ประชาไท 5 มิ.ย. 50, วานนี้ (4 มิ.ย.) พรรคแนวร่วมภาคประชาชน ได้ออก "แถลงการณ์สนับสนุนการชุมนุมโดยสันติของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนบริเวณมัสยิดกลาง จ.ปัตตานี" สนับสนุนการชุมนุมและข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม โดยมีรายละเอียดดังนี้
แถลงการณ์สนับสนุนการชุมนุมโดยสันติ
นับตั้งแต่มีการชุมนุมโดยสันติของกลุ่มนักศึกษาและประชาชน บริเวณมัสยิดกลาง จ.ปัตตานี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 ที่ผ่านมา จนถึงบัดนี้ทางผู้ชุมนุมยังคงยืนหยัดต่อสู้เรียกร้องให้รัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาและรับฟังข้อเรียกร้องของพวกเขาเพื่อนำไปพิจารณา แต่กลับถูกรัฐเพิกเฉยและพยายามขยายความตึงเครียดของการชุมชนให้เกิดความรุนแรง ทว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังคงยึดแนวทางสันติวิธีในการต่อสู้ พรรคแนวร่วมภาคประชาชนขอสนับสนุนการชุมนุมที่สันติของกลุ่มฯและ เรียกร้องให้รัฐใช้มาตรการที่ไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงในการคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น
การชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษาและประชาชน บริเวณมัสยิดกลาง จ.ปัตตานี ซึ่งยืดเยื้อมาจนเข้าวันที่ 5 ของการชุมนุม และมีข้อเรียกร้อง 10 ข้อด้วยกัน อันเนื้อหาหลักๆ คือ ให้มีการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ให้หมด ยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกและพระราชกำหนดฉุกเฉินปี พ.ศ. 2548 ในเขตพื้นที่สี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยความยุติธรรม แต่ผู้ชุมนุมกลับถูกภาครัฐมองว่าเป็นกลุ่มที่ถูกจัดตั้งของผู้ก่อการในพื้นที่ เนื่องจากผู้ชุมนุมไม่เปิดเผยตัวตนและปิดหน้าปิดตา ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันตนเองของพวกเขาจากเจ้าหน้าที่รัฐ ทว่าภาครัฐนั้นละเลยและไม่สนใจข้อเรียกร้องที่เกิดจากการรวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้นจริงของชาวบ้าน และไม่ให้การเคารพสิทธิการชุมนุมโดยสันติของประชาชน เช่น มีการกีดกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมอื่นๆมาร่วมการชุมนุมนี้ กีดกันไม่ให้มีการส่งอาหารและน้ำให้กับผู้ชุมนุม และตัดสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการละเมิดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐานของประชาชนอย่างร้ายแรง
พรรคแนวร่วมภาคประชาชนขอสนับสนุนการชุมนุมโดยสันติของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ จ.ปัตตานี และมีข้อเรียกร้องต่อสังคมดังนี้
1. การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาและชาวบ้านหน้ามัสยิดกลางปัตตานี มีความชอบธรรมในการชุมนุมตามสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐาน และการใช้กำลังเข้าปราบปรามจะกระทำมิได้
2. การไม่เปิดเผยหน้าตาของกลุ่มผู้ชุมนุมสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาไม่มีความปลอดภัยในการเคลื่อนไหวอย่างสันติ เพราะหากเปิดเผยใบหน้าอาจถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่หรือตามไปทำร้ายร่างกายหลงจากการชุมนุมได้ ซึ่งสังคมไม่ควรด่วนตัดสินแต่เพียงภายนอก แต่ควรรับฟังข้อเรียกร้องและเหตุผลต่างๆในการออกมาชุมนุม เพื่อสามารถทำความเข้าใจในสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น
3. เรียกร้องให้สื่อลงไปติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงจากกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ใช่รอฟังข่าวจากภาครัฐฝ่ายเดียว
4. เจ้าหน้าที่รัฐต้องรับประกันความปลอดภัยแก่กลุ่มผู้ชุมนุมทุกคน เมื่อมีการสลายการชุมนุมโดยสันติแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้น พรรคแนวร่วมฯ ขอแสดงจุดยืนเฉกเช่นเดียวกับกลุ่มผู้ชุมนุมทุกประการ และเรียกร้องให้มีการถอนทหารออกนอกพื้นที่ นำเจ้าหน้าที่ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและก่ออาชญากรรมกับประชาชนในพื้นที่มาลงโทษ พรรคแนวร่วมภาคประชาชนเชื่อมั่นในพลังของภาคประชาชนที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขสังคมให้ดีขึ้นได้ ด้วยพลังของพวกเราเอง
4 มิถุนายน 2550
พรรคแนวร่วมภาคประชาชน |