เว็บไซต์มติชนรายงานว่า หลังจากบริษัทแอ๊บบอต แลบอราตอรีส สหรัฐอเมริกา ขอถอนกระบวนการขึ้นทะเบียนยาใหม่ 7 ตัว จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อต่อต้านกระทรวงสาธารณสุขบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา (Compulsory Licensing) โดยไม่ยอมเข้าร่วมการเจรจาต่อรองค่าตอบแทนสิทธิบัตร 0.5% ของมูลค่าการจำหน่ายยาชื่อสามัญ ในวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา จนถูกมูลนิธิเอดส์ประกาศคว่ำบาตรไม่ซื้อสินค้าเครือแอ๊บบอต และถูกรุมประณามจากองค์กรหมอไร้พรมแดน มูลนิธิคลินตัน ยูเอ็นเอดส์ ฯลฯ
เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.
นพ.ศิริวัฒน์กล่าวว่า ผลการเจรจาผลสรุป ดังนี้ 1.บริษัท เอ็มเอสดี เสนอราคายาเอฟาไวเรนซ์ 726 บาทต่อขวด จากราคาเดิมขวดละ 1,400 บาท 2.บริษัท แอ๊บบอต มีจุดยืนที่ต้องการเห็นการสร้างสมดุลระหว่างระบบสิทธิบัตรกับการเข้าถึงยาของประชาชน ดังนั้น แม้จะไม่เห็นด้วยกับการประกาศบังคับใช้สิทธิกับยาคาเลตตราของกระทรวงสาธารณสุขและไม่ขอเจรจาอัตราค่าตอบแทน แต่ทางบริษัทได้นำเสนอราคาใหม่ของยาคาเลตตราให้คณะกรรมการพิจารณาจากราคาเดิม ก่อนการประกาศบังคับใช้สิทธิ อยู่ที่ 5,938 บาทต่อคนต่อเดือน ลดราคาลงมาเหลือเพียง 3,488 บาทต่อคนต่อเดือน หรือลดลง 41.5% ซึ่งเป็นราคาที่อาจจะต่ำกว่าราคายาสามัญด้วย ซึ่งทางคณะกรรมการจะได้พิจารณาและนำเสนอกระทรวงสาธารณสุขต่อไป ส่วนเรื่องการถอนการขึ้นทะเบียนยาใหม่ 7 ตัว ยังไม่ได้มีการหารือ 3.บริษัท ซาโนฟี เจ้าของยาพลาวิคซ์ไม่เข้าร่วมการเจรจาในวันนี้ เนื่องจากได้แจ้งว่าผู้บริหารระดับสูงติดภารกิจ และขอให้มีการนัดหมายเพื่อเจรจาในโอกาสหน้าต่อไป คาดว่าราวต้นเดือนพฤษภาคมนี้
เลขาธิการ อย.กล่าวว่า ในวันนี้คณะกรรมการยังได้เชิญบริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด มาเจรจาหารือเพื่อหามาตรการร่วมกันในการเพิ่มการเข้าถึงยารักษามะเร็งบางประเภทโดยให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใน 3 เดือนแรกของการรักษา และทางบริษัทจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 9 เดือนที่เหลืออยู่ ใน 1 ปี แต่ยังไม่ได้นำเสนอทางเลือกเกี่ยวกับการลดราคายา
"สำหรับยาเอฟฟาไวเรนซ์ ซึ่งทางองค์การเภสัชกรรมได้นำเข้ามาแล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่เราต้องดำเนินการเพื่อทำให้บริษัทยาเห็นว่าเราเอาจริงกับการประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร ส่วนข้อเสนอที่ทางบริษัทเสนอเข้ามาใหม่นั้นทางคณะกรรมการจะสรุปนำเสนอต่อ นพ.
เลขาธิการ อย.กล่าวว่า คณะกรรมการได้นัดหารือกันอีกครั้งในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ และยังยินดีเปิดรับข้อเสนอของบริษัทยาทุกบริษัท
ดร.
"บริษัทขณะนี้เรียกว่าได้ถอยจนหลังติดฝาแล้ว และคงลดราคายาลงไปกว่านี้ไม่ได้อีก โดยเป็นมาตรฐานราคายาที่กำหนดใช้เหมือนกันทั่วโลก" ดร.กิตติมากล่าว
ขณะที่ น.ส.
"สายเกินไปที่บริษัทยาเหล่านี้จะมาขอเจรจาต่อรองและยอมลดราคาลง ซึ่งแม้ราคาที่ลดลงอาจจะดูว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาสามัญ แต่ความจริงราคายาสามารถลดลงได้มากกว่านี้อีก อย่างไรก็ตาม การลดราคานั้นไม่สามารถประกันการเข้าถึงยาของผู้ป่วยได้เหมือนกับการประกาศซีแอลของกระทรวงสาธารณสุข และว่าแม้ว่าบริษัทยาอย่างแอ๊บบอตจะขอเจรจายอมลดลาคาลง แต่ทางเราก็ยังยืนยันที่จะเดินหน้าคว่ำบาตรสินค้าในเครือบริษัทแอ๊บบอตต่อไป" น.ส.สารีกล่าว
---------------------------------
ที่มา: http://www.matichon.co.th/matichon
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)