เปิดใจนายคิวรถตู้สายมรณะเบตง-หาดใหญ่

ในที่สุดเหตุการณ์รุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มาถึงคิวรถตู้โดยสารสายเบตง - หาดใหญ่ โดยในช่วงเช้าวันที่ 14 มีนาคม 2550 เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงรถตู้โดยสารสายนี้ บนถนนสายบันนังสตา - ยะหา จนมีผู้เสียชีวิต 9 ราย และสาหัสอีก 2 ราย

 

นับเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญอีกเหตุการณ์หนึ่ง ในฐานะที่ต้องให้บริการรับส่งผู้โดยสารทุกวัน ในเส้นทางที่มีเหตุร้ายรุนแรงที่สุดขณะนี้ นั่นคือเส้นทาง หาดใหญ่ - สะบ้าย้อย - ยะหา - บันนังสตา - เบตง

 

ต่อไปนี้เป็นคำให้สัมภาษณ์ของ "ด.ต.พนม อินทสุวรรโณ" เจ้าของบริษัท เบตงทัวร์ 2001 จำกัด เจ้าของสัมปทานเดินรถตู้โดยสารเส้นทางสายวิปโยค

 

.........................................................................................................................................

 

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้วจะทำอย่างไรต่อไป

ตอนนี้ยังไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าโดนกับพวกคุณคุณจะทำอย่างไรล่ะ และก็คงไม่ใครช่วยอะไรได้ เหตุการณ์ในพื้นที่รุนแรงมาก รถที่ถูกยิงมีราคาเป็นล้านก็คงไม่รู้ว่าจะมีใครช่วยได้ แต่ถ้าสามารถหยุดเหตุการณ์ไม่สงบได้ ก็ถือว่าโอเค

 

ตอนนี้ก็คงต้องหยุดวิ่งรถชั่วคราว วันสองวันนี้ต้องดูท่าทีของรัฐบาลก่อนว่าจะทำอย่างไรและดูว่าจะประชาชนมาใช้บริการหรือเปล่า ถ้าไม่มีผู้โดยสารก็คงลำบากที่จะวิ่งรถต่อ เพราะตอนนี้บางเที่ยวก็มีคนน้อย เช่น ถ้ามี 3 คน ค่ารถคนละ 200 บาท มันก็ไม่คุ้มอยู่แล้ว

 

จะขอให้รัฐช่วยเหลืออะไรบ้าง

พูดลำบาก ถ้าขอได้ก็ต้องขอทั้งหมด เพราะเหตุการณ์มันเกิดทั้ง 3 จังหวัด ถ้ารัฐจะช่วยเหลือสนับสนุนอะไร ก็ต้องให้ทุกแห่ง ส่วนในกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ด้วยกันนั้น ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาอย่างไร แต่เบื้องต้นก็คงดูแลของใครของมันไปก่อน

 

ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุกับรถตู้โดยสารหรือยัง

ยังไม่เคย แต่ของรายอื่นๆ ไม่ทราบ ยังไม่เคยถูกข่มขู่ด้วย วิ่งรถได้ตามปกติ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงโดนกับรถคันนี้ ทั้งๆ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยโดนเลย แม้แต่ถูกข่มขู่ก็ยังไม่เคย

 

รถคันที่เกิดเหตุออกจากเบตงประมาณ 6 โมงกว่า มีผู้โดยสารมา 12 คน หนึ่งในนั้นเป็นวัยรุ่นมุสลิม 1 คน นอกจากนั้นเป็นคนไทยพุทธ ยกเว้นคนขับที่เป็นมุสลิม ผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็เป็นญาติกัน มาเป็นครอบครัว พอมาถึงที่ธารโตวัยรุ่นมุสลิมคนนั้นก็ลงจากรถไป จากนั้นรถคันนี้ก็ขับมาทางสายที่ถูกยิง เพื่อจะมารับผู้โดยสารอีกคนแถวยะหา ซึ่งเป็นตำรวจ แต่ก็ถูกยิงกลางทางเสียก่อน

 

มีการประกันผู้โดยสารหรือไม่

มี แต่บริษัทประกันคงไม่จ่ายให้ในกรณีนี้ เพราะไม่ใช่อุบัติเหตุ บริษัทประกันรถก็เช่นกัน เขาจะจ่ายให้เฉพาะกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ค่าใช้จ่ายที่มีก็คงต้องออกกันเองไปก่อน

           

ช่วงที่เหตุการณ์รุนแรงมากๆ ทราบเคยเลี่ยงเข้าไปทางมาเลเซียด้วย

มีหลายครั้งโดยเข้าทางด่านเบตง ผ่านอำเภอโกละ อำเภอบาริ่ง และ อำเภอกูลุน รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย มาออกทางด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งจะปลอดภัยกว่าและใช้เวลาวิ่งประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นจากเส้นทางปกติ 1 ลิตร ส่วนเส้นทางปกติใช้เวลา 4 ชั่วโมง

 

การใช้เส้นทางในมาเลเซีย มีขั้นตอนยุ่งยาก ต้องเสียเวลาในขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านชายแดน ซึ่งการใช้เส้นทางนี้ได้ ผู้โดยสารต้องมีหนังสือผ่านแดนชั่วคราว หรือ บอร์เดอร์พาส หรือไม่ก็ใช้หนังสือเดินทางไปเลย ซึ่งบอร์เดอร์พาสนั้น ใครมีภูมิลำเนาที่ไหนก็ไปขอได้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือที่ศาลากลางจังหวัดนั้นๆ ซึ่งขั้นตอนไม่ยุ่งยาก รอรับได้ทันที

 

ปัญหาอยู่ที่ว่ารถตู้ที่วิ่งเข้าไปทางมาเลเซีย เข้าไปแบบลักลอบ  เพราะการที่จะวิ่งรถโดยสารในมาเลเซียได้ ต้องมีหนังสืออนุญาตทำงาน หรือ เวิร์กเพอร์มิต ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงมาก นอกจากนี้ยังมีกฎหมายเกี่ยวกับการขนส่งที่ไม่เหมือนกับไทยหลายอย่าง เช่น รถตู้ต้องไม่มีผ้าม่าน จะเอาผ้าหรือกระดาษปิดชั่วคราวได้ แต่รถไทยมีผ้าม่านเกือบทุกคันไว้กันแดด เมื่อถูกตรวจค้นก็ต้องเสียค่าปรับ ซึ่งตามเส้นทางตั้งแต่ด่านสะเดาไปจนถึงด่านเบตง มีด่านตรวจถึง 5 ด่าน แล้วแต่ว่าจะมีหน่วยงานไหนที่เกี่ยวข้องมาตั้งด่านตรวจบ้าง และเขาจะตรวจตอนไหนก็ไม่ทราบ ต้องเสี่ยงเอา

 

การใช้เส้นทางในมาเลเซียต้องออกก่อนเที่ยง เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่ทันเวลาด่านอีกด่านปิดเสียก่อน ซึ่งก็มีหลายครั้งที่ที่ต้องแวะนอนฝั่งมาเลเซียก่อน ทำให้วันหนึ่งวิ่งได้เที่ยวเดียว แม้จะได้กำไรอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาล ซึ่งมีผู้โดยสารเยอะ จะหมุนเวียนรถไม่ทัน ผู้โดยสารก็ตกค้าง

 

การจะใช้เส้นทางในฝั่งมาเลเซียส่วนใหญ่ เป็นความสมัครใจของผู้โดยสาร แม้จะมีขั้นตอนยุ่งยากกว่า แต่ก็ปลอดภัย ผู้โดยสารก็สบายใจ คนขับรถก็ไม่กังวลมากด้วย

 

ตอนนี้มีกี่คิว ที่วิ่งระหว่างหาดใหญ่ - เบตง

มี 2 คิว คือของผมกับคิวเบตงโพธิ์ทอง ของผมมีรถ 15 คัน รถที่เกิดเหตุเป็นของชาวบ้าน ไม่ใช่ของผม แต่เขามาวิ่งในคิวของผม หลังจากนี้ก็ต้องคุยกับคนขับรถทั้งหมด ดูว่าแต่ละคนรู้สึกอย่างไร จะทำอย่างไรต่อไป เพราะบางคนยังผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเขาไม่กล้าขับก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะไปทำอะไร

 

ผมอยากจะฝากกับรัฐบาลว่าขอให้ลงมาดูปัญหาของพวกเราด้วย เหตุรุนแรงทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปหมด ตอนนี้ชาวบ้านได้แต่ช่วยตัวเอง เพราะไม่มีใครช่วยเหลือใครได้แล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท