำนักตรวจสอบที่ 1 ของ สตง. ส่วนอีกคนหนึ่งจำไม่ได้ โดยระบุว่ามีส่วนรู้เห็นในการตรวจสอบเรื่องนี้มาก่อน ทำให้มีส่วนได้เสีย ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เคยร้องคัดค้านนายกล้านรงค์ จันทิก ในการเป็นอนุกรรมการไต่สวนเรื่องการเลี่ยงภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ฯ แต่ คตส.ไม่รับคำค้าน


 



 "หากอ้างเหตุผลนี้ ดิฉันก็ไม่สามารถตรวจสอบหรือเป็นอนุกรรมการไต่สวนในชุดใดๆ ได้เลย เพราะที่มาหรือต้นเรื่องที่ตรวจสอบอยู่ก็เริ่มจาก สตง.ทั้งนั้น เช่นเดียวกับนายไพฑูรย์ ก็จับเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ดังนั้นในชั้นการตรวจสอบของอนุกรรมการไต่สวน ที่จะมีการขยายผล หรือสาวถึงเบื้องหลัง จำเป็นต้องได้คนที่รู้เรื่องถึงต้นสายปลายเหตุ ไม่เช่นนั้นหากได้คนใหม่มาเป็นอนุกรรมการ และไม่รู้เรื่อง ใช้เวลา 3 ปีก็ไม่จบ ขอย้อนถามหน่อยว่า คตส.เหลือเวลาทำงานอีกเท่าไร อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาร้องมา ก็ต้องเข้าที่ประชุม คตส." คุณหญิงจารุวรรณ กล่าว


 


 


เหตุแท็กซี่เวย์ร้าวเบื้องต้นเกิดจากระดับน้ำ-ผสมยางมะตอยมากเกินไป


ไอ.เอ็น.เอ็น. -นายสืบศักดิ์ กมล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ และกรรมการตรวจสอบปัญหาการชำรุดบริเวณแท็กซี่เวย์ และรันเวย์ของท่าอากาศยานสุวรรรภูมิ เปิดเผยว่าสาเหตุที่พบในเบื้องต้นน่าจะเกิดจากระดับน้ำ และเกิดจากวัสดุในการผสมของชั้นบนสุด ระหว่างหินเม็ดเล็กและยางมะตอย ซึ่งคาดว่าจะใช้ยางมะตอยในการผสมมากเกินไปแต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเกิดจากสาเหตุนั้นจริงหรือไม่ และค้นหาสาเหตุอื่นๆ พร้อมกันไปด้วย


 


ด้าน นายสุชัชวีย์ สุวรรณสวัสดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการตรวจสอบปัญหาการชำรุดบริเวณแท็กซี่เวย์ และรันเวย์ของท่าอากาศยานสุวรรรภูมิ เปิดเผยว่าจากผลการตรวจสอบจากการขุดชั้นบนสุด มีการยุบตัวมากที่สุดบริเวณแท็กซี่เวย์ พบว่าชั้นที่ยุบตัวนั้นคือชั้นบนสุด ส่วนชั้นอื่นๆ ไม่มีการยุบตัว จึงได้ตั้งสมมติฐานว่าปัญหาอยู่เพียงชั้นบนสุดที่ถูกเครื่องบินขับผ่านเท่านั้น


 


 


คุณภาพชีวิต


 


ก.แรงงานเล็งคลอดกฎหมาย ล้อมคอกตาย-เจ็บขณะทำงาน


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ -คณะกรรมการประกันสังคม คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน และคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน ประมาณ 120 คน ได้เข้าร่วมสัมมนา เรื่อง "พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน" โดยมีนายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยระหว่างการเปิดการสัมมนา ว่า กระทรวงแรงงานต้องการให้คุณภาพชีวิตแรงงานไทยได้รับความปลอดภัยจากการทำงาน จึงได้มีการร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ขึ้น เพื่อแยกกับ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541


 



ทั้งนี้ ต้องการใช้บังคับเป็นกฎหมายของกระทรวงแรงงานที่แน่นอน โดยรัฐบาลต้องการให้คุณภาพชีวิตของแรงงานไทยมีความปลอดภัยจากการทำงาน และคุ้มครองดูแลสุขภาพ ทั้งทางกายและใจ ให้แรงงานอยู่ในสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย อีกทั้งต้องการลดอุบัติเหตุหรือความเจ็บป่วยจากการทำงาน และเป็นการคุ้มครองแรงงานทุกอาชีพ รวมทั้งอาชีพของเกษตรกรรม


  


สำหรับนายจ้างที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อาทิเช่น สถานประกอบการไม่มีระบบความปลอดภัย มีอุปกรณ์ที่อันตราย ต้องแจ้งให้กับพนักงานความปลอดภัยของกระทรวงแรงงาน  และหากมีการฝ่าฝืนตรวจพบการระงับใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้คุณภาพที่ก่อให้เกิดอันตรายในสถานประกอบการ ต้องจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกเป็นรายวันไม่เกินวันละห้าพันบาท เพื่อที่ต้องการให้ประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานประกอบการที่อยู่ในชุมชน มีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น และแรงงานต้องได้รับความคุ้มครองความปลอดภัยจากการทำงานที่แน่นอน


  


ในส่วนของฝ่ายนายจ้างเรื่องของเศรษฐกิจ ผู้ร่วมลงทุนอาจให้ความเชื่อมั่นในเรื่องของประสิทธิภาพของสถานประกอบการทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก และคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจของไทยในอนาคตดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการคุ้มครองแรงงานไทยในสาขาอาชีพทุกอาชีพ



 


ทั้งนี้ จากสถิติกองทุนเงินทดแทน ของสำนักงานประกันสังคม พบว่า มีผู้ประสบอันตรายจากการทำงานบาดเจ็บทุกกรณีในปี 2548 จำนวน 27 คนต่อ 1,000 คน บาดเจ็บร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ เสียชีวิต หยุดงานตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป 8 คนต่อ 1,000 คน ส่วนปี 2549 มีแนวโน้มลดลง 7 คนต่อ 1,000 คน


 


  


ลูกจ้างแบงก์80,000คนโวยสัญญาทาส


เดลินิวส์ - ที่กระทรวงแรงงาน นายชัยสิทธิ์ สุขสมบูรณ์ ประธานสหภาพธนาคารกรุงเทพ พร้อมด้วยกรรมการสหภาพแรงงานจำนวน 10 คน ได้เป็นตัวแทนสหภาพแรงงานธนาคารพาณิชย์ เข้าพบนายอาทิตย์ อิสโม ผอ. สำนักแรงงานสัมพันธ์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เพื่อให้รับเป็นเจ้าภาพแก้ปัญหาข้อพิพาทแรงงานกรณีที่ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ อาศัยช่องโหว่ของกฎหมายเปิดธุรกรรมทางการเงินโดยจัดตั้งธนาคารสาขา ในห้างสรรพสินค้าแล้วบังคับให้พนักงานเซ็นสัญญาเป็นรายบุคคลเพื่อเข้าทำงานโดยไม่มีสิทธิหยุดงานในวันหยุดนักขัตฤกษ์และได้รับค่าทำงานล่วงเวลาซึ่งมาตรการนี้เป็นการฝ่าฝืนกระบวนการแรงงานสัมพันธ์แม้ว่าในสัญญาการจ้างงานจะระบุว่าให้พนักงานสามารถหยุดพักระหว่างการปฏิบัติหน้าที่วันละ 2 ชั่วโมงแต่ในทางปฏิบัติพนักงานได้พักเพียงครึ่งชั่วโมง


         


นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาทำให้ทราบว่าขณะนี้พนักงานธนาคาร 80,000 คน อึดอัดกับสัญญาการจ้างงานที่เอารัดเอาเปรียบที่ผ่านมาผู้บริหารพยายามบอกว่าการทำงานเป็นไปอย่างมาตรฐานแต่ในความเป็นจริงสภาพการจ้างและมาตรฐานสวัสดิ การยังมีความลักลั่น เหลื่อมล้ำ เช่น กรณีที่ธนาคารแห่งหนึ่งควบรวมกิจการไม่ได้มีกำไรเพิ่มขึ้นทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการออกนโยบายเพื่ออุ้มผู้บริหารมากกว่าคำนึงถึงการช่วยเหลือพนักงานตามที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) กำหนด


 


ทั้งนี้ได้ข้อสรุปว่าในเร็ว ๆ นี้กระทรวงแรงงานจะเชิญตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ และสหภาพแรงงานธนาคารมาพูดคุยและลงนามข้อตกลงการจัดระเบียบในการจ้างงานพนักงานธนาคารอย่างเป็นธรรมต่อไป


 


"ทุกแบงก์เปิดสาขาในห้างสรรพสินค้า บางห้างมีทุกธนาคาร แต่ละแห่งมีพนักงานไม่ต่ำกว่า 5 คน ต้องทำงานทุกวัน อยู่ในห้างตั้งแต่เรื่องเอกสารนั่งเฝ้าตู้เอทีเอ็มในแต่ละวันได้พักไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทั้งที่เคยตกลงไว้ 2 ชั่วโมง วันหยุดนักขัต ฤกษ์ เสาร์ อาทิตย์ ก็ไม่ได้หยุดทำให้พนักงานเริ่มที่  จะทยอยกันลาออก ธนาคารอื่น ๆ ไม่รู้แต่ที่ธนาคารใหญ่อันดับ 1 ของประเทศลาออกไปหลายราย ขณะ นี้กำลังหาคนมาทำแทนประมาณ 300 คนแล้ว" นายชัยสิทธิ์ กล่าว


         


นายผดุงศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพการจ้างงานเปลี่ยนไปมากเนื่องจากธนาคารแต่ละแห่งมีการแข่งขัน ดังนั้นขอให้นายจ้างเข้าใจลูกจ้างด้วยโดยต้องมานั่งคุยกันซึ่งอาจจะมีการกำหนดข้อตกลงกันโดยเฉพาะเช่น พนักงานในเมนออฟฟิศก็ยังคงบังคับใช้กฎหมายเดิม แต่อาจจะเพิ่มกฎหมายหรือข้อตกลงพิเศษกับพนักงานกลุ่มนี้ อาทิ เวลาในการทำงาน โอที วันหยุด ทั้งนี้กระทรวงแรงงานก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพในการหารือโดยจะประสานกับผู้เกี่ยวข้องเพราะเป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจของชาติโดยรวม


 


คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เตรียมผลักดันให้คนไร้สัญชาติทั่วประเทศกว่า 7 แสนคน เข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพ


กรมประชาสัมพันธ์ - นพ.ปิยะ เนตรวิเชียร รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. กล่าวภายหลังตรวจระบบหลักประกันสุขภาพในกลุ่มคนไร้สัญชาติ ที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าในจังหวัดแม่ฮ่องสอนพบบุคคลไร้สัญชาติ และไม่สามารถรับบริการทางการแพทย์ในระบบหลักประกันสุขภาพได้กว่า 4 หมื่นคน ทั้งที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในไทยมาแล้วกว่า 20 ปี ขณะที่ตัวเลขผู้ไร้สัญชาติทั่วประเทศมีสูงถึง 7 แสนคน ดังนั้นจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเร่งนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้คนไร้สัญชาติ มีสิทธิรับบริการทางการแพทย์เทียบเท่าประชาชนไทยโดยเร็ว


 



 


การนิคมอุตสาหกรรม เตรียมตั้งกองทุน 10 ล้านบาท ช่วยชาวระยองที่ได้รับมลพิษจากมาบตาพุด


กรมประชาสัมพันธ์ -นายอุทัย จันทิมา ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า ผู้บริหาร กนอ.ได้จัดประชุมร่วมกับเครือข่ายภาคตะวันออก เพื่อปรึกษาหารือในเรื่องที่ นายสุทธิ อัฌาศัย ผู้แทนเครือข่าย ได้เสนอ 8 ประเด็น ให้ ทาง กนอ.หาแนวทางแก้ไข นำไปสู่แนวทางปฎิบัติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น  ซึ่งบางเรื่อง อยู่ในอำนาจที่ กนอ.สามารถแก้ไข แต่บางเรื่องไม่ใช่  ซึ่งเรื่องที่ชัดเจนขณะนี้ คือ เรื่อง การจัดตั้งสหภาพแรงงาน  เรื่อง การตั้งกองทุนวงเงิน 10 ล้านบาท กนอ.จะร่วมกับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด คาดว่าวงเงินกองทุนทั้งหมดจะสูงถึง 100 ล้านบาท ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษในพื้นที่นิคมฯ มาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งการบริหารจัดการกองทุนนั้น กนอ.จะเป็นเพียงผู้ประสานงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส  ส่วนผู้รับผิดชอบร่างหลักเกณฑ์ร่วมกัน จะประกอบไปด้วยผู้แทนภาคตะวันออก 25 ชุมชน ผู้แทนจังหวัดระยอง ช่วยกันดูแลในเรื่องนี้


 


ทางด้านนายสุทธิ อัฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาชน ภาคตะวันออก กล่าวว่า กลุ่มเครือข่ายภาคประชาชน ภาคตะวันออก ภาครวมยังไม่พึงพอใจ เพียงแต่มีความคืบหน้าไปบ้างเท่านั้น เช่น เรื่อง สหภาพพนักงานในโรงงาน  ประเด็นกองทุนสุขภาพ จะต้องมาว่าด้วยการจัดการเชิงบริหารที่จะทำได้มากน้อยแค่ไหน แต่บางเรื่อง กนอ.ยังสามารถตัดสินใจได้ เช่น ประเด็นเขตควบคุมมลพิษ ยังไม่ถูกพูดถึง และมาตรการเอาจริงเอาจังกับโรงงาน


 


 


ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.50) ตนจะไปยื่นหนังสือถึง นายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับทราบปัญหา เรื่อง การผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ ที่บริษัท อีสวอเตอร์ ผันน้ำไปช่วย โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งผิดวัตถุประสงค์การก่อสร้างอ่างให้ทบทวนนโยบายรัฐบาลทักษิณ ส่วนวันจันทร์ที่ 5 ก.พ.50 จะไปยื่นหนังสือที่มีการประชุมกับ กนอ.ในวันนี้ ถึงนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่บางเรื่องยังไม่สามารถทำได้  เพื่อให้ช่วยหาทางกำหนดนโยบายใหม่


 


  


กทม.แต่งตั้งคณะกรรมการ ร่วมส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้พิการ


กรมประชาสัมพันธ์ -นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนองค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครว่า กทม.จะเร่งส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้พิการทุกประเภทตามข้อเสนอ โดยเตรียมตั้งคณะกรรมการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้พิการ กทม.ให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ เป็นการทำงานร่วมระหว่าง กทม. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และตัวแทนผู้พิการจากสมาคมต่างๆ พร้อมผลักดันให้การนำกฎหมาย เรื่องการอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการมาใช้อย่างจริงจัง ส่วนกรณีข้อเรียกร้องของผู้พิการให้เปลี่ยนทางเข้า จากเดิมที่มีไกดิ้งบล็อกสำหรับคนตาบอด รวมกับทางเข้าที่ปูด้วยอิฐ ทำให้ไม่สามารถแยกผิวสัมผัสได้นั้น จะเร่งปรับเปลี่ยนให้เป็นทางเรียบ และให้มีการแจ้งเตือนเวลามีการเปลี่ยนระดับทางเข้า ซึ่งจะมีการหาข้อชัดเจนอีกครั้งในเดือนมีนาคมนี้


 



 


พาณิชย์โต้ยักษ์ค้าปลีกออกไกด์ไลน์เป็นธรรม


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กรมได้รับการร้องเรียนให้ดำเนินการกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่กรณีขายต่ำกว่าทุน ขณะนี้ได้มีความพยายามจากสมาคมผู้ค้าปลีกไทยในการกล่าวหากรม ว่า กรณีที่ปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมในธุรกิจค้าปลีก (ไกด์ไลน์) นั้น เป็นการทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ผลิตสินค้า (ซัพพลายเออร์) แทนที่จะปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคให้ได้รับสินค้าราคาถูก ซึ่งกรมยืนยันว่าการมีไกด์ไลน์ เป็นการดำเนินการตามกติกาสากล และทำเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น ในระบบค้าปลีกค้าส่ง และผู้บริโภคในระยะยาว


  


รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วานนี้ (2 ก.พ.) ตัวแทนผู้ประกอบการค้าใน อ.บ้านผือ และ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ประมาณ 10 คน ได้เดินทางมายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการช่วยเหลือกรณีที่ห้างเทสโก้ โลตัส กำลังขออนุญาตจัดตั้งโลตัสเอ็กซ์เพรสในเทศบาล อ.บ้านผือ โดยต้องการให้รัฐบาลยับยั้งการก่อสร้างดังกล่าว เพราะหากสามารถก่อสร้างได้สำเร็จ จะกระทบกับผู้ค้าในตลาดเทศบาล และร้านโชห่วยประมาณ 200 ราย


 


 


ความมั่นคง


 


ดีเอสไอโวยดิสเครดิต ทหารหวั่นเสียรูปคดี


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ -ตามที่มีหนังสือพิมพ์บางฉบับนำเสนอภาพ นายถวัลย์ศักดิ์ แปแนะ ผู้ต้องหาในคดีลอบวางระเบิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยคดีลอบวางระเบิดในเขตกรุงเทพฯ ในคืนส่งท้ายปีเก่า หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาให้ข่าวความคืบหน้าของคดีนั้น ทำให้อธิบดีดีเอสไอแสดงความไม่พอใจอย่างมาก โดยระบุว่าเป็นการดิสเครดิตจากบางฝ่ายให้เหมือนกับว่า ดีเอสไอเป็นผู้ปล่อยภาพแก่สื่อมวลชน ทั้งๆ ที่พยานหลักฐานยังไม่ชัดเจน


 



นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าววานนี้ (2 ก.พ.) ว่า ในชั้นต้นยอมรับว่าภาพผู้ต้องสงสัยที่ถูกนำไปเผยแพร่ เป็นภาพที่ดีเอสไอแกะรอยได้จริง แต่ยังไม่ยืนยันความแน่นอน เพราะเป็นเพียงการวิเคราะห์จากภาพ ซึ่งได้มาไม่ค่อยชัดเท่าไร ส่วนผู้ต้องสงสัยจะชื่อหรือนามสกุลอะไร ยังไม่อยากให้ประชาชนสนใจจนกว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจน เพราะดีเอสไอยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นผู้กระทำผิดจริง ต้องทราบข้อมูลว่าในวันเกิดเหตุผู้ต้องสงสัยรายนี้อยู่ที่ซีคอนสแควร์ (หนึ่งในจุดที่เกิดเหตุระเบิด) หรือไม่ ขณะที่กระบวนการส่งภาพไปตรวจพิสูจน์ยังต่างประเทศ จะทราบผลในอีก 1 สัปดาห์


 


"ผมขอยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่า ภาพและข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏตามสื่อ ไม่ได้ออกไปจากดีเอสไอ โดยผมได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาสอบถาม ก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่เคยนำข้อมูลการสืบสวนในสำนวนคดีไปเปิดเผย ส่วนภาพของผู้ต้องสงสัยมีอยู่ใน 3 หน่วยงาน คือ ดีเอสไอ กองปราบปราม และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่า ภาพดังกล่าวได้มาเป็นเดือน แต่ไม่เคยถูกนำมาเปิดเผย จนกระทั่งดีเอสไอเข้ามาสืบสวนแกะรอย กลับปรากฏภาพดังกล่าวขึ้นมา"


  


ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ข้อมูลสำคัญหลุดออกไปเป็นข่าว ถือเป็นการดิสเครดิตดีเอสไอหรือไม่ นายสุนัย กล่าวว่า ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อดีเอสไอ เพราะคนที่อ่านข่าวจะเข้าใจว่ารายละเอียดออกมาจากการให้ข่าวของอธิบดี ทั้งที่ความจริงไม่เคยพูด ขณะเดียวกันเหตุการณ์ลักษณะนี้จะทำให้การทำงานยากลำบากขึ้น ฉะนั้นหลังจากนี้จะไม่มีการให้ข่าวใดๆ จนกว่าการสืบสวนจะมีความชัดเจนและจนสามารถขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาได้ตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสน เพราะทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ก็ได้กำชับไม่ให้ทุกฝ่ายเปิดเผยข้อมูลในสำนวนคดี


 



นายสุนัย กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวมีความเห็นว่า คดีลอบวางระเบิดอย่างน้อย 8 จุดในกรุงเทพฯ ควรโอนมาเป็นคดีพิเศษ เพราะการแยกกันทำงานของ 3 หน่วยงานมีความยากลำบาก ขณะที่ดีเอสไอมีวิธีสอบสวนตามกฎหมายที่พิเศษกว่าตำรวจ สามารถดึงผู้เชี่ยวชาญจากทุกฝ่ายทั้งในและนอกประเทศเข้าร่วมได้ และยังสามารถใช้เทคนิคการดักฟังโทรศัพท์ รวมถึงแฝงตัวเข้าไปสืบสวนได้โดยชอบตามกฎหมายด้วย อีกทั้งการทำงานของดีเอสไอ ยังอยู่ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งจะทำให้คดีเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องและโปร่งใส


 


 อย่างไรก็ตาม คงไม่เสนอให้มีการรับโอนเป็นคดีพิเศษด้วยตัวเอง โดยจะให้เป็นการแสดงความเห็นโดยอิสระของคณะกรรมการคดีพิเศษ หากกรรมการเห็นตรงกันว่าต้องรับโอนเป็นคดีพิเศษ ก็สามารถเรียกประชุมเป็นวาระเร่งด่วนได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงนัดประชุมวาระประจำเดือน


 



ด้านความเคลื่อนไหวของฝ่ายตำรวจ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้เรียกประชุมคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดกลางกรุงเทพฯ อย่างเคร่งเครียด และสั่งกำชับให้เร่งตรวจสอบว่า ภาพและข้อมูลของผู้ต้องสงสัยที่หลุดออกไป เกิดจากความผิดพลาดบกพร่องของผู้ใดหรือไม่ หลังจากทางดีเอสไอออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดพลาดในครั้งนี้


 



แหล่งข่าวระดับสูงจากหน่วยงานด้านการข่าวของตำรวจ เผยว่า ภาพผู้ต้องสงสัยตามที่ปรากฏเป็นข่าว ทางนครบาลได้ข้อมูลมานานแล้ว และกำลังส่งสายสืบลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อหาเบาะแส รวมทั้งประกบตัวบุคคลแวดล้อม จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะหลุดมาจากฝั่งตำรวจ


  


ส่วนทางฝ่ายทหาร พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ข้อมูลและภาพที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งทหาร ตำรวจ และดีเอสไอก็รู้กันอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาเราสอบกันเงียบๆ แต่เมื่อปรากฏออกมาอย่างนี้ ก็ต้องว่ากันต่อไป


  


"ผมเคยพูดแล้วว่าเรามีรูปภาพอยู่ เพียงแต่มีการสอบทางลับ แต่เมื่อมาเปิดก็จะต้องว่ากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะจริงๆ อยากให้มีการสอบทางลับมากกว่า" แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุ พร้อมยืนยันว่า คดีนี้จะไม่มีมวยล้มหรือจับแพะอย่างแน่นอน


 



ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักฐานจากภาพในกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) สามารถโยงไปทางไหนได้บ้าง พล.ท.ประยุทธ์ กล่าวว่า เท่าที่ดีเอสไอเปิดเผยมา ว่ามีผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับคดีทางภาคใต้ เราก็ต้องพิสูจน์ต่อไปว่า เป็นคนวางระเบิดจริงหรือไม่ ส่วนขั้นตอนหลังจากนั้น ถ้าเป็นบุคคลผู้นี้วางจริง หรือวางเองด้วยการรับจ้าง หรือวางด้วยสถานการณ์ทางใต้ ก็ต้องนำมาวิเคราะห์กันอีกครั้ง แต่ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ และอย่าเพิ่งไปยืนยันว่า สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ลุกลามเข้ามาในกรุงเทพฯ


  


   


แม่ทัพภาคที่ 1 ยัน ไม่มีมวยล้มคดีบึ้มกรุง


ไอ.เอ็น.เอ็น.-พล.ท.ประยุทธ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่า คดีลอบวางระเบิด 9 จุด เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา จะไม่เป็นมวยล้มอย่างแน่นอน และอย่างเพิ่งด่วนสรุปว่า เกี่ยวข้องกับความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงแม้ว่า ผู้ต้องสงสัยที่ปรากฎในกล้องวงจรปิดจะเคยก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้มาก่อนก็ตาม เพราะต้องรอการสืบสวนสอบสวนของตำรวจและดีเอสไอก่อน ซึ่งเมื่อผลสรุปของคดีออกมา ทั้ง 2 หน่วยงานจะสามารถตอบคำถามของสังคมได้ ตามที่ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา สำหรับระเบิด เอ็ม 79 ที่ยิงเข้าไปในสำนักพิมพ์เดลินิวส์นั้นยืนยัยว่า ไม่ได้เล็ดลอดมาจากมาจากกองทัพ เพราะอาวุธดังกล่าว ได้ปลดประจำการไปแล้ว แต่เชื่อว่าน่า จะเล็ดลอดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกันนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ยังได้เรียกร้องให้ทุกฝ่าย หยุดวิพากษ์วิจารณ์การเลื่อยขาเก้าอี้ของ พล.ต.อ.โกวิทวัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ


  


 


นายกฯระบุ อย่าด่วนสรุปบึ้มกรุงโยงไฟใต้ พร้อมคุย นายกมาเลย์ เรื่องไฟใต้และ130 คนไทย


ไอ.เอ็น.เอ็น. -พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี หลังจากได้ตรวจเยี่ยมโรงเรียนปอเนาะ ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.ปาระ อ.กะบัง จ.ยะลา ยังได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการวางระเบิดใน กทม.ที่ผ่านมาด้วยว่า ในเรื่องของเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่ กทม.นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ ส่วนจะมีการเกี่ยวโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่นั้น เป็นเพียงการสงสัยเท่านั้น อย่างเพิ่งด่วนสรุปว่า เป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้ ซึ่งนอกจากจะหาข้อสรุปไม่ได้ การที่จะพูดอะไรก็ต้องพูดในสิ่งที่ดี ๆ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ อย่างมองในด้านลบเพียงอย่างเดียว


         


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงการที่ผู้นำประเทศมาเลเซีย ที่จะเดินทางมาเยือนประเทศในวันที่ 11 ก.พ.นี้ด้วยว่า ก็คงจะมีการพูดคุยกัน ในเรื่องด้านเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ในภาคใต้ ส่วนในเรื่องของ 131 คนไทย ที่อยู่ในประเทศมาเลเซียนั้น ก็เป็นเรื่องของพวกเขา ทั้ง 131 คน ว่าจะเดินทางกลับมาหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา โดยทางรัฐบาลไทย ก็ไม่ได้ว่าอะไรหากจะกลับมา


 


รองแม่ทัพภาค 2 ขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนในจังหวัด โดยเฉพาะวิทยุชุมชนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้เรื่องระบอบประชาธิปไตย-ความมั่นคงของชาติ


กรมประชาสัมพันธ์ - พลตรีธีระศักดิ์ ฤทธิวงค์ รองแม่ทัพภาค 2 มอบแนวทางการประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชนจังหวัดยโสธร ขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนในจังหวัด โดยเฉพาะวิทยุชุมชนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้เรื่องระบอบประชาธิปไตย เรื่องความมั่นคงของชาติ พร้อมด้วยการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์


 


รองแม่ทัพภาค 2 ได้กล่าวเน้นย้ำให้สื่อทุกแขนงให้ความสำคัญในการประชาสัมพันธ์ตามแนวทางดังกล่าวให้เป็นที่เข้าใจแก่ประชาชน พร้อมทั้งมอบนโยบายการประชาสัมพันธ์ภาครัฐให้นายอำเภอชี้แจงทำความเข้าใจแก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมนำไปชี้แจงเจตนารมณ์ของรัฐบาลให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าใจ พร้อมทั้งนโยบายการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่เป็นปัญหาต่อเนื่อง


 



 


มท.เพิ่มกำลัง ผช.ผญบ.ในพื้นที่ชายแดนใต้อีก 1,200 อัตรา


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น -นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวผ่านระบบสื่อสารวิทยุเฉพาะกิจของกรมการปกครองถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอำเภอ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการทั่วประเทศ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ได้มีการเพิ่มอัตรากำลังผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความสงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากเดิมหมู่บ้านละ 1 คน เป็นหมู่บ้านละ 5 คน จำนวน 300 หมู่บ้าน รวม 1,200 อัตรา ในหมู่บ้านที่มีความเปราะบางทางความเข้าใจระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


 


 


มหาเธร์ยกย่องสุรยุทธ์แก้ปัญหาใต้/แขวะ'แม้ว'เดินหมากผิด


ผู้จัดการออนไลน์ -- เอพี - มหาเธร์ โมฮาหมัด ยกย่อง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีไทยในแนวทางการปราบกลุ่มก่อการร้ายทางภาคใต้ พร้อมระบุนโยบายแก้ปัญหาของ ทักษิณ คือความผิดพลาด


    


อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสิ่งที่พล.อ.สุรยุทธ์ ทำถือเป็นย่างก้าวที่ดีมาก ในการกล่าวคำขอโทษพี่น้องมุสลิมต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดก่อน


    


พลเรือนกว่า 1,900 คน ต้องสังเวยจากเหตุความไม่สงบทางภาคใต้ของไทยที่เริ่มปะทุในเดือนมกราคมปี 2004 โดยที่ มหาเธร์ มีส่วนเป็นคนกลางในการเจรจาระหว่างกลุ่มก่อความไม่สงบกับรัฐบาลของไทยภายใต้การนำของทักษิณ เมื่อปีที่แล้ว


    


หลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่นาน พล.อ.สุรยุทธ์ ได้กล่าวคำขอโทษต่อพี่น้องมุสลิมเกี่ยวกับนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลทักษิณ


    


ในขณะที่ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีจุดยืนคือพยายามรบกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ทว่านโยบายใช้การทหารทำหน้าของเขากลับไม่สามารถทำให้ความรุนแรงเบาบางลง


    


มหาเธร์ กล่าวว่า "ทักษิณ เป็นนักธุรกิจ และธุรกิจแกี่ยวข้องกับการเอาชนะ แต่คุณไม่สามารถเป็นผู้ชนะได้ในสถานการณ์เช่นนั้น" พร้อมกับระบุต่อว่าถ้าทักษิณดำเนินนโยบายเหมือนกับพล.อ.สุรยุทธ์ ตั้งแต่ต้น คงหลีกเลี่ยงการเสียเลือดได้


    


อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ยังได้แนะนำให้รัฐบาลไทยดำเนินการเจรจากับผู้นำอาวุโสของกลุ่มก่อความไม่สงบต่างๆ เหตุเพราะคนเหล่านั้นสามารถห้ามปรามนักรบรุ่นใหม่ไม่ให้แข็งข้อไปมากกว่านี้


 


 


                                                               เศรษฐกิจ


 


"ปรีดิยาธร" ชี้ทักษิโณมิกส์ใช้เงินสร้างความฟุ่มเฟือย


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังเดินสายโจมตีรัฐบาลว่า ตนมีหน้าที่แก้ข่าวและพยายามอธิบายให้นักลงทุนเข้าใจ เช่น เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตัวแทน IIF ซึ่งเป็นเหมือนเอกชนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ก็มีข้อสงสัยเรื่องนโยบายทักษิโณมิกส์ของไทย ซึ่งตนได้ชี้แจงว่า นโยบายดังกล่าวมีผลกระทบต่อไทยอย่างไร รวมทั้งอธิบายนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็นอย่างไร ทำให้เขาเข้าใจดีขึ้น และบอกว่า นโยบายทักษิโณมิกส์เป็นลักษณะการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยเหมือนบางประเทศ ที่วันหนึ่งก็ประสบภาวะวิกฤติเศรษฐกิจมาแล้ว


  


ส่วนเรื่องนี้ไทยต้องว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ เพื่อตอบโต้อดีตนายกฯ หรือไม่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ส่วนตัวขอทำงานดีกว่า ถ้ามีโอกาสก็จะพูด เพราะเรื่องนี้มีความชัดเจนว่า นโยบายทักษิโณมิกส์ไม่มีทางทำให้ดีได้ หรือภาษาไทยง่ายๆ เรียกว่า "เป็นทฤษฎีเศรษฐกิจที่เพิ่มดีมานด์ไซต์"  หรือเพิ่มอุปสงค์มากเกินไป โดยใช้เงินเร่งการซื้อ ให้ได้เงินง่ายๆ และซื้อง่ายๆ หรือเป็นเศรษฐกิจที่ใช้จ่ายแบบไม่ยับยั้งชั่งใจ เป็นเศรษฐกิจเร่งด้านซื้อไปหมด ทำให้เกิดส่วนเกินที่เรียกว่า "ส่วนเกินที่เสียหาย"


 



"ตอนที่ผมเร่งการเติบโตด้านอุปทานได้ ก็เหมือนอยู่ได้ แต่ทันทีที่อุปทานโตไม่ทัน ส่วนเกินของการเงินจะกลายเป็นความสูญเสีย และก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ผมพูดในแง่เศรษฐกิจ เพราะเป็นเศรษฐกิจที่เร่งดีมานด์ไซต์ จนก่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างไม่ยับยั้งชั่งใจทั้งภาครัฐและเอกชน จะเห็นความใหญ่โต แต่ในที่สุด ดีมานด์ไซต์จะโตไม่ทัน ก็จะตีกลับจนเสียหาย และขณะนี้ เห็นแล้วว่าเสียหายเท่าไร โดยกำลังพยายามนำเงินไปใช้ ประกอบกับทักษิโณมิกส์ หยุดทันใน 4-5 ปีนี้ แต่ถ้าปล่อยไปอีก 6-7 ปีไม่แน่ อาจจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นอีกอย่างหนึ่งไปเลย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว


 


  


ต่างประเทศ


 


หิมะสีเหลืองส้มตกในรัสเซีย


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ -มอสโก- กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซียเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (1 ก.พ.) ว่า ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปยังเขตไซบีเรียเพื่อหาคำตอบกรณีเกิดหิมะสีเหลือง-ส้มตกในหลายหมู่บ้าน กินพื้นที่ 1,500 กิโลเมตร กระทบชาวบ้าน 27,000 คน โดยเบื้องต้นคาดว่าเป็นเพราะมีสารเคมีปนเปื้อนในอากาศจนทำให้หิมะเป็นสีเหลืองและสีส้ม  เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์การผลิตน้ำมันในภูมิภาค พร้อมกันนี้ทางการได้แนะนำประชาชนให้อยู่ในบ้าน และหลีกเลี่ยงการใช้หิมะดังกล่าว


 



สหรัฐเพิ่มทหารในอิรัก 48,000 นาย


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ -วอชิงตัน- รายงานของสำนักงบประมาณสภาคองเกรสสหรัฐเปิดเผยว่า แผนเพิ่มทหาร 21,500 นายในอิรัก อาจลงเอยด้วยการเพิ่มเจ้าหน้าที่ทหารมากถึง 35,000-48,000 นาย หลังจากนับรวมทหารกองหนุนที่ถูกส่งเข้าไปช่วยแต่ไม่มีหน้าที่รบ  ซึ่งการเพิ่มทหารครั้งนี้จะทำให้สหรัฐเสียค่าใช้จ่ายระหว่าง 20,000-27,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนของการส่งทหารเข้าไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐมองว่า สำนักงบประมาณฯประเมินตัวเลขสูงกว่าความเป็นจริง


 


บ.น้ำมันมะกันจ้างบิดเบือนโลกร้อน


เว็บไซต์คมชัดลึก - หนังสือพิมพ์การ์เดียนของอังกฤษ ฉบับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ รายงานว่า สถาบันวิสาหกิจอเมริกา (เออีไอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับมันสมองที่ได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัท เอ็กซอน โมบิล บริษัทน้ำมันใหญ่สุดในโลกของสหรัฐ และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ส่งจดหมายถึงนักวิทยาศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ และนักวิเคราะห์นโยบาย ทั้งในสหรัฐ อังกฤษ และประเทศอื่นๆ ให้เขียนบทความชี้ถึงจุดอ่อนและข้อบกพร่องในรายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (ไอพีซีซี) ที่เพิ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา


  


การ์เดียน รายงานว่า สถาบันแห่งนี้เสนอจะจ่ายเงินให้แก่บรรดาผู้เชี่ยวชาญถึงคนละ 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 แสนบาท) เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการเขียนบทความโจมตีรายงานชิ้นนั้น โดยในข้อเสนอนี้ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย


 


 ด้านนายรเชนทรา ปาชอรี ประธานคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล เผยข้อสรุปของรายงานสภาวะโลกร้อนหลังการประชุมในกรุงปารีส นาน 4 วันว่า การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศมาจากน้ำมือมนุษย์ และสภาวะโลกร้อนจะดำเนินต่อไปอีกหลายศตวรรษ



 


ขณะที่ นางซูซาน โซโลมอน นักวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐ กล่าวว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การเพิ่มขึ้นของภาวะเรือนกระจกล้วนมาจากกิจกรรมของมนุษย์ทั้งสิ้น พร้อมพยากรณ์ว่า อุณหภูมิบนพื้นผิวโลกจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1.8-4 องศาเซลเซียส ก่อนสิ้นศตวรรษนี้


  


ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่า เนื้อหาในรายงานไอพีซีซีที่ประเมินความเสียหายของสภาพอากาศในอนาคต เป็นการทบทวนการเปลี่ยนแปลงของภาวะโลกร้อนที่ครอบคลุมที่สุด และจะใช้เป็นหลักเกณฑ์พื้นฐานของการหารือในระดับโลกถึงเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน แต่เออีไอของโมบิล กลับอ้างว่า รายงานของสหประชาชาติขาดการพิจารณาอย่างสมเหตุสมผล และมีแนวโน้มที่จะยึดข้อสุรปที่ยังขาดการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน พร้อมยอมรับว่าได้ติดต่อให้ผู้เชี่ยวชาญแสดงทัศนะที่ครอบคลุมรอบด้านเกี่ยวกับสภาพอากาศโลกที่แท้จริง


 



เกิดอุบัติเหตุสารพิษรั่วไหลในจีนทำให้มีผู้แสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุสารพิษรั่วไหลจากรถบรรทุกคันหนึ่งที่แล่นอยู่บนทางหลวงในภาคกลางของจีน ยังผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 120 ราย  โดยอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่คืนวันอังคาร (30 ม.ค.) บนทางหลวงสายหนึ่งใกล้เมืองเซี่ยวกาน ในมณฑลหูเป่ย์ ทางภาคกลางของประเทศ อย่างไรก็ดี จนถึงวันนี้ยังมีผู้เข้ารับการบำบัดในโรงพยาบาลถึงอย่างน้อย 125 ราย โดยมีอาการเจ็บหน้าอกและระคายเคืองนัยน์ตาหลังจากสูดสารไดเมธิล ซัลเฟต เข้าสู่ร่างกาย และว่าผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้ทางหลวงดังกล่าว รายงานระบุด้วยว่าผู้ที่เสียชีวิตคือคนขับรถยนต์ที่ขับตามหลังรถบรรทุกสารพิษดังกล่าว โดยเสียชีวิตหลังจากสูดสารพิษเข้าสู่ร่างกายไม่นาน ส่วนคนขับ 2 ราย ของรถบรรทุกคันดังกล่าวเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว หลังจากหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ


         


สำหรับสารไดเมธิล ซัลเฟต เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง อีกทั้งยังทำให้นัยน์ตาระคายเคือง ซึ่งถ้าเข้าสู่นัยน์ตาเป็นปริมาณมากอาจทำให้นัยน์ตาบอดอย่างถาวร นอกจากนี้ สารไดเมธิล ซัลเฟต ยังอาจก่อให้เกิดมะเร็งที่ตับและไตด้วย


 


 


อิรัก ประกาศเคอร์ฟิว ในเมืองนาจาฟ หลังเกิดเหตุรุนแรง


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค -การยุติการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธ หลังจากเกิดการปะทะอย่างดุเดือดเป็นเวลา 4 วัน ระหว่างกลุ่มมุสลิมนิกายชีอะห์กับกองกำลังอิรักและสหรัฐ อิรัก ประกาศคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิวในเมืองนาจาฟ ซึ่งเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ในวันศุกร์นี้ เพื่อยุติการโจมตี


         


เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองนาจาฟ ที่อยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางใต้ 160 กม. กล่าวว่า การประกาศเคอร์ฟิว ขยายครอบคลุมทั้งเมืองนาจาฟ รวมทั้งเมืองคูฟา ทางตะวันออกเฉียงเหนือ โดยห้ามประชาชนเข้าหรือออกจากเมือง และคำสั่งนี้ยังครอบคลุมประชาชนในเมืองดังกล่าวด้วย


 


 


กลุ่มกบฏฟิลิปปินส์บุกคุก พานักโทษหลบหนีเกือบครึ่งร้อย


ผู้จัดการออนไลน์- กลุ่มชายพร้อมอาวุธครบมืออย่างน้อย 25 คน บุกโจมตีเรือนจำในเมืองคิดาปาวันซิตี ห่างไปทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา เมืองหลวงฟิลิปปินส์ 960 กิโลเมตร เมื่อเช้าตรู่วันนี้ พร้อมระเบิดกำแพงเรือนจำเป็นช่องโหว่และช่วยเหลือนักโทษ 46 คน หลบหนีไป โดยใช้เวลาในการปฏิบัติการครั้งนี้เพียง 15 นาที ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักโทษคดีลอบวางระเบิดหลายครั้งบนเกาะมินดาเนา นอกจากนี้ ระหว่างการบุกโจมตีได้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเรือนจำ ขณะที่ตำรวจได้สั่งไล่ล่ากลุ่มนักโทษที่หลบหนีและอนุญาตให้ยิงได้ทันทีหากขัดขืนการจับกุม


 


 


 


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net