"ปลอดการครอบงำของอำนาจรัฐ (และราชการ)
ปลอดการครอบงำของอำนาจทุน
บริหารโดยตรงโดยภาคประชาชน"
สโลแกนที่เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนหลายองค์กรมานั่งหารือกันเพื่อผลักดันเรื่อง "ไอทีวี" ขานรับกับหลายส่วนที่เรียกร้องให้แปรสภาพเป็น "ทีวีสาธารณะ"
หลักใหญ่ใจความอีกประการ คือ รายการต้องคำนึงถึงการส่งเสริมให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้และพัฒนา เป็นพื้นที่ให้กลุ่มคนที่ถูกละเลย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนพิการ กลุ่มชาติพันธุ์ พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฯลฯ
เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนที่ว่าประกอบด้วย กลุ่มกู้คืนไอทีวี, คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.), มูลนิธิเข้าถึงเอดส์, สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค, มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค, มูลนิธิสุขภาพไทย, เครือข่ายคนพิการ, มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม, ขบวนการตาสัปปะรด, เครือข่ายการศึกษาเพื่อเด็ก, เครือข่ายสื่อเพื่อเด็ก, เครือข่ายครอบครัว, คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย,เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี เอดส์ แห่งประเทศไทย
องค์กรภาคประชาชนมีความเห็นร่วมกันว่าควรผลักดันทีวีสาธารณะในตอนนี้ โดยอยู่บนฐานของพ.ร.บ.องค์การแพร่ภาพและการกระจายเสียงสาธารณะ ที่ดร.
"จริงๆ กรรมการสรรหาข้างมากควรมากจากภาคประชาชน เพราะภาคประชาชนมีความหลากหลายมาก" จอน อึ๊งภากรณ์ อดีตส.ว.และแกนนำกลุ่มทวงคืนไอทีวีกล่าวพร้อมระบุว่า ได้หารือเรื่องนี้กับดร.สมเกียรติแล้วว่าคงมีการแก้ไขได้หลังจากเสนอกฎหมายนี้สู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
จอนยังเสนอความคิดเห็นว่า กรณีไอทีวีนั้น การผลักดันต้องไม่ไปพัวพันเรื่องที่ถูกฟ้องอยู่ รวมถึงพนักงานกว่า 1,000 คน เนื่องจากคงไม่สามารถรับพนักงานทั้งหมดมาทำทีวีสาธารณะได้
ส่วนกรณีที่รัฐบาลอนุมัติให้ทีไอทีวีเป็นหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ (SDU: Service Delivery Unit) ของกรมประชาสัมพันธ์นั้น จอนกล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์ที่รัฐบาลบอกว่าอยากจะให้สถานีนี้เป็นทีวีสาธารณะ และจะทำให้การแปลงสภาพทีไอทีวีมีความยุ่งยากซับซ้อนขึ้น
ทั้งนี้ เอสดียูคือ เอสดียูจัดตั้งขึ้นมาตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย พ.ศ.2546-2550 และมาตรา 16 ของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 ที่ต้องการให้มีโครงสร้างองค์กรรูปแบบใกล้เคียงกับระบบธุรกิจอื่น ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล โดยได้รับการยกเว้นหรือผ่อนคลายระเบียบบางประการเพื่อให้เกิดความคล่องตัว แต่ไม่ได้เป็นอิสระ หรือตัดขาดจากหน่วยงานแม่ 100% สามารถจะเรียกเก็บค่าบริการจากหน่วยงานแม่ต้นสังกัดหน่วยงาน หรือลูกค้าผู้รับบริการอื่นๆ ได้ ทั้งในรูปแบบของ direct charge หรือ internal charges เพื่อหารายได้ให้เพียงพอกับรายจ่ายในการดำเนินงาน และไม่จำเป็นต้องส่งรายได้ทั้งหมดของรัฐ แต่ต้องนำรายได้บางส่วนส่งคลังในอัตราไม่ต่ำกว่าอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
เถกิง สมทรัพย์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดอนาคตไอทีวีที่คุณหญิง
เถลิงยังเสนออีกว่า ควรมีการจัดตั้งคณะกรรมการที่จะร่างพันธสัญญากับรัฐบาล โดยมีเนื้อหาเหมือนมาตรา 39, 40, 41 ในรัฐธรรมนูญปี 2540 เพื่อเป็นหลักประกันและเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองว่ารัฐบาลจะไม่แทรกแซงทีไอทีวีระหว่างที่ยังเป็นของรัฐอยู่ขณะนี้ นอกจากนี้ในส่วนของรายการก็น่าจะทดลองให้ทีไอทีวีตอนนี้ออกอากาศรายการในรูปแบบเนื้อหาของทีวีสาธารณะไปได้ก่อนพลางๆ
ตัวแทนจากมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) กล่าวว่า จากการจัดเวทีปฏิรูปสื่อทั้งระบบในหลายจังหวัดพบข้อเสนอที่หน้าสนใจของประชาชนคือพวกเขาต้องการให้ไปรับฟังประชาชนด้วยเช่นกันว่าต้องการให้ไอทีวีเป็นแบบไหน อย่างน้อยในระดับภาค และต้องการรับทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้เรื่องคณะกรรมการบริหารทีวีสาธารณะประชาชนจังหวัดต่างๆ เห็นว่าส่วนใหญ่มักกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ หรือมีการรวมศูนย์อำนาจเหมือน กทช. น่าจะมีการกระจายมากกว่านี้ ในอนาคตอาจมีคณะกรรมการสื่อสารระดับจังหวัด
"ในกระบวนการผลักดันเรื่องนี้ต้องให้ประชาชนรู้สึกร่วม มีระดับของการรับรู้ร่วมกัน ประเด็นไอทีวีต้องพูดกันมากๆ อย่างต่อเนื่องในทุกรูปแบบ เช่นกรณีวิทยุชุมชนถ้าประชาชนรู้สึกเป็นเจ้าของมันยากที่ใครจะไปล้มของเขาในระยะยาว" ตัวแทนจากมอส.กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดกันว่าพ.ร.บ.องค์การแพร่ภาพและการกระจายเสียงสาธารณะ จะมีการนำเสนอสนช.พิจารณาในสัปดาห์หน้า และทางองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนยังระบุด้วยว่าจะเข้าพบกับรัฐบาลเพื่อนำเสนอจุดยืนและการผลักดันเรื่องนี้ด้วย
แถลงข่าว ไอทีวีต้องเป็นทีวีสาธารณะของประชาชน ผู้แทนเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ด้านสุขภาพ เอดส์ คนพิการ ผู้บริโภค แรงงาน ครอบครัว เด็ก เยาวชน และองค์กรด้านการปฏิรูปสื่อ ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการแก้ไขปัญหาไอทีวีของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และขอเรียกร้องต่อรัฐบาลให้จัดการปัญหาไอทีวีโดยรีบดำเนินการให้ไอทีวีเป็นสถานีโทรทัศน์สาธารณะ ตามความหมายที่ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของ และเป็นทีวีที่ปลอดจากการแทรกแซงของรัฐ ระบบราชการ การเมือง และธุรกิจเอกชน โดยประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เพื่อรับใช้สังคมทุกภาคส่วน และมีข้อเสนอเบื้องต้นดังต่อไปนี้ ๑. หยุดการเตรียมการของกรมประชาสัมพันธ์ ในการจัดตั้งหน่วยบริหารจัดการแบบ SDU เพราะจะเป็นอุปสรรคในการที่จะทำให้การนำไอทีวีมาเป็นทีวีสาธารณะ และขัดแย้งกับการตั้งคณะทำงานรับฟังความคิดเห็นของสำนักนายกรัฐมนตรี ๒. ขอให้กรมประชาสัมพันธ์ ดำเนินการทดลองออกอากาศ ให้ไอทีวีมีผังรายการที่ยึดวัตถุประสงค์ในการเป็นทีวีสาธารณะ ๓. รัฐต้องสร้างหลักประกันและแสดงพันธะสัญญาในการไม่แทรกแซงสื่อทุกประเภท ตามมาตรา ๓๙, มาตรา ๔๐ และมาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญ ปี ๔๐ ๔. ภาคประชาชนที่มาร่วมประชุมในวันนี้ได้ตั้งตัวแทนเบื้องต้น ซึ่งประกอบไปด้วย ๑)จอน อึ้งภากรณ์ ๒)รสนา โตสิตระกูล ๓)นิมิตร์ เทียนอุดม ๔)ต่อพงษ์ เสลานนท์ ๕)วีรพงษ์ เกรียงสินยศ ๖)พญ. |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)