Peaceway Foundation
Newsline 17-23 เมษายน 2550
เมื่อเร็วๆ นี้รัฐบาลทหารพม่าได้เซ็นสัญญากับบริษัทต่างชาติหลายแห่ง สำหรับโครงการลงทุนก่อสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำในประเทศพม่า แต่การผลิตไฟฟ้าก็เพื่อออกส่งจำหน่ายให้แก่ไทยและจีน
ทางการยังได้ทำสัญญาขุดค้นก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบกับบริษัทน้ำมันต่างชาติกว่า 30 สัญญา แต่ก๊าซเหล่านั้นก็ถูกสูบขึ้นมาเพื่อส่งออกเช่นเดียวกัน
ประชาชนชาวพม่าได้อะไรจากวิธีการบริหารเศรษฐกิจแบบนี้ ในขณะที่เมืองใหญ่ต่างๆ ทั่วประเทศมีไฟฟ้าใช้วันละไม่กี่ชั่วโมง ผู้คนใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในความมืด เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องอำนวยความสะดวก ที่ใช้ไฟฟ้ากลายเป็นสิ่งของที่ไร้ประโยชน์
ต่างกับที่เมืองเนย์ปีดอ (Naypyidaw) ศูนย์การบริหารแห่งใหม่ ซึ่งเป็นที่พำนักอาศัยของบรรดาผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล ซึ่งไฟฟ้าสว่างไสวตลอด 24 ชั่วโมง ในห้องนอนและสำนักงานนั้นเย็นฉ่ำตลอดเวลาด้วยเครื่องปรับอากาศ ที่นั่นมีไฟฟ้าอย่างเหลือเฟือ
ถนนทุกสายในเนย์ปีดอสว่างไสวด้วยหลอดไฟที่ถูกประดับประดาตาม 2 ข้างทางดูสวยงาม ทั้งๆ ที่มียวดยานเพียงไม่กี่คันที่ใช้ถนนชั้นเยี่ยมเหล่านั้น เช่นเดียวกันกับอาคารสถานที่ราชการต่างๆ ที่มีไฟสว่างตลอดเวลาในยามค่ำคืน
ในกรุงย่างกุ้งเมืองหลวงเก่าและในย่านการค้า ไฟฟ้าดับสร้างปัญหาแก่เศรษฐกิจอย่างรุนแรง และ สำหรับครัวเรือนทั่วไปการไม่มีไฟฟ้าหมายถึงการไม่มีน้ำใช้ด้วย เนื่องจากพวกปั๊มน้ำส่วนใหญ่นั้นใช้ไฟฟ้า
ไม่เพียงแต่จะไม่มีไฟฟ้าใช้เท่านั้น ครัวเรือนต่างๆ ยังเดือดร้อนสาหัส เนื่องจากทางการได้ขึ้นค้าไฟอีก 10 เท่าตัวเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ทางการมีรายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้น 8 ล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549-2550 (ซึ่งสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.ปีนี้)
เครื่องปั่นไฟกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่พอจะซื้อหาไปใช้ได้ แต่นั่นก็ทำให้ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้น ราคาก็พุ่งสูงขึ้นไปอีก ทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำมันติดตามมา ในตลาดที่ไม่มีความมั่นคงใดๆ อยู่แล้ว
"ชาวบ้านแถบนี้มาหาซื้อน้ำมันไปใช้กับเครื่องปั่นไฟ แต่บางครั้งเราก็ไม่มีน้ำมันขายให้หรอก" ผู้ค่าน้ำมันในตลาดมืดรายหนึ่งกล่าว.
(เรียบเรียงจากบทความเรื่อง