ประชาไท - 15 มี.ค.2550 จากกรณีบริษัท แอบบอท ลาบอแรตอรีส จำกัดได้ยื่นหนังสือถึงกองควบคุมยาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเพิกถอนคำขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ในประเทศไทย 4 ตำรับ ได้แก่ Zemplar สำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง, Simdax ยารักษาโรคหัวใจล้มเหลว, Humira ยารักษาโรค Autoimmune Disease, Aluvia tablet ยารักษาโรคเอดส์ ฯลฯ จนกว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนท่าทีในเรื่องการประกาศมาตรการบังคับใช้สิทธิในยาต้านไวรัสโลพินาเวีย/ริโทนาเวียนั้น

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. เวลา 13.00น. เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ศูนย์พิทักษ์สิทธิด้านเอดส์ คณะกรรมการองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ (กพอ.) และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กว่า 40 คนรวมตัวกันหน้าอาคารนายเลิศทาวเวอร์ ถนนวิทยุ ซึ่งเป็นที่ทำการของบริษัทแอบบอทฯ โดยมีป้ายผ้าเขียนข้อความ "มาตรการบัคับใช้สิทธิช่วยชีวิตผู้ป่วย" เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย" รวมทั้งแผ่นป้ายแสดงภาพสินค้าของบริษัทแอบบอท ระบุข้อความ "ไม่ซื้อ" "ไม่ใช้" "Boycott" "Abbot" "บริษัทยาไร้ศีลธรรม"

โดยนายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า การประกาศมาตรการบังคับใช้สิทธินั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ตามกฎหมายสิทธิบัตร และว่าบ.แอบบอทนั้นเห็นแก่ตัว ผูกขาดราคายา ถ้าไม่อยากให้บังคับใช้สิทธิก็ควรลดราคายาลง เพราะยาที่มีราคาแพงนั้น รัฐบาลไหนก็คงไม่ซื้อ เพราะอาจถูกประชาชนต่อว่าว่าทุจริตได้

ทั้งนี้ นายนิมิตร์ได้กล่าวชวนให้ผู้ร่วมชุมนุม รวมทั้งผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ให้ไม่ซื้อไม่ใช้สินค้าของแอบบอทเพื่อใช้พลังของผู้บริโภคจัดการกับบริษัทยาที่ไม่เคารพกฎหมาย โดยกล่าวว่า ใครที่เลิกใช้ได้ก็ให้เลิก ใครที่ยังจำเป็นต้องใช้ยาบางตัวอยู่ก็ใช้ไปก่อน อย่างไรก็ตาม สำหรับยาต้านไวรัสโลพินาเวีย/ริโทนาเวียและ kaletra ที่จำหน่ายโดยบ.แอบบอทนั้น อีกไม่นาน ก็จะได้ยาเหล่านี้จากอินเดียแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายนิมิตร์ กล่าวว่า หากบ.แอบบอทยังใช้มาตรการตอบโต้ต่อไป ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ผู้ป่วยไตเรื้อรัง เนื่องจากยาประเภทนี้ไม่ค่อยมีตัวเลือกอื่นมากนัก  

"บริษัทนี้มีสโลแกนว่า A promise for life. คำสัญญาเพื่อชีวิต แต่สงสัยว่าคงเป็นชีวิตของผู้บริหารเท่านั้น เพราะทั้งที่บริษัทก็รู้ว่ายาเป็นสิ่งจำเป็น และมาตรการบังคับใช้สิทธิเป็นทางเดียวที่รัฐบาลจะใช้ต่อรองกับบริษัทได้ แต่บริษัทก็ยังไม่เข้าใจและตอบโต้ด้วยการเพิกถอนคำขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ในไทย ดังนั้น คิดว่า สโลแกนน่าจะเป็น A promise for profit. คำสัญญาเพื่อกำไร เสียมากกว่า" นายนิมิตร์ กล่าว

นอกจากนี้ นายนิมิตร์ กล่าวว่า การรณรงค์ครั้งนี้ จะไม่เป็นเพียงการรณรงค์ภายในประเทศเท่านั้น เนื่องจากขณะนี้ นักกิจกรรม นักวิชาการด้านเอดส์ และสาธารณสุขทั่วโลก ได้ติดต่อมาที่ไทยจำนวนมาก หลังจากทราบข่าวพฤติกรรมอันเลวร้ายของบ.แอบบอทในครั้งนี้ เชื่อว่า การรณรงค์ครั้งนี้จะเป็นการรณรงค์ในระดับสากล ซึ่งถึงวันนั้น แอบบอทจะรู้ว่า ตัวเองได้ตัดสินใจผิดที่คิดแต่จะหาประโยชน์บนชีวิตของผู้อื่น

นางสาวสุภัทรา นาคะผิว ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์สิทธิด้านเอดส์ และประธานคณะกรรมการองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ (กพอ.) กล่าวว่า สินค้าของบริษัทแอบบอทที่เครือข่ายและองค์กรต่างๆ จะเดินหน้ารณรงค์ไม่ซื้อไม่ใช้ ประกอบไปด้วย ยาปฏิชีวนะอีริโทมัยซิน ยาแก้ปวดไอบูโปรเฟน ยาปฏิชีวนะแคลริโทมัยซิน นมผงเอนชัวร์ (Ensure), ซิมิแลก (Similac), ไอโซมิล (somil), Pedialyte รวมทั้งยาลดความอ้วน Reductil

ด้านนางสาวกรรณิการ์ กิจติเวชกุล ตัวแทนเครือข่ายมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวเสริมว่า ขณะนี้กำลังประสานกับศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค 42 จังหวัด โดยจะรณรงค์ "ไม่ซื้อไม่ใช้สินค้าแอบบอท" ทั่วประเทศ

ด้านนายวิรัตน์ ภู่ระหงษ์ ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย กล่าวว่า การกระทำของแอบบอท เผยให้เห็นธาตุแท้ของอุตสาหกรรมยาที่ไม่เคยสนใจว่า ใครจะเป็นจะตาย สนใจแต่กำไรของตัวเองเท่านั้น

"หากรัฐบาลไทยทำผิดจริงก็น่าจะไปฟ้องศาลปกครอง แต่คงเพราะแอบบอทรู้ดีว่าประเทศไทยไม่ได้ทำผิด ไม่ว่าขึ้นศาลไหน แอบบอทก็ต้องแพ้ จึงใช้วิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ พวกเราก็จะใช้มาตรการทางสังคมกดดันแอบบอทเช่นเดียวกัน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนยุติการชุมนุม ผู้ชุมนุมได้พากันนอนลงเพื่อแสดงเป็นสัญลักษณ์ว่า การกระทำของบ.แอบบอทนั้นกำลังทำให้ผู้ป่วยต้องเสียชีวิต

00000

อ่านข่าวย้อนหลัง

สธ.กร้าวบังคับผลิตยาติดสิทธิบัตร บีบราคายาโรคหัวใจ-เอดส์ ถูกลงหลายเท่า

หมอไร้พรมแดนกร้าว สหรัฐอย่าขวางรัฐบาลขิงแก่ใช้มาตรการผลิตยาถูกให้ผู้ติดเชื้อ

บริษัทยาข้ามชาติรุกหนัก! ฟ้องร้อง-ตอบโต้รบ.อินเดีย ไทย ฟิลิปปินส์ กรณีสิทธิบัตรยา

บริษัทยา VS เอ็นจีโอยา : "บังคับใช้สิทธิ" บีบราคายาถูก ก้าวที่กล้าหรือเกเรของไทย!