ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 24 มีนาคม 2550





การเมือง

 

นานาทัศนะ ควันหลงม็อบพีทีวี

ไทยโพสต์ รายงานคำกล่าวของ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า การชุมนุมของกลุ่มการเมืองต่างๆ สำหรับรัฐบาลถือว่าเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ถึงแม้ว่าแตกต่างก็ไม่ได้หมายความว่าจะก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นมา อยากจะฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมว่าให้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของบ้านเมือง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมืออะไรไปก็ขอให้ปฏิบัติตาม อย่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่คนอื่น โดยเฉพาะการกระทบกระทั่งต่อผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและไม่สมควรกระทำ "อะไรที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนเราก็ดูแลอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการประท้วงที่จะมีความรุนแรงมันไม่มีความจำเป็นเลย ในส่วนของพีทีวีเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับกรอบของกฎหมายอยู่ คงต้องไปดูที่กฎหมายว่าเขาสามารถดำเนินการได้หรือไม่" ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าว

 

ส่วนเดลินิวส์รายงานความเห็นของ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ. ทหารสูงสุด ที่กล่าวว่าอยากขอร้องประชาชนว่ารัฐบาลและ คมช.ได้ทำงานอย่างดีที่สุด ตนหวังว่าจะไม่เกิดการนำม็อบมาชนม็อบเกิดขึ้น อยากจะ ขอร้องให้ช่วยกันสร้างบ้านเมืองกันดีกว่า ให้โอกาสเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ถ้าชุมนุมกันในเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นจะทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ เกิดความยืดเยื้อและเสียเวลาเปล่า

 

ส่วนที่มีการปลุกกระแสว่า คมช.ต้องการสืบทอดอำนาจนั้น ผบ.ทหารสูงสุดกล่าวว่า อย่าไปปลุกกระแสทำให้เรื่องที่ไม่มีปัญหาให้กลายเป็นปัญหาใหญ่กลายเป็นความขัดแย้ง ประเทศ ชาติก็ไม่เดินหน้า การสืบทอดอำนาจถ้าเป็นทหารอาชีพเขาไม่คิดอยู่แล้ว แต่ถ้าเกษียณอายุราชการหรือถอดเครื่องแบบแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเขาก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกัน แต่ระหว่างที่รับราชการจะต้องไม่คิดแบบนั้น

 

ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา กล่าวว่า สถานการณ์คล้ายกับประวัติศาสตร์การเมืองในอดีตที่เกิดความวุ่นวาย ส่วนตัวก็เป็นห่วงถ้าเป็นการชุมนุมเพื่อโค่นล้มรัฐบาลเห็นว่าไม่เหมาะ รัฐบาลก็อยากไปจะแย่อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นการชุมนุมเพื่อโค่นล้มรัฐธรรมนูญที่นายกฯ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งตนจะช่วยโค่นด้วยอีกคน

 

ขณะที่แนวหน้า รายงานว่านายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นการใช้สิทธิที่สามารถกระทำได้โดยสงบตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว หวังว่า ทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและรัฐบาลจะระมัดระวังไม่ให้นำไปสู่ความรุนแรง และยืนยันว่า พรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีนโยบายออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่แกนนำม็อบพีทีวี ก็เป็นกลุ่มที่ลาออกจากพรรคไปแล้ว จึงเป็นอิสระต่อกัน ไม่สามารถบังคับกันได้

 

แต่นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่าไม่มีใครเชื่อว่าการชุมนุมที่สนามหลวงจะไม่เกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทย เพราะผู้บริหารพีทีวีและแกนนำทั้งหมดล้วนเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยมาก่อน คนเหล่านี้เคยมีบทบาทในการปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ มาตลอด นอกจากนี้แกนนำที่ปลุกระดมก็พูดชัดว่า ขอให้สมาชิกพรรคไทยรักไทยมาร่วมชุมนุมกัน ฉะนั้นการออกมาปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องของ นายจาตุรนต์ จึงฟังไม่ขึ้น หรือไม่ นายจาตุรนต์ ก็ไม่รู้เรื่องจริงๆ แต่เป็นเรื่องที่แกนนำพรรคคนอื่นร่วมดำเนินการ

 

ประธาน คมช.ระบุผู้นำต้องยึดหลักจริยธรรม เป็นแบบอย่างข้าราชการปฏิบัติตาม

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ - พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธาน คมช. เป็นประธานเปิดสัมมนา การมีส่วนร่วมเสริมสร้างจริยธรรม ธรรมาภิบาล และการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยการปาฐกว่า ที่ผ่านมาสังคมไทยให้ความสำคัญกับการปราบปรามมากกว่าการป้องกัน ดังนั้นต้องเร่งปลูกฝังพัฒนาจริยธรรมและธรรมาภิบาล พร้อมต้องระบุว่า เคยมีข้อมูลถึงระบบค่าคอมมิชชั่น ร้อยละ 10 ในโครงการของรัฐบาล ซึ่งเห็นว่าควรแก้ไขและนำเงินดังกล่าวมาพัฒนาประเทศมากกว่า ขณะเดียวกันเห็นว่า ควรส่งเสริมคนดีให้ได้ทำงาน เพราะการทำให้คนดีเป็นคนเก่งทำได้ง่ายกว่า เนื่องจากพบว่าบางครั้งคนเก่งบางคนอาจสร้างความขัดแย้ง เพราะไม่รับฟังความเห็นจากใคร พร้อมกันนี้เห็นว่า ผู้นำประเทศต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรม ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนราชการระดับรองลงมา ต้องปฏิบัติตามจะยิ่งส่งผลให้ประเทศพัฒนาดีขึ้น และกลายเป็นมหาอำนาจได้

พลเอกสนธิ เห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นของประชาชนและมาจากประชาชนเพื่อส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่ดีต้องอาศัยนักการเมืองที่มีอุดมการณ์และรักชาติ จึงจะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งประชาชนต้องเข้ามามีส่วนร่วม นอกจากนี้พลเอกสนธิ ยังย้ำว่า ขณะนี้ได้เร่งทำการสมานฉันท์กับทุกกลุ่ม แม้จะมีบางกลุ่มไม่ยอมสมานฉันท์และสร้างความแตกแยก แต่เชื่อว่าหากทำความเข้าใจก็จะนำไปสู่การสมานฉันท์

 

ประธาน คมช.ยันไม่ได้ขอนิรโทษกรรม แต่ก็ขอบคุณที่ปรารถนาดีทำให้

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือประธาน คมช. แสดงท่าทีขอบคุณคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ต้องการบัญญัติการนิรโทษกรรมไว้ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ป้องกันกลุ่มอำนาจเก่าเช็คบิลคณะผู้ก่อการรัฐประหาร ภายหลังการเลิกบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2549 ที่บัญญัติเรื่องที่ไว้

ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พล.อ.สนธิกล่าวว่า "ผมไม่รู้เหมือนกัน เห็นท่านทำให้ก็ดี ทั้งนี้ ทาง คมช.ไม่ได้ขอให้ท่านทำ เรื่องนี้ผมไม่เข้าใจ แต่คงเป็นความปรารถนาดีของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ โดยต้องขอบคุณท่าน แต่ทางเราคิดว่าเราได้ทำในสิ่งที่ถูกแล้ว"

 

พล.อ.สนธิยังปฏิเสธกระแสข่าวการต่ออายุราชการในเก้าอี้ ผบ.ทบ.ด้วยว่า "ใครจะมาต่อให้เรา นึกไม่ออก และเราไม่รู้ว่าใครจะต่อให้เรา" ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าไม่เหมาะสมที่จะมีการต่ออายุราชการ พล.อ.สนธิกล่าวว่า "ใช่ เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ควร"

 

ปธ.สสร.ระบุ รธน.ใหม่ 400 มาตรา ชี้ระบุนิรโทษกรรมในบทเฉพาะกาลไม่เหมาะ

เดลินิวส์ - วานนี้ (23 มี.ค.) ระหว่างการเสวนาเรื่อง "นายกรัฐมนตรีในรัฐธรรมนูญใหม่" ที่เนติบัณฑิตยสภา นายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจจะมีมากกว่า 400 มาตรา และภายในวันที่ 10 เม.ย. เชื่อว่าจะเสนอรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ให้แก่ประเทศ แต่ยังไม่ทราบว่าจะผ่านประชามติหรือไม่ เมื่อถามว่า การจะบรรจุเรื่องนิรโทษกรรมในบทเฉพาะกาลน่าจะไม่เหมาะสม นายนรนิติ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาไม่ขอวิจารณ์ บ้านเมืองตอนนี้ไม่ปกติจึงอยากเห็น รัฐธรรมนูญเสร็จโดยเร็ว เพราะไม่มีการเลือกตั้งมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 48 ในฐานะที่เป็นคนไทยอยากให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

 





ผู้จัดการการเมือง

 

"สนธิ" แฉม็อบพีทีวีจงใจป่วนเมือง กลบผลสอบ "แม้ว" โกงชาติ

ผู้จัดการออนไลน์ - กรณีการชุมนุมของพีทีวีที่ท้องสนามหลวงซึ่งมีการกล่าวอ้างว่ารัฐบาลเลือกปฏิบัติให้เอเอสทีวีออกอากาศได้แต่ห้ามพีทีวีออกอากาศนั้น วานนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคนสำคัญ กล่าวในรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ที่ออกอากาศทาง เอเอสทีวี คืนวันที่ 23 มี.ค. กล่าวยืนยันว่ากรณีของพีทีวีกับเอเอสทีวีต่างกัน เพราะพีทีวีไม่เคยต่อสู้เรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่พีทีวีใช้กรณีนี้มาเป็นการยั่วยุทางการเมือง ป่วนทางการเมือง อีกทั้งการออกอากาศของพีทีวีก็ไม่เหมือนกับเอเอสทีวี เพราะไม่ได้ส่งสัญญาณผ่านอินเตอร์เน็ตแล้วส่งข้อมูลข่าวสารไปยังบริษัทที่รับซื้อในต่างประเทศ ถ้าพีทีวีทำอย่างนั้นแล้วถูกบล็อกสัญญาณก็ชอบที่จะไปร้องต่อศาลปกครองเหมือนที่เอเอสทีวีดำเนินการในตอนนี้ แต่พีทีวีกลับยั่วยุให้เกิดการชุมนุม มีเจตนาเพื่อป่วนเมือง ใช้ความรุนแรง

 

นายสนธิยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า การชุมนุมของพีทีวีที่ท้องสนามหลวงนั้น ทีไอทีวีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ มีเมตตาธรรมอุ้มพนักงาน ได้เตรียมรถโอบีมาด้วยเพื่อถ่ายทอดสด แล้วก็มีสมาชิกพรรคไทยรักไทยมาสังเกตการณ์หลายคน รวมทั้งนายพินิจ ทวีสุข ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านจันทร์ส่องหล้า ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เห็นชัดว่างานนี้เป็นงานของพวกพรรคไทยรักไทย เพราะว่าเหตุการณ์ของ คตส.วันนี้เริ่มงวดเข้ามาทีละเรื่องๆ แล้ว

 

"ของเขานี่แอบแฝง เขาต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหารด้วย เขาอ้างว่าเป็นการทำลายประชาธิปไตย แต่เขาไม่ยอมพูดถึงการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกเขาเอง ที่ทำลายประชาธิปไตยมาตลอด การแทรกแซงองค์กรอิสระ การทุจริตที่สุวรรณภูมิ เขาไม่พูด ทำไมเขาไม่พูดล่ะ ทำไมเขาสู้กันแค่ประชาธิปไตย หมายความว่ายังไง หมายความว่าการเลือกตั้งปั๊บ เลือกตั้งเสร็จแล้วก็จบใช่ไหม"นายสนธิกล่าว

 

ผู้จัดการชี้ม็อบฉวยจังหวะประท้วงช่วงกระแสสุรยุทธ์-เปรมตก

นอกจากนี้ ผู้จัดการออนไลน์ยังมีรายงานพิเศษที่ชื่อว่า "แฉขบวนการถล่ม"ป๋าเปรม""แม้ว"แค้นจัดส่งซิกเขย่า-หลัง"บิ๊กบัง-บิ๊กแอ้ด" กระแสวูบ" โดยมีการวิเคราะห์การประท้วง คมช. ในช่วงนี้ และมีกล่าวถึงองคมนตรีนั้น มีสาเหตุเพราะกลุ่มอำนาจเก่าประเมินแล้วว่ากลุ่มอำนาจใหม่ไม่สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้ ทั้งปัญหาภาคใต้ ปัญหาเศรษฐกิจ และความเดือดร้อนต่างๆของประชาชน ขณะเดียวกันมีข่าวความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและคมช. ยิ่งทำให้กลุ่มอำนาจเก่าเปิดเกมรุกกลับ ได้อย่างสะดวก จึงทำให้เกิดการส่งสัญญาณให้มีการประท้วง

 

โดยผู้จัดการกล่าวถึง "แหล่งข่าวด้านความมั่นคง" ที่มีความเห็นว่าอย่างไรก็ตามหากทั้งรัฐบาลและคมช.ยังคงปล่อยให้พล.อ.เปรม ถูกโจมตีไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ด้วยสถานะของประธานองคมนตรีแล้ว ไม่ควรได้รับการพาดพิงเช่นนี้ จะยิ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลมากขึ้น
       
"ในเชิงการศึกนั้น บางครั้งการรบกันก็อาจไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องสูญหายไป เพียงแค่อาศัยสงครามจิตวิทยา บั่นทอนผู้ที่เป็นแม่ทัพตัวจริงได้มากเท่าไหร่ ก็ถือว่าสำเร็จไปได้เหมือนกัน และยิ่งการเคลื่อนไหวของกลุ่มต้านรัฐประหาร มีผลต่อภาพลักษณ์ของพล.อ.เปรม มากเท่าใด ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้น ทหารทุกคนส่วนใหญ่รู้ดีว่าท่านค่อนข้างรักษาภาพของท่านมาก เมื่อครั้งที่มีคนคัดค้านการเป็นนายกฯ 8 ปีของท่านในอดีต ท่านก็บอกเลยว่าพอแล้ว ครั้งนี้หลายคนก็ห่วงว่า ถ้ามีการกดดันมากๆ ท่านจะเหนื่อยใจ และคิดอะไรหรือไม่" แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุกับผู้จัดการ

 

 





เศรษฐกิจ

สพรั่งสั่งสอบบอร์ดเก่าทีโอทีกรณีชำระเงินให้ บมจ.ทรู

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นายวุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ โฆษกและกรรมการ บมจ.ทีโอที กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ทีโอทีได้รับหนังสือจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เลขที่ ตผ 0017/1409 ลงนามคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2550 เรื่อง การเสนอข้อพิพาทตามสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนขยายบริการโทรศัพท์ต่อคณะอนุญาโตตุลาการของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการ ได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาด เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2549 ให้ทีโอทีชำระเงินให้ทรู เป็นจำนวน 9,175 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% นับตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2545 และทีโอทีได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2549 หากรวมมูลค่าปรับถึงวันนี้มีกว่า 1 หมื่นล้านบาทแล้ว

จากการตรวจสอบของ สตง. พบว่า ระหว่างการดำเนินการ นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล ประธานอนุญาโตฯ ได้เปิดเผยข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2547 ว่าเป็นที่ปรึกษากฎหมายของ บมจ.อลิอันซ์ ประเทศเยอรมนี และเปิดเผยเพิ่มเติมวันที่ 20 พฤษภาคม 2547 ว่าเป็นกรรมการอิสระของบริษัทประกันวินาศภัย อลิอันซ์ ซีพี จำกัด โดยเป็นตัวแทนฝ่ายเยอรมัน

อีกทั้ง มีข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้เปิดเผยว่า นายประสิทธิ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัท อลิอันซ์ ซีพี ประกันภัย จำกัด ที่มีบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เช่นเดียวกับทรู แสดงถึงการมีส่วนได้เสียกับคู่กรณี มีผลต่อความเป็นกลางและความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีหนังสือแจ้งทีโอทีทราบ และสามารถคัดค้านการเป็นประธานของนายประสิทธิ์ ภายในวันที่ 3 มิถุนายน 2547 แต่ไม่ปรากฏว่าทีโอทีดำเนินการอย่างใด

สตง. พิจารณาเบื้องต้นให้ทีโอทีตรวจสอบสาเหตุที่ไม่ใช้สิทธิคัดค้าน รวมถึงสอบสวนหาบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผิดชอบในผลเสียหายที่เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 26 เมษายน - 3 มิถุนายน 2547 มีรัฐมนตรีใดเป็นผู้กำกับดูแล คณะกรรมการบริษัท และกรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย หากพบมีพฤติการณ์ส่อทางทุจริตก็ให้ดำเนินคดีทางกฎหมายจนถึงที่สุด

ดังนั้น ที่ประชุมทีโอทีมีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงประเด็นดังกล่าว มีนายวีรพล ปานะบุตร เป็นประธาน รวมถึงได้มอบหมายให้กรรมการผู้จัดการใหญ่ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดควบคู่ไปด้วย

ทั้งนี้ ตามรายละเอียดเอกสารการประชุมครั้งที่ 11 วันที่ 9 มิถุนายน 2547 ที่ประชุมที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธานมีมติเห็นชอบ ไม่จำเป็นต้องคัดค้าน ตามคำเสนอของฝ่ายบริหาร ชุดนายอรัญ เพิ่มพิบูลย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่

ฝ่ายบริหารชี้แจงว่า การดำเนินการของประธานอนุญาโตตุลาการมีความเป็นกลางต่อคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย แม้จะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางกฎหมายของอลิอันซ์ เยอรมัน และกรรมการอิสระของอลิอันซ์ ซีพี ก็ไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องทางธุรกิจและมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับทรู

"เมื่อพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานบอร์ดได้รับทราบเรื่อง ก็ได้สั่งการให้เร่งสอบสวนเรื่องดังกล่าวโดยด่วนที่สุด พร้อมให้รายงานผลให้บอร์ดทราบทุกระยะ ถ้าพบว่าผู้ที่เกี่ยวข้องมีความผิด ทำให้รัฐเสียหายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายทันที" นายวุฒิพงษ์ กล่าว

 

 





คุณภาพชีวิต

 

ยุติพื้นที่ประสบภัยพิบัติฝุ่นควันเหนือแล้ว ส่วนปลาตายสรุปจ่ายค่าชดเชยกระชังละสามหมื่น!

มติชน - นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23 มีนาคม เกี่ยวกับปัญหาหมอกควันไฟในภาคเหนือตอนบน ว่าขณะนี้ปริมาณฝุ่นขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน มีแนวโน้มลดลงมาก เหลือเพียง จ.แม่ฮ่องสอน ที่ปริมาณยังสูงกว่ามาตรฐาน ล่าสุด สธ.ได้จัดส่งหน้ากากอนามัยไปให้ จ.แม่ฮ่องสอน เพิ่มอีก 1.5 แสนชิ้น และสำรองให้ศูนย์ควบคุมโรค จ.เชียงใหม่ อีก 50,000 ชิ้น เพื่อจ่ายให้พื้นที่ที่ต้องการต่อไป

 

ในส่วนผลกระทบด้านสุขภาพอนามัย ในรอบ 8 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-22 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ารับบริการในสถานพยาบาลในสังกัด สธ. 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน พะเยา เชียงราย แพร่ น่าน และกาญจนบุรี ทั้งหมดรวม 57,765 ราย เฉลี่ยวันละ 7,220 ราย โดยผู้ป่วยกว่าร้อยละ 90 เป็นโรคทางเดินหายใจทั่วไป อาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยมากที่สุดที่ จ.เชียงราย 18,412 ราย รองลงมาคือ จ.ลำพูน 13,936 ราย และ จ.เชียงใหม่ 8,399 ราย ในจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการทั้งหมด พบผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจเดิมอยู่แล้ว มีอาการกำเริบเข้ารับบริการที่ห้องฉุกเฉิน 123 ราย ซึ่งทีมแพทย์โรงพยาบาลได้ให้การดูแล และอาการปลอดภัย

ด้านนายวิชัย ศรีขวัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ลงนามประกาศยุติพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินจากภาวะมลพิษทางอากาศ อันเกิดจากหมอกควันและฝุ่นละอองปกคลุม หลังจากผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสถานีตรวจวัดศูนย์ราชการและโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดปริมาณฝุ่นละอองได้ 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต่ำกว่าเกณฑ์อันตรายที่ 120 ไมโครกรัม

และเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ท่าน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง นายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พร้อมคณะได้ปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม 5 ล้านตัว ลงในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเป็นการชดเชยกรณีเกิดน้ำเจ้าพระยาเน่าเสีย ทำให้สัตว์น้ำตามธรรมชาติและปลาเลี้ยงในกระชังของชาวบ้านตายจำนวนมาก โดยมีนายสุเทพ กาแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง พร้อมตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังต้อนรับ

นายธีระกล่าวว่า ขณะนี้ได้ข้อยุติในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังแล้ว โดยจะช่วยเหลือกระชังละ 33,000 บาท หรือร้อยละ 60 ของความเสียหายจริง ตามที่ตกลงกับเกษตรกร ซึ่งจะนำเรื่องเข้าพิจารณาอนุมัติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 27 มีนาคมนี้ จากนั้นเมื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ทำให้ปลาตายแล้วจะนำเงินส่งคืนรัฐต่อไป

 

 





ต่างประเทศ

 

ไทยเรียกทูตพม่ารับหนังสือประท้วง

สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 23 มี.ค.50 กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญนายเย วิน เอกอัครราชทูตพม่าประจำประเทศไทย มารับหนังสือประท้วงจาก นายอนุสนธิ์ ชินวรรโณอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก หลังเกิดเหตุปะทะกันที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.แม่ฮ่องสอนส่งผลให้ทหารพรานเสียชีวิตหนึ่งนาย หนังสือดังกล่าวระบุว่ากระทรวงต่างประเทศขอประท้วงอย่างรุนแรง พร้อมแสดงความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ขอให้พม่าให้คำอธิบายกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งไม่ได้สะท้อนถึงความเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและความร่วมมืออันดีที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างกัน ทั้งยังแสดงความคาดหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

 

รองนายกรัฐมนตรีอิรักบาดเจ็บจากการถูกพยายามลอบสังหารในกรุงแบกแดดวันนี้.

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ - มือระเบิดฆ่าตัวตายก่อเหตุระเบิดหมายสังหารรองนายกรัฐมนตรีซาลาม อัล-ซูบายี ของอิรัก ขณะทำพิธีสวดใกล้เขตกรีนโซนในกรุงแบกแดดวันนี้ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่คุ้มกัน 2 คนเสียชีวิต ส่วนนายซูบายีได้รับบาดเจ็บที่ช่องท้องและหัวไหล่ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งไปรักษายังโรงพยาบาลทหารสหรัฐแล้ว และแพทย์กำลังทำการผ่าตัด โดยไม่ทราบอาการแน่ชัด

แหล่งข่าวตำรวจกล่าวว่า นายซูบายีตกเป็นเป้าสังหารจากการวางแผนโจมตี 2 ครั้ง ซึ่งนอกจากการระเบิดฆ่าตัวตายแล้วในเวลาเดียวกันคนร้ายยังก่อเหตุระเบิดรถยนต์ที่บ้านพักของเขาด้วย ตามรายงานระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บ 10 คนจากเหตุโจมตีทั้ง 2 ครั้งในจำนวนผู้บาดเจ็บมีพี่ชายของนายซูบายีรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตยังคงสับสน เนื่องจากบางรายงานระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 5 คน รวมทั้งที่ปรึกษาของนายซูบายี ทั้งนี้นายซูบายีนับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิรักซึ่งสนับสนุนสหรัฐคนที่ 2 ที่ถูกพยายามลอบสังหารในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

 

ติมอร์เตรียมเลือกตั้งประธานาธิบดี 9 เมษานี้

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ - ติมอร์เลสเตเริ่มรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้  ก่อนการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 9 เมษายนนี้  ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้ง 2 ของประเทศน้องใหม่ล่าสุดของโลก โดยมีผู้สมัคร 8 คนที่จะลงสมัครเลือกตั้งชิงเก้าอี้จากประธานาธิบดีซานานา  กุสเมา  ผู้นำติมอร์เลสเต และหนึ่งในนี้คือนายกรัฐมนตรีโฮเซ่ รามอส-ฮอร์ต้า  ซึ่งคาดว่าเขาจะเรียกร้องให้ชาวติมอร์ร่วมมือกับอินโดนีเซียและออสเตรเลียที่เข้ามาช่วยเหลือในการรักษาเสถียรภาพความมั่นคงในประเทศ  ขณะที่ตามถนนหนทางในกรุงดิลีเมืองหลวงของติมอร์เลสเตเต็มไปด้วยป้ายชวนเชิญให้ประชาชนไปออกเสียงเลือกตั้ง  ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงขึ้นในระหว่างนี้แม้ว่าผู้นำกลุ่มกบฏยังคงหลบหนีอยู่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท