Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 19 เม.ย.  ที่โรงแรมอลิซาเบซ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(ผอ.รมน.) เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนาวิทยุชุมชนเพื่อความมั่นคงของ กอ.รมน.


 


พล.อ.สนธิ กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาขณะนี้คนไทยมีความอึดอัดไม่สบายใจทั่วกัน สืบเนื่องมาจากปีที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ ซึ่งปัญหาความขัดแย้งทางสังคมยังมีต่อเนื่อง และเมื่อย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์เห็นว่า เมื่อบ้านเมืองเกิดความขัดแย้งเมื่อใดจะนำไปสู่ความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองทุกครั้ง ซึ่งการเสียกรุงทั้ง 2 ครั้งเกิดจากคนไทย ไม่รักกันและไม่สามัคคีกัน ในวันนี้ปัญหาความขัดแย้งของสังคมกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ถือเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ในฐานะที่ กอ.รมน.มีหน้าที่รักษาความมั่นคงภายใน ต้องทำให้คนในชาติรู้รักสามัคคี หากเราแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้ เชื่อว่าปัญหาของบ้านเมืองคงมีความยุ่งยากลำบากมากขึ้น


 


 พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนรากแก้วส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทำให้การรับรู้ข้อมูลข่าวสารและข้อมูลข้อเท็จจริงจากสื่อของรัฐไปถึงประชาชนลำบาก ดังนั้น เชื่อว่าวิทยุชุมชนนั้นมีส่วนที่จะทำให้เกิดความเข้าใจ เพื่อกระจายข้อมูลข้อเท็จจริง จากส่วนกลาง และนโยบายของรัฐบาล เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจของ ประชาชนพื้นที่ หากประชาชนรากแก้วมีความเข้าใจในปัญหาต่างๆ คิดว่าปัญหาบ้านเมืองจะทุเลาลงไปส่วนหนึ่ง เพราะประชาชนรากแก้วอาจจะกลายเป็นเครื่องมือ ของคนบางส่วนที่มุ่งในการที่จะทำให้เกิดต่อความมั่นคงของประเทศ


 


"ในเวลาสั้นๆเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นเดือนที่รัฐบาลต้องเฝ้าระวัง เพราะเป็นเดือนที่นโยบาย 4 ข้อของ คมช.จะสัมฤทธิ์ชัดเจนขึ้นในเดือนพฤษภาคมหลายเรื่อง ดังนั้น สถานการณ์ต่างๆในเดือนพฤษภาคม จึงต้องเฝ้าระวัง แต่หากผ่านพฤษภาคมไปแล้วสถานการณ์ต่างๆจะดูดีขึ้น ทั้งนี้ การตัดสินคดีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรค ซึ่งปัญหาตรงนี้จะนำไปสู่กลุ่มคนหลายกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวทำให้เกิดความไม่เรียบร้อยขึ้น โดยบ่งชี้ว่าการทำงานของรัฐบาลและ คมช.ไม่สามารถบริหารได้ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดสำคัญและเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อในเดือนเมษายนและพฤษภาคม"


 


พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ที่ต้องระวังในห้วงเมษายนและพฤษภาคม เพราะเป็นห้วงเวลาที่จะมีการตัดสินคดีของ คตส. และ ป.ป.ช.หลายโครงการ รวมถึงคดียุบพรรคซึ่งคิดว่าบางกลุ่มจะพยายามเคลื่อนไหวให้เกิดความไม่เป็นธรรม และลดความเชื่อมั่นของ คมช.และรัฐบาล ซึ่งเป็นแนวทางการต่อสู้ทางการเมืองรูปแบบหนึ่ง


 ผู้สื่อข่าวถามว่าหากยุบพรรคประชาธิปัตย์และพรรคไทยรักไทย เกรงหรือไม่ว่าจะมีการปลุกม็อบมาสนับสนุนจนเกิดความวุ่นวาย พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น เพราะการตัดสินของศาลเป็นสิ่งที่ถูกต้อง คนไทยต้องยอมรับการตัดสินขององค์กรที่ยุติธรรมที่สุด ทั้งนี้ กองทัพให้หน่วยงานต่างๆเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนในภาพรวมเพื่อให้เข้าใจในสถานการณ์บ้านเมือง ทั้งนี้ เชื่อว่าประชาชนที่ไม่เข้าใจ คมช.นี้ไม่มากและที่ห่วงว่าจะมีการเผชิญหน้ากัน เพราะเราเข้าใจคนไทยดีและมีมาตรการรับมืออยู่


 


ส่วนจะประกาศใข้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากบีบบังคับกันมากรัฐบาลก็คงประกาศ


 


"หมอประเวศ"เตือนระวังนองเลือด


นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวว่าสถานการณ์การเมืองในขณะนี้อาจนำไปสู่การนองเลือด จากกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่ม ถือเป็นการลองของ ด้านหนึ่ง เป็นสิทธิการชุมนุมโดยสันติ ซึ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือร้อยละ 70-80 ยังชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี ก็ไม่ยากที่จะรวบรวมคน 100,000-200,000 คนมาชุมนุม อาจจะเกิดเรื่องได้ ถ้าไม่ระวัง


 


นพ.ประเวศ กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องรู้และตระหนักว่าทุกสิ่งอาจนำไปสู่การ นองเลือด สังคมไทยกำลังเสี่ยงกับการนองเลือด และถ้านองเลือดแล้วก็แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะหัวใจคือปัญหามีมาก แต่ความสามารถของประเทศในการแก้ปัญหามีน้อย จึงอาจนำไปสู่กลียุค การตระหนักรู้ มีสติ ไม่ประมาท จะช่วยแก้ปัญหา ย้ำว่ากองทัพต้องแก้ปัญหาด้วยสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล พรรคไทยรักไทย กลุ่มพีทีวีต้องมาตกลงกัน กำหนดกรอบกติกาว่า การชุมนุมโดยสันติทำได้ ไม่ทำสิ่งที่ล้ำเส้น เช่น ใช้ปืนไม่ได้ ใช้น้ำได้ โดยรัฐบาลอาจเป็นผู้ริเริ่มในการนำทุกฝ่ายมาตกลงกัน


         


อดีตคนรักทักษิณโผล่ชู"จิ๋ว"นั่งนายกฯ


วันเดียวกัน ที่กองทัพบก นายเทพพนม ศิริวิทยารักษ์ ประธานเครือข่ายภาคประชาชนภาคอีสาน พิทักษ์ธรรมนูญ และอดีตแกนนำคนรักทักษิณ เดินทางมายื่น ข้อเรียกร้องต่อ พล.อ. สนธิ เพื่อเสนอแนวทางแก้วิกฤตชาติ พร้อมมอบดีวีดีรายละเอียดการแก้ปัญหาของระบอบทักษิณ โดยมี พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เป็นผู้แทนรับมอบ


 


สำหรับเนื้อหาขอเรียกร้อง เสนอให้


 


1.ปรับ ครม.ทั้งคณะเป็นรัฐบาลแห่งชาติ โดย คมช.ร่วมกับนายกรัฐมนตรีและตัวแทนพรรคการเมือง 4 พรรค คือ พรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคมหาชน ร่วมกันพิจารณาจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นบริหาร


 


2.เสนอให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกฯ


 


3.ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คตส., ป.ป.ช. ทำหน้าที่ควบคุม ตรวจสอบ ครม.ของรัฐบาลแห่งชาติ และ ตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาลในอดีตต่อไป


 4. สภาร่างรัฐธรรมนูญ และ กกต.ทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญและขอประชามติให้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญและเตรียมการเลือกตั้งต่อไป


 


นายเทพพนม เปิดเผยอีกว่า ทางกลุ่มจะร่วมชุมนุมกับกลุ่มพีทีวีในวันที่ 27 เม.ย. ที่ท้องสนามหลวง และแม้จะสนับสนุน พล.อ.ชวลิตให้เป็นนายกฯแต่ก็ไม่ได้รับเงินจาก พล.อ.ชวลิต ทั้งที่เมื่อก่อนตอนเข้าบ้านปิ่นประภาคมของ พล.อ.ชวลิต จะได้รับครั้งละแสนบาท แต่ตอนนี้ได้แค่ 2 หมื่นบาทเป็นค่ารถ เพราะท่านก็ไม่ได้มีเงินมากเหมือนในอดีต


 


นายเทพพนม ยอมรับว่ามีการส่งท่อน้ำเลี้ยงจากกลุ่มอำนาจเก่าจริง โดยต่างจังหวัดยังมีอดีตรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลที่แล้วให้การสนับสนุนด้านการเงิน ในขณะที่ตนเองถือเป็นสายตรง "บ้านจันทร์ส่องหล้า" โดยมีการประสานการทำงานกับกลุ่มคลองเตยในการเคลื่อนไหวด้วย


 


"คมช. ต้องตัดท่อน้ำ เลี้ยงตรงนี้ให้ได้ เพราะตอนนี้มีการแจกหัวละ 500 บาท ทั้งเด็กและเยาวชนที่ปิดภาคเรียนเราก็ระดมมาหมด ในขณะที่หัวหน้ากลุ่มได้ 1,200 บาท เพื่อระดมให้คนมาชุมนุมให้ได้เรือนแสน และมีแผนที่จะทำให้เสียเลือดเสียเนื้อ สร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย ลองคิดดูว่าหากมีคนตายสักสิบคน คมช.จะอยู่ได้อย่างไร ถึงวันนั้น คมช. ต้องลาออก ตอนนี้ คมช.ต้องทำอะไรสักอย่างต้องจัดการกับท่อน้ำเลี้ยงให้ได้ รวมถึงรัฐบาลก็ต้องมีแนวทางแก้ไขปัญหาเกษตรกรอย่างตรงจุด"


 


พีทีวีปรับแผนชูธงคว่ำรัฐธรรมนูญ


นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธานกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ไปขออนุญาตที่ที่ว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้พื้นที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 27 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น.เพื่อชุมนุม โดยพีวีทีได้เตรียมการอภิปรายให้น่าสนใจมากขึ้น นอกเหนือจากประเด็นการทุจริตแล้ว จะทำการอภิปรายวิเคราะห์รัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตรา เพื่อปลุกกระแสให้ประชาชนช่วยกันคว่ำรางรัฐธรรมนูญ โดยรอบเวทีจะมีกลุ่มไทยเซย์โนมาร่วมตั้งโต๊ะให้ประชาชนลงชื่อคว่ำรัฐธรรมนูญด้วยคาดว่าการชุมนุมในวันที่ 27 จะมีประชาชนมาร่วมมากกว่าทุกครั้ง


         


ส่วนสาเหตุที่ต้องรณรงค์คว่ำรัฐธรรมนูญนั้น เพราะหลายฝ่ายต่างเห็นพ้องกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่เป็นประชาธิปไตย ถอยหลังไปกว่าปี 2540 ไม่ว่าจะเป็นการ กำหนดให้ ส.ว.ไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง การลดจำนวน ส.ส.ระบบเขต และยกเลิกระบบปาร์ตี้ลิสต์ จึงอยากฝากไปถึงส.ส.ร.ว่ายังมีเวลาทบทวนก่อนที่จะถูกประชาชนคว่ำรัฐธรรมนูญ จะได้ไม่เกิดปัญหาขัดแย้งจนนำไปสู่การปฏิวัติอีกครั้ง


 


ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net