ประชาไท - 16 พ.ค. 50 เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนชาวบ้านยามู หมู่ 7 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จำนวนกว่า 10 คน ได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือถึงนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัด คัดค้านโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือหรือมารีน่าของบริษัท เดอะยามู จำกัด โดยนายทุนต่างชาติ นายเอียน ไมเคิล ซาร์ลส์ แฮนรี่
นายธนาศักดิ์ ฤทธิ์รักษา แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่าที่ผ่านมาได้มีการประชุมชาวบ้านเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีความเห็นร่วมกันว่าบริษัทเอกชนไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดโครงการให้ชาวบ้านได้รับทราบ ทำให้ขาดการมีส่วนร่วมของชุมชนตามรัฐธรรมนูญ
นอกจากนั้นรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นที่บริษัทที่ปรึกษาโครงการได้จัดทำขึ้นนั้น ไม่ถูกต้องจากความเป็นจริง และชาวบ้านก็ไม่ได้รับรู้ว่าได้มีการทำแบบสอบถามตามที่บริษัทอ้างแต่อย่างใด
"บริษัทที่ปรึกษาฯได้เขียนขึ้นมาเองว่าโครงการนี้ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วจากการสำรวจของนักวิชาการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล พบว่าบริเวณที่ก่อสร้างโครงการท่าเทียบเรือเป็นแหล่งหญ้าทะเลและปะการังที่สมบูรณ์ "นายธนาศักดิ์ กล่าว
นายธนารักษ์ ระบุด้วยว่า การเข้ามาดำเนินการของบริษัทเดอะยามู ที่ผ่านมา ได้เข้าครอบครองถนนสาธารณะ ซึ่งชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางออกไปสู่ทะเล เพื่อประกอบอาชีพประมง แต่หลังจากที่บริษัทนี้เข้ามาดำเนินโครงการได้ปิดกั้นเส้นทางสาธารณะดังกล่าว ด้วย และอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
ทั้งนี้ในการประชุมชาวบ้านได้มีมติร่วมกันว่า 1.ชาวชุมชนบ้านยามู ไม่ต้องการโครงการมารีน่า และ 2.ให้บริษัทเจ้าของโครงการ เปิดเส้นทางสาธารณะ ซึ่งเป็นเส้นทางเดิมให้กับชาวชุมชนด้วย ทั้งนี้ชาวบ้านไม่ต้องการเส้นทางใหม่ ตามที่บริษัทอ้างว่าจะก่อสร้างให้ เนื่องจากไม่มีความสะดวก
"เราคัดค้านโครงการนี้ และหวังว่าทางราชการจะเห็นความสำคัญของการรักษาไว้ซึ่งวิถีชีวิตพอเพียงของชาวชุมชน ที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติและความหลากหลายทางทะเล สนองตามแนวทางพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"นายธนาศักดิ์ กล่าว
ด้านนายนิรันดร์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ในเรื่องนี้ได้มอบหมายให้นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจังหวัดภูเก็ต และเรื่องนี้ยังไม่มาถึงตน ดังนั้นจึงยังไม่มีการอนุมัติให้ก่อสร้างโครงการนี้แต่อย่างใด และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
"การพิจารณาจะต้องอยู่บนข้อมูลของทั้งสองฝ่าย ทั้งจากบริษัทเอกชน และฝ่ายชาวบ้านที่คัดค้าน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการสามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้ อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชาวบ้านได้รับทราบ แล้วนำข้อมูลมาพิจารณา แต่ถ้าในที่สุดแล้วโครงการนี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง และชาวบ้านคัดค้านในส่วนของจังหวัดก็คงอนุมัติให้ไม่ได้"นายนิรันดร์ กล่าว