Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 


 








นำเสนอข้อเขียนของ แกนนำเยาวชน โครงการเยาวชนรู้เรียน Right to know (RTK) ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการสื่อสารเรื่องเอดส์และเรื่องเพศแก่เยาวชน ดำเนินการโดย มูลนิธิพัฒนาเครือข่ายเอดส์ (เอดส์เน็ท) สำนักงานภาคเหนือ สนับสนุนงบประมาณโดยองค์การยูนิเซฟประเทศไทย


 


 


กระถิน


 


           


ปรายเป็นหญิงสาวที่พราวเสน่ห์ เธอศึกษาอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตอำเภอใกล้บ้านของเธอ ปรายเป็นหญิงสาวที่น่ารัก และเป็นที่รักของเพื่อน ๆ  ครู-อาจารย์ในโรงเรียน เธอและเพื่อน ๆ เรียนอยู่ระดับชั้น ม 4 กลุ่มเพื่อนของเธอมีอยู่ 6 คน คือ ปราย พิม นุช มล กิ๊ฟ บิว พวกเธอทั้งหกคนต่างเป็นคนที่อยู่คนละหมู่บ้าน รู้จักกันในช่วงที่เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปรายกับพิมพ์เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากที่สุดในกลุ่ม เธอสองคนมีปัญหาอะไรก็จะเล่าสู่กันฟัง ส่วนเพื่อนคนอื่น ๆ ก็คอยให้คำปรึกษาและคอยช่วยกันอยู่ห่าง ๆ ปรายกับพิมพ์ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันมากกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ พอปิดภาคเรียนต่างก็กลับบ้านของตัวเอง ส่วนพิมพ์กับปรายก็ยังมีการติดต่อกันทางโทรศัพท์ จนกระทั่งเปิดภาคเรียน


 


ปี 2548


 


เป็นการเปิดภาคเรียนใหม่ และเป็นการเลื่อนชั้นของพวกเธอ พอเปิดภาคเรียนได้ 3 เดือน สมาชิกในกลุ่มของเธอก็มีคนออกและหยุดเรียนกลางคัน กิ๊ฟออกเป็นคนแรก เพราะมีปัญหากับพ่อเลี้ยงของเธอที่คิดอกุศลกับเธอ แม่ของเธอจึงพาเธอย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนเพื่อนอีกคนที่ต้องหยุดเรียนกลางคันคือนุช เธอตั้งท้องและไม่ยอมบอกใครเรื่องนี้ ที่โรงเรียนไม่อนุญาตให้เรียน เธอจึงต้องหยุดเรียนเพื่อไปรอคลอดลูก แล้วจึงกลับมาเรียนต่อได้ สมาชิกของกลุ่มจึงเหลือเพียงแค่ 4 คน พวกเธอจึงได้ตั้งชื่อกลุ่มของพวกเธอว่า "เกอร์ลี่ เวอร์ลี่" ประมาณช่วงเดือนธันวาคม พ.. 2548 กลุ่มเกอร์ลี่ เวอร์ลี่ เกิดทะเลาะกัน ระหว่างปรายกับพิมพ์ที่เป็นเพื่อนรักกัน เหตุเกิดขึ้นเพราะพิมพ์เข้าใจปรายผิด เชื่อคนนอกมากกว่าเพื่อนของตัวเอง เพราะมีอยู่วันหนึ่งพิมพ์ทะเลาะกับแฟนของเธอ แค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง วันนั้นที่โรงเรียน ปรายเดินมาเห็นพิมพ์นั่งกดโทรศัพท์อยู่หลังห้อง เธอจึงเดินตรงเข้าไปหา พร้อมกับถามขึ้นว่า


 


 "โทรหาใครอยู่เหรอ แล้วทำไมต้องกดหลายครั้งด้วย เล่นวิวหรือว่าเขาไม่รับสาย"


 "ก็โทรหาต้นนะซิ โทรไปก็ไม่ยอมรับ จะโกรธอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้" พิมพ์ตอบ


 "แล้วมีเรื่องอะไรกันอีกล่ะ" ปรายถาม


 "ก็แค่ไปจีบเด็ก ม.3 แค่นั่นเอง เด็กไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย แค่อยากหาอะไรทำแก้เบื่อแค่นั้นเอง"


 


ปรายเห็นเพื่อนยังพยายามกดโทรศัพท์ติดต่อกับแฟนของตัวเองจึงพูดขึ้นว่า


 "ลองเอาโทรศัพท์ของฉันโทรดูซิเผื่อเขารับ"


 


พิมพ์รับโทรศัพท์จากปรายแล้วกดโทร.หาแฟนเธอและเขาก็รับสาย เธอคุยกับเขาอยู่พักใหญ่ก็ได้เวลาเข้าห้องเรียน พอเที่ยงวันพิมพ์กับปรายก็มานั่งคุยกับเพื่อนๆ  พิมพ์เล่าเรื่องที่เธอคุยกับต้นให้เพื่อนๆ ฟัง พร้อมกับบอกปรายว่า


 "ต้นจะโทรไปถามเธอนะว่าเป็นเพื่อนกันจริงหรือเปล่า"


 


ปรายมองหน้าพิมพ์ด้วยสีหน้าและท่าทางที่สงสัย เธอจึงถามขึ้นว่า


 "ทำไมจะต้องโทร.มาถามด้วย"


 "อยากรู้ให้แน่ใจ"


 


เธอคุยกันอยู่พักใหญ่ก็ได้เวลาเรียน และกลับบ้าน หลังจากวันนั้นผ่านไป 3 วัน ต้นก็โทรศัพท์ไปหาปรายอย่างที่พิมพ์บอกเอาไว้ ปรายกับต้นคุยกันได้สักพักก็มีสายซ้อนเข้าเครื่องของปราย เธอจึงบอกต้นให้วางสายเพื่อจะรับอีกสายหนึ่งที่กำลังรอเธออยู่


 


เช้าวันรุ่งขึ้น


 


ที่โรงเรียน ปรายบอกพิมพ์เรื่องที่ต้นโทร.มาหา พร้อมกับบอกเพื่อน ๆ ทุกคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน โดยที่ปรายไม่ได้คิดอะไรกับแฟนของเพื่อนเลย หลังจากวันนั้นต่อมา 1 อาทิตย์ต้นโทรหาปรายอีกครั้งหนึ่ง เขาถามเกี่ยวกับเรื่องปรายเสียมากกว่าแทนที่จะเป็นเรื่องของพิมพ์ แต่ปรายก็ไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษเพราะเธอไม่คิดจะแย่งแฟนเพื่อน


 


เช้าวันต่อมาที่โรงเรียน  ปรายได้เล่าเรื่องที่ต้นโทร.หาให้พิมพ์ฟังทุกเรื่องที่คุยกับต้น แต่อีกหลายวันต่อมาพิมพ์เกิดสงสัยต้นขึ้นมา เพราะต้นไม่โทร.หาพิมพ์และหายเงียบไปพักใหญ่ พิมพ์จึงโทร.หาปรายและถามปรายว่า


 "ต้นโทร.หาเธอมั้ย"


 "ไม่นี่ ไม่ได้โทร. ทำไมเหรอ"


 "ก็ต้นไม่ได้โทร.หาฉัน 2-3 วันแล้ว ไม่รู้หายไปไหน โทร.ไปก็ไม่รับ ปิดมือถือด้วย"


 


ปรายรู้สึกไม่สบายใจจึงบอกกับพิมพ์ว่า "เธออย่าระแวงไปเลย"


 


เวลา 20.18 .ของคืนนั้น


ต้นโทร.หาปรายและถามปรายเรื่องพิมพ์ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของปรายมากกว่าเหมือนเดิม และขณะที่คุยกันอยู่นั้น ต้นถามปรายขึ้นว่า


 "ต้นขอจีบปรายได้ไหม"


 "ทำไมถึงถามอย่างนี้ล่ะ"


 "ต้นอยากคบกับปรายดูนี่ เบื่อพิมพ์แล้ว เขาเอาแต่ใจตัวเอง"


ปรายปฏิเสธต้นทุกคำพูด และปรายก็บอกกับต้นว่า


 "ปรายจะหักหลังเพื่อนไม่ได้หรอก ยิ่งกับพิมพ์ ปรายยิ่งทำไม่ได้ เพราะพิมพ์เป็นเพื่อนที่ปรายรักมาก"


พอปรายพูดจบ ต้นก็ทำน้ำเสียงไม่พอใจ และพูดว่า


 "ต้นจะไม่บอกกับพิมพ์ว่าคบปราย และจะไม่มีวันบอกให้พิมพ์รู้เรื่องที่เราคบกันและจะเลิกกับพิมพ์"


ปรายฟังแล้วนึกไม่ชอบใจความคิดแบบนี้ของต้นขึ้นมาทันที จึงบอกปฏิเสธต้นไปอีก


 


หลายวันต่อมาที่โรงเรียน ปรายเดินไปหาพิมพ์ที่ม้านั่งหินอ่อนใต้ต้นหางนกยูง เมื่อพิมพ์มองเห็นปรายกำลังเดินตรงมา เธอจึงรีบลุกขึ้นเดินหนีไป ปรายเห็นกริยาหมางเมินของเพื่อน เธอรู้ทันทีว่าพิมพ์รู้เรื่องแล้ว เธอจึงไม่กล้าที่จะสู้หน้าพิมพ์อีก


 


หลายวันต่อมาขณะอยู่ที่โรงเรียน ปรายได้พบพิมพ์อีกครั้ง และเธอก็พยายามหาโอกาสอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้พิมพ์ฟัง แต่พิมพ์ไม่ฟังปรายพร้อมกับบอกว่า


 "นับตั้งแต่วันนี้ไป เธอไม่ใช่เพื่อนของฉัน"


เมื่อปรายได้ฟังเช่นนั้นเธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพื่อให้พิมพ์รู้ว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับแฟนของเพื่อน และตั้งแต่นั้นมาปรายกับพิมพ์ก็ไม่มองหน้ากันอีกเลย ต้นแฟนของพิมพ์ก็หายเงียบไปและไม่มีการติดต่อกับพิมพ์และปรายอีก ต้นได้เลิกกับพิมพ์อย่างที่เขาตั้งใจไว้


 


..2549 ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.6


 


เป็นการเปิดภาคเรียนของเทอมสุดท้ายของพวกเธอ และเป็นภาคสุดท้ายที่ปรายมีความสุขมากที่สุด เพราะพิมพ์ยอมพูดและคุยกับเธอเหมือนเดิม แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่เคยมีมาก่อน…ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ปรายก็ดีใจที่พิมพ์ยอมพูดและดีกับเธอ และแล้ววันนั้นก็มาถึง คือวันอำลาสถาบันของพวกเธอ ซึ่งเป็นวันที่พวกเธอได้อยู่ด้วยกันเป็นวันสุดท้ายของการศึกษาในระดับชั้นมัธยม


 


หลังจากนั้นปรายกับพิมพ์ก็ไม่ได้พบและติดต่อกันอีก


 


-------------------------


 


ชไมพร สินเนตร "กระถิน" เป็นเยาวชนโครงการเยาวชนรู้เรียนเครือข่ายเยาวชนอีสาน


ฉันเป็นคนเชียงรายครอบครัวของฉันมี 4 คน พ่อแม่ พี่ชายและตัวฉัน พ่อกับแม่มีอาชีพเป็นเกษตรกร และรับจ้างทั่วไป ฐานะของเราอยู่ในขั้นปานกลาง


ฉันกับพี่ชายรักกันมาก  ตอนที่เป็นเด็กฉันกับพี่ชายนอนห้องเดียวกัน เวลานอนพี่ชายจะเอาเชือกด้ายจากผ้าห่มมาผูกแขนเราติดกัน ถ้าตื่นก็ตื่นพร้อมกันห้ามตื่นก่อน พอฉันเรียน ป.4 แม่ก็ทำบ้านหลังใหม่ฉันกับพี่ชายได้แยกห้องกันนอน


เมื่ออายุ 6 ขวบ เราต้องย้ายครอบครัวตามคุณตาไปอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี  ปี 2546 เราต้องย้ายครอบครัวกลับมาเชียงรายอีกครั้ง ฉันกำลังเรียนมัธยมต้น ฉันจึงขอให้พ่อกับแม่และพี่ชายกลับไปก่อน เมื่อฉันเรียนจบอีกปีเดียวฉันจะตามไปแต่พ่อไม่ยอม ฉันจึงต้องย้ายมาเรียนที่เชียงราย


ต่อมาพี่ชายของฉันแยกบ้านออกไปมีครอบครัวแล้ว แต่เขายังกลับมาหาแม่เสมอ เขาจะคอยเอาอาหารมาให้ เขาเป็นคนขยันเอาการเอางาน คนในหมู่บ้านชอบพี่ชายของฉันเพราะเขาขยัน


ตอนนี้ฉันกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังจากเรียนจบแล้ว  ฉันคิดว่าจะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย คณะนิเทศศาสตร์ สาขาการแสดง  ฉันจะพยายามทำความฝันของฉันให้เป็นจริง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net