ประชาไท - 2 พ.ค. 50 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมวันแรงงานสากล ประเทศไทย วานนี้ (1 พ.ค.) ซึ่งแต่เดิมตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ปี 2546 เป็นต้นมา มีการแยกจัดการเดินขบวน 2 ขบวน โดย "คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย" จัดงาน "วันแรงงานสากล" โดยแยกออกจากงาน "วันแรงงานแห่งชาติ" ที่จัดโดย "สภาองค์การลูกจ้างแห่งประเทศไทย" ซึ่งจัดงานกับรัฐบาลนั้น
ปรากฏว่าในปีนี้ มีกลุ่มผู้ใช้แรงงานแยกออกมาจากกลุ่มที่จัดงานกับรัฐบาลเพิ่มอีก 1 กลุ่ม ทำให้การชุมนุมวันแรงงานสากลประกอบไปด้วยกรรมกร 3 กลุ่ม ซึ่งต่างมีจุดร่วมเสนอให้ปรับปรุงคุณภาพชีวิตแรงงาน และสิทธิแรงงาน แต่มีข้อเสนอบางประการและจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกัน ได้แก่กลุ่ม 11 สภาองค์การลูกจ้างแห่งประเทศไทย และ สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย โดยมีนาย
สำหรับสองกลุ่มหลังซึ่งจัดงาน "วันแรงงานสากล" และ ไม่ได้ใช้เงินของรัฐบาลจัดงาน ประกอบด้วย กลุ่มของ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ที่มี น.ส.
และกลุ่มที่สาม ซึ่งแยกออกมาใหม่คือกลุ่ม "สมัชชาแรงงาน
โดยจะจัดกิจกรรม "ชำแหละรัฐธรรมนูญ" โดยเวทีประชุมสมัชชาผู้ใช้แรงงาน ณ ลานพระบรมรูปทรงม้าในช่วงเช้าและการประกาศมติผู้ใช้แรงงานคว่ำร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับกรรมาธิการ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เวลา 12.30 น.
ภาพ (AP Photo/Apichart Weerawong)
แรงงานเสื้อเหลืองขอเลือกเส้นทางชีวิตใช้เศรษฐกิจพอเพียง
โดยกลุ่มแรกจัดงาน "วันแรงงานแห่งชาติประจำปี
โดยได้จัดสำหรับกิจกรรมประกอบไปด้วยพิธีทำบุญตักบาตรที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยมีนาย
เช้าพิธีสงฆ์ เที่ยง "ยุทธ์" ออกมาให้พร เย็นมีคอนเสิร์ตจาก "เครื่องดื่มชูกำลัง" หนุน!
หลังพิธีสงฆ์ กลุ่มผู้ใช้แรงงานจำนวนแปดพันคนจากสภาองค์การลูกจ้างต่างๆ และสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจประเทศไทย ได้จัดตั้งริ้วขบวนประกอบด้วย ริ้วขบวนเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ขบวนเศรษฐกิจพอเพียง และริ้วขบวนข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ได้เดินจากลานพระบรมรูปทรงม้า ไปตามถนนราชดำเนิน เข้าสู่ท้องสนามหลวง เพื่อร่วมพิธีเปิดงานในเวลา 12.00 น. โดยมี พล.อ.
สำหรับกิจกรรมในงาน มีการแข่งขันกีฬาของผู้ใช้แรงงาน นิทรรศการด้านบริการต่างๆ ของกระทรวงแรงงาน อาทิ การเปิดบริการด้านสุขภาพ ประกันสังคมแบบเบ็ดเสร็จ การทำบัตรรับรองสิทธิ ตอบปัญหาชิงรางวัล และการแสดงดนตรีจากนักร้องชื่อดังโดยมีเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดังเป็นสปอนเซอร์หลัก
เปิดข้อเรียกร้อง 9 ข้อ ยื่นนายกรัฐมนตรี
ส่วนข้อเรียกร้อง 9 ข้อ ที่เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1.ขอให้ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ในมาตรา 5(3) จ้างเหมาค่าแรงโดยลูกจ้างเหมาค่าแรงจะต้องได้ค่าจ้าง และสิทธิประโยชน์เท่ากับลูกจ้างในระบบจ้างปกติของสถานประกอบการนั้นๆ 2.ขอให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยเพิ่มมาตรา 52 เรื่องการจัดตั้งสถาบันความปลอดภัยในการทำงาน เป็นองค์กรทางวิชาชีพ 3.ขอให้ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน 4.ขอให้ปรับอัตราค่าจ้างให้กับลูกจ้างตามอัตราเงินเฟ้อและให้ปรับเงินในอัตราเดียวทั้งประเทศ และให้ควบคุมสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ
5.ขอให้ประกาศยกเลิกการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 6.ขอให้ประกาศกฎหมายที่ให้ผู้ใช้แรงงานและประชาชนที่อาศัยหรือทำงานในพื้นที่นอกทะเบียนบ้านสามารถใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว.ในเขตพื้นที่ซึ่งตนอาศัยหรือทำงานอยู่ได้ 7.ขอให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดตั้งโรงพยาบาลของตนเอง เพื่อบริการการรักษาแก่ผู้ประกันตน 8.ในกรณีที่ผู้ประกันตนเกษียณอายุไม่ว่าจะรับบำเหน็จหรือบำนาญ ขอให้ สปส.รักษาพยาบาลแก่ผู้ประกันตนฟรี ไม่ต้องไปใช้โครงการ 30 บาท และ 9.ขอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการฝ่ายรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้อง ร่วมกับผู้แทนฝ่ายลูกจ้างทั้ง 11 สภาฯ กับ 1 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ติดตามข้อเรียกร้องของผู้ใช้แรงงานที่ยื่นในวันนี้ พร้อมทั้งให้แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานสัมพันธ์ เป็นเลขานุการ
"ยุทธ์" สุนทรพจน์ แม้มีเวลาสั้นๆ แต่ไม่ละเลยผู้ใช้แรงงาน
พล.อ.
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วง 5 - 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงแรงงานเร่งรัด ส่งเสริม และพัฒนากิจการแรงงาน เพื่อไม่ให้ผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบจากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งกระทรวงแรงงานได้นำแนวทางไปจัดทำแผนพัฒนาแรงงาน ปี 2550 เน้นการดูแลทุกกลุ่มในสังคม ในทุก ๆ สถานการณ์ ซึ่งรัฐบาลได้ผ่านความเห็นชอบแผนพัฒนาแรงงานสมานฉันท์ไปแล้ว เพื่อรองรับและขับเคลื่อนการพัฒนาแรงงานปี 2550 หวังว่าแผนต่าง ๆ จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้สังคมมีความสงบสุข สมานฉันท์ และทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และกลุ่มองค์กรต่างๆ
จะขอทบทวน กม. แรงงาน 7 ฉบับ เน้นไตรภาคี ย้ำ "นายจ้าง ลูกจ้าง รัฐ" ให้ร่วมมือ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของผู้ใช้แรงงานที่ขอให้มีการแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติม และประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับต่าง ๆ นั้น รัฐบาลได้ทบทวนและนำเสนอร่างกฎหมายแรงงานสำคัญ ๆ อย่างน้อย 7 ฉบับ เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการขยายการคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน ให้ครอบคลุมถึงแรงงานนอกระบบ เรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวะอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ และการทำงานของคนต่างด้าว การจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน การขยายความคุ้มครองผู้ประกันตนโดยสมัคร และการเพิ่มอำนาจคณะกรรมการค่าจ้าง ให้สามารถกำหนดแนวทางการปรับอัตราค่าจ้างประจำปี ตามภาวะเศรษฐกิจและสังคมได้
"ส่วนข้อเรียกร้องด้านอื่น ๆ เช่น เรื่องอัตราค่าจ้าง และการจัดตั้งโรงพยาบาลประกันสังคม อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาดำเนินการ ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างเต็มกำลังนี้ นอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ใช้แรงงาน นายจ้างในสถานประกอบการต่าง ๆ แล้ว ยังจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไปด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
และยังย้ำต่อว่า รัฐบาลยินดีที่จะให้การสนับสนุน ส่งเสริมให้ผู้ใช้แรงงาน รวมทั้งผู้ประกอบการในด้านที่ถูกต้อง และต้องการเห็นนายจ้างกับลูกจ้าง มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาของประเทศ มีความสมานฉันท์ สันติวิธี ภายใต้ประชาธิปไตย และต้องการให้บรรยากาศความร่มเย็นในวันนี้ เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือของคนไทย และเป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีหน้าที่ดูแลแรงงานต่อไป
ผู้นำแรงงานพอเพียงปลื้มสุรยุทธ์ลงมารับหนังสือ
ด้าน นาย
ทั้งนี้ เพื่อให้มีการคุ้มครองและดูแลลูกจ้างเหมาค่าแรง ให้ได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับลูกจ้างในระบบจ้างปกติ รวมทั้งกรณีนายจ้างสั่งหยุดงานหรือย้ายสถานประกอบการต้องจ่ายค่าจ้างและค่าชดเชย 100 เปอร์เซ็นต์
อีกสองเดือนจะมาทวงคำตอบรัฐบาล ยันถ้าฝนไม่ตกวันนี้มาเป็นหมื่น
นาย
ส่วนการเรียกร้องให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำตามอัตราเงินเฟ้อนั้น ยืนยันว่าควรจะต้องยกเลิกโครงสร้างค่าจ้างขั้นต่ำที่มี 22 ระดับ มาใช้โครงสร้างใหม่ที่เป็นอัตราเดียวทั้งประเทศและมีการปรับขึ้นให้ผู้ใช้แรงงานทุกปี
นายมนัส ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของผู้ใช้แรงงานอีกกลุ่มหนึ่งในวันเดียวกันนี้ว่า ไม่ถือเป็นการขาดเอกภาพหรือความขัดแย้งแต่อย่างใด โดยการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ที่ท้องสนามหลวง จัดโดย 11 สภาองค์การลูกจ้างและสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ซึ่งถ้าไม่ติดฝนตก มั่นใจว่าจะมีผู้มาร่วมงานนับหมื่นคน แต่วันนี้ก็มากันหลายพันคน
สมานฉันท์แรงงานฯ เสนอมี กม.คุ้มครองสิทธิแรงงาน ต้านแปรรูปรัฐวิสาหกิจ 3 ฉบับ
สำหรับบรรยากาศของกลุ่มคนงาน อีก 2 กลุ่ม ที่แยกออกมาจากกลุ่มที่จัดงานกับรัฐบาลนั้น ในปีนี้ประกอบด้วยส่วนของ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย และ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ซึ่งประกอบด้วยองค์กรแรงงาน 67 องค์กร ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม "วันแรงงานสากล"
โดยกลุ่มของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย และ สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ส่วนใหญ่สวมเสื้อสีส้ม ประมาณสี่พันคนถือป้ายข้อเรียกร้องรัฐสวัสดิการ และการยกระดับคุณภาพชีวิตกรรมกร มีขบวนของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยส่วนหนึ่งได้การแต่งกายเป็นฤๅษีและเต่าเพื่อล้อเลียนรัฐบาล และ ชูป้ายข้อความตำหนิการทำงานของนายอภัย รมว.แรงงาน ระบุว่า "รัฐมนตรีกระทรวงแรง งานทำงานมา 6 เดือนแล้วไม่มีผลงาน ทำงานช้า คิดช้า หรือ จะรอให้เต่าเรียกพ่อ" "รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานต้องอยู่ในหัวใจของผู้ใช้แรงงานไม่ใช่อยู่บนหัวของผู้ใช้แรงงาน"
โดยทั้งหมดได้รวมกันที่หน้ารัฐสภาด้านถนนอู่ทองในจากนั้นได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1. ให้รัฐบาลประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ... (ฉบับผู้ใช้แรงงาน) 2. ให้รัฐบาลประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมคุ้มครองสุขภาพ ความปลอดภัย อาชีว อนามัย และสิ่งแวดล้อมในสถานประกอบการ พ.ศ. .... (ฉบับผู้ใช้แรงงาน) และ 3. ให้รัฐบาลประกาศยกเลิกนโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในทุกรูปแบบ และยกเลิกพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2542 (รายละเอียดข้อเรียกร้อง)
"ประสงค์" รับข้อเสนอ รธน.50 จากแรงงาน ฮึ่มโหวตไม่รับ รธน. หากข้อเรียกร้องไม่บรรจุ
โดยระหว่างการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา น.ต.
"หลังจากนี้เราจะติดตามการดำเนินงานของภาครัฐต่อไป ซึ่งหากข้อเรียกร้องของเราไม่ถูกบัญญัติในรัฐธรรมนูญ พวกเราอาจไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่จะออกมา เพราะถือว่าไม่ได้เป็นรัฐธรรมนูญที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง" น.ส.วิไลวรรณ กล่าว
'สมัชชาแรงงาน 1550' ต้าน คมช. ส่งตัวแทนปีนคลุมผ้าดำอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
สำหรับกลุ่มที่รวมกันใหม่และต้านรัฐประหาร คือ "สมัชชาแรงงาน
โดยในช่วงเช้ามีการตั้งเวทีที่ลานพระบรมรูปทรงม้าจัดกิจกรรม "ชำแหละรัฐธรรมนูญ" ผ่านเวทีประชุมสมัชชาผู้ใช้แรงงาน และต่อมาในช่วงเที่ยงมวลชนประมาณพันกว่าคนได้เดินขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน เพื่อประกาศมติผู้ใช้แรงงานคว่ำร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับกรรมาธิการ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน และมีการนำตัวแทนขึ้นไปคลุมผ้าดำที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นสัญลักษณ์ เผารถจำลองที่บรรทุกสมาชิก คมช. ก่อนที่จะสลายตัว โดยผู้ชุมนุมบางส่วนได้ไปประชุมสมัชชาผู้ใช้แรงงานต่อ ที่โรงแรมเวียงใต้ ย่านบางลำพู
"สมศักดิ์ โกศัยสุข" เรียกร้องสิทธิแรงงาน แต่ขอจิกพวกต้านรัฐประหาร
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่กลุ่ม "สมัชชาแรงงาน
โดยในช่วงหนึ่งของการปราศรัยนายสมศักดิ์ได้กล่าวว่า ได้มีเอ็นจีโอบางคนเข้ามายั่วยุ ให้ขบวนการแรงงานแตกแยก เพราะการที่มีขบวนผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งไปประท้วงคัดค้านรัฐธรรมนูญปี 2550 และเสนอให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 นั้น เราผู้ใช้แรงงานไม่ควรสนับสนุน เพราะรัฐธรรมนูญปี 2540 ไม่สนับสนุนสิทธิของผู้ใช้แรงงาน เพราะกำหนดให้ ส.ส. ต้องจบปริญญาตรี
ทั้งนี้คาดว่านายสมศักดิ์โจมตี "สมัชชาแรงงาน
"ย่านรังสิต" แยกจากขบวนสมานฉันท์แรงงานฯ เหตุห้ามแกนนำพูดต้าน คมช.
นอกจากนี้มีรายงานว่าสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง ซึ่งต้องการร่วมแสดงเจตนารมณ์สนับสนุนข้อเรียกร้องปรับปรุงสภาพการทำงานของคนงานต่อรัฐบาลของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ได้ถอนตัวจากการชุมนุมของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยกลางคัน เพราะแกนนำสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง ซึ่งเตรียมขึ้นปราศรัยบนเวทีของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยถูกกันไม่ให้ขึ้นเวทีปราศรัยเนื่องจากแกนนำกลุ่มย่านรังสิต เตรียมปราศรัยโจมตีการยึดอำนาจและการทำงานของ คมช. ทำให้มวลชนของสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียงแยกออกมาจากขบวนของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยและขอเดินทางกลับก่อน แต่มีมวลชนส่วนหนึ่งได้เข้าไปร่วมการชุมนุมและประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับสมัชชาแรงงาน 1550 ที่จัดการประชุมสมัชชาผู้ใช้แรงงาน ในช่วงบ่ายที่โรงแรมเวียงใต้ ย่านบางลำพู
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประมวลภาพวันกรรมกรสากล-วันแรงงานแห่งชาติ
สมัชชาผู้ใช้แรงงาน 1550 ออกแถลงการณ์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ประชาไท 1 พ.ค. 50
วันกรรมกรสากล : เปิดข้อเรียกร้องคณะกรรมสมานฉันท์แรงงานไทย ประชาไท 1 พ.ค. 50
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)