Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


 


เตรียมเจรจา ต่อรองราคายาจำเป็นที่มีสิทธิบัตรอีกครั้ง


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเจรจาต่อรองราคายาจำเป็นที่มีสิทธิบัตร กล่าวว่า การเจรจาต่อรองจะมีอีกครั้ง ในวันที่ 6 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา 15.30 น. ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 โดยคณะกรรมการได้เชิญตัวแทนบริษัทยาทั้งหมดเข้าร่วมการเจรจา คือ บริษัท แอ็บบอต แลบอแรตอรีส จำกัด เจ้าของยาต้านไวรัสเอดส์ คาเรตต้าชนิดเม็ด อะลูเวีย และบริษัท ซาโนฟี อเวนตีส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจัดจำหน่ายยาพลาวิกซ์ ยกเว้นบริษัทเอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของยาต้านไวรัสเอฟฟาไวเรนท์ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการพิเศษ ช่วยเหลือยาต้านไวรัสสำหรับเด็ก 2,500 คนฟรี รวมทั้งบริษัทโนวาตีส ที่ก่อนหน้านี้เสนอข้อเสนอในการขายยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว


 


การเจรจาครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังคงเปิดกว้างให้ต่อรองราคายา โดยยึดนโยบายของนพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุว่าจะซื้อยาต้นแบบ หากราคายามีส่วนต่างกับยาสามัญไม่เกินร้อยละ 5 จึงจะรับพิจารณา ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ไม่ได้เสนอข้อต่อรองเป็นพิเศษกับทางบริษัทยา เพราะคงต้องอยู่ที่บริษัทยาจะต้องเป็นผู้พิจารณาเสนอราคาที่สมเหตุสมผลและได้ประโยชน์ร่วมกัน


 


ส่วนค่าตอบแทนสิทธิบัตรยาให้กับบริษัทเอ็มเอสดี ตามกฎหมาย โดยที่ไทยมีการสั่งซื้อยาเอฟฟาไวเรนท์ไปแล้วนั้น ยังคงต้องมีการเจรจากันใหม่อีกครั้ง ส่วนจะรับหรือไม่รับหรือจะเรียนร้องเท่าใดนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่น่าจะยืดเยื้อยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากเอ็มเอสดีไม่ต้องการรับค่าชดเชยแต่ต้องการให้เราเลิกบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร ดังนั้นในการประชุมครั้งหน้าก็จะมีการเชิญบริษัทเอ็มเอสดีฯ มาร่วมประชุมอีกครั้งหนึ่ง


 


 


ปราศรัยด่าป๋าเปรมเพลิน เจอแม่ค้าปาอุจจาระเต็มหน้า


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. บริเวณด้านล่างห่างจากเวทีปราศรัยใหญ่ของกลุ่ม พีทีวี ออกไปเล็กน้อย มีกลุ่มสภาประชาชน นำโดย นส.ดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล หรือ ดา ทอร์นาโด ที่เคยปราศรัยโจมตี คมช.ที่หน้ากองทัพบกเมื่อวันที่ 31 พ.ค.มาเปิดการปราศรัยย่อย โจมตีคมช.และด่าทอ พล.อ.เปรม ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ระหว่างนั้นเองก็ปรากฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง เดินปรี่ตรงเข้าไปใช้ถุงบรรจุสิ่งปฏิกูลคล้ายอุจจาระ ฟาดเข้าใส่ที่หน้าของนส.ดารณี เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวได้ในทันที และนำตัวไปควบคุมและสอบปากคำที่กองรักษาการชั่วคราวของ สน.ชนะสงคราม บริเวณสนามหลวง


 


ผู้ก่อเหตุ ทราบว่าชื่อ นางยุพา อิ่มแดง เป็นชาวกทม.อาศัยอยู่ย่านตลาดพลู มีอาชีพขายดอกไม้ที่สนามหลวง สาเหตุที่ก่อเหตุ เนื่องจากไม่พอใจที่ นส.ดารณี ด่าทอพล.อ.เปรม อย่างหยาบคาย และที่สำคัญ การปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุมทำให้เธอขายดอกไม้ไม่ได้


 


ด้าน นส.ดารณี กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดกับเธอเป็นครั้งแรก เมื่อ 2 วันก่อน เธอก็เคยถูกคนขับรถจักรยานยนต์ข้างปาอุจาระใส่มาแล้ว นอกจากนี้ยังเคยถูกชาย 6 คน ขับรถยนต์กระบะนิสสัน ทะเบียน ษ 2627 เข้ามาประกบ ซึ่งทราบว่าเป็นรถของจ่าทหารคนหนึ่งที่มาทำงานที่สนามหลวง เธอกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยด่า คมช.มา 8 เดือนไม่เคยโดนอะไร แต่เหตุการณ์คุกคามเธอนั้น เริ่มเมื่อตอนที่ไปร่วมกลุ่มปิดล้อมสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค.และ เอเอสทีวี ได้นำประวัติของเธอไปออกอากาศให้ผู้ชมทางบ้านรู้ทั่วกันด้วย


 


 


ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 4% มีผลบังคับใช้ 1 ต.ค.นี้


กรมประชาสัมพันธ์ - ร้อยเอกนายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการทั่วประเทศ รวมถึงข้าราชการบำนาญและลูกจ้างในทุกตำแหน่งขึ้นอีกร้อยละ 4 มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป รวมทั้งปรับอัตราเงินเดือนขั้นสูงและขั้นต่ำของผู้มีสิทธิรับเงินเดือนเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ซึ่งจะมีผลให้รายได้ขั้นสูงของผู้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเป็น 11,000 บาท และรายได้ขั้นต่ำปรับเพิ่มเป็น 7,700 บาท โดยใช้งบประมาณทั้งหมด 17,000 ล้านบาท ส่วนระยะยาวมีการปรับโครงสร้างค่าตอบแทนภาคราชการเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำของค่าตอบแทนของข้าราชการประเภทต่างๆ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กพ.ศึกษาเรื่องนี้ต่อไป



 


 


ครม. มีมติ ให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ แต่ไม่ยกเลิกการเพิกถอนสิทธิ 5 ปี


กรมประชาสัมพันธ์ - ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติผ่อนคลายประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค.ฉบับที่ 27 ข้อสอง โดยให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ แต่ให้คง ข้อ 3 ที่เกี่ยวกับการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 5 ปี นับตั้งแต่มีคำสั่งยุบพรรค ส่วนประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 โดยที่ประชุมมีมติให้ ตราเป็นพระราชบัญญัติแก้ไขประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 เพื่อให้พรรคการเมืองหรือกลุ่มทางการเมืองสามารถจดทะเบียนพรรคการเมืองได้ โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเป็นผู้ยกร่างเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติในอีก 2 สัปดาห์



 


 


กมธ.ยกร่างฯ เพิ่มข้อความ ม.47 ให้ความถี่วิทยุโทรทัศน์เป็นสมบัติชาติ


ผู้จัดการออนไลน์ - ในการประชุมกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมกับ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่เสนอคำแปรญัติโดย พล.อ.อัฎฐพร เจริญพานิช กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ขอเพิ่มข้อความในมาตราที่ 47 เรื่องคลื่นความถี่ที่ใช้ในการส่งวิทยุและการกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และโทรคมนาคม เป็นทรัพยากรการสื่อสารของชาติ เพื่อประโยชน์สาธารณะและความมั่นคงของรัฐ


 


ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักประกันให้รัฐที่จะดำเนินการกรณีที่มีการใช้คลื่นความถี่ในการสร้างความเสียหายในด้านความมั่นคงเพราะในช่วงหลังนั้น กิจการโทรคมนาคม ซึ่งอยู่ในมือของนายทุนต่างชาตินั้น อาจมีการดักฟัง ซึ่ง จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและสิทธิของประชาชนได้


 


พล.อ.อัฎฐพร ยังกล่าวว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงเคยให้ข้อมูลว่า รัฐบาลที่ผ่านมามีการใช้คลื่นโทรคมนาคมของทางทหารเพื่อไปใช้ประโยชน์สาธารณะ หรือโทรศัพท์มือถือ จนทำให้ทางกองทัพอากาศ ต้องมีการจัดซื้อเครื่องมือสื่อสารใหม่


 


 


"สุริยะใส"เย้ยพีทีวี ลอกเลียนได้แค่รูปแบบ


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มพีทีวี และอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่มีกระบวนการคล้ายคลึงกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า กลุ่มพีทีวี ก็เลียนแบบได้เฉพาะรูปแบบการเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ไม่มีแนวทางการเรียกร้องที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม


 


อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาก็พอจะเห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ก็เพื่อขับไล่เผด็จการ ให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับประเทศ และเร่งให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่เป็นการผ่าทางตันทางการเมืองตามที่สังคมต้องการ


 


 


นายชนาพัทธ์ร้อง ทักษิณตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น


ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายชนาพัทธ์ ณ นคร ประธานเครื่อข่ายเตมูจิน เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านถึงรับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นและขอลี้ภัยทางการเมือง ณ ประเทศอังกฤษ โดยมี นายโมฮาเหม็ด อัล ฟาเยด เจ้าของทีมฟุตบอลฟูแล่มและเจ้าของห้างแฮร็อดเป็นผู้เชื่อมประสานและสนับสนุนซึ่งนายชนาพัทธ์อ้างว่า ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพ.ต.ท.ทักษิณที่จะจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อต้องการให้คดีของครอบครัวชินวัตรที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมชะงักในชั้นศาล จึงขอให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบข้อเท็จริงดังกล่าวกับรัฐบาลอังกฤษ และหากพบว่าเป็นเรื่องจริงก็ขอให้มีมาตรการแก้ไขเร่งด่วนด้วย


 


นายชนาพัทธ์ยังย้ำว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวได้ใบอนุญาตผู้พำนักและสามารถลี้ภัยทางการเมืองในประเทศอังกฤษได้จะทำให้คดีต่าง ๆ หยุดชะงักได้ในชั้นศาล


 


 


"ไขศรี" ชงครม.เก็บภาษีบาปเพิ่ม


เดลินิวส์ : การสัมมนาระดับชาติ เพื่อการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ขณะนี้สังคมไทยได้เปลี่ยนแปลงตามกระแสบริโภคนิยม ปรากฏให้เห็นชัดเจนในกลุ่มคนรุ่นใหม่นำไปสู่วิกฤติของพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะวิกฤติด้านคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งจากผลสำรวจของเอแบคโพลล์พบว่า ประชาชนร้อยละ 47.5 ติดตามสื่อลามกตั้งแต่อายุ 15-17 ปี ร้อยละ 76.5 พบเห็นภาพหรือการแสดงที่ไม่เหมาะสมทางเพศจากการใช้อินเทอร์เน็ต ร้อยละ 72.4 พบจากการดูวิดีโอและวีซีดี และร้อยละ 70 พบจากการอ่านนิตยสารและวารสาร


 


คุณหญิงไขศรี กล่าวต่อไปว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 68.2 เห็นว่าควรมีมาตรการเก็บภาษีเพิ่มจากสื่อที่มีความเสี่ยงในการกระตุ้นยั่วยุมอมเมาเยาวชน และร้อยละ 34.9 เสนอว่ารัฐบาลควรมีมาตรการหรือกฎหมายที่เข้มงวดและมีบทลงโทษที่รุนแรงกว่าปัจจุบัน ซึ่งนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กำลังจะเสนอโครงการใหญ่เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะแนวคิดการเก็บภาษีบาปจากธุรกิจที่ส่อไปในทางลามกอนาจาร กระตุ้นยั่วยุมอมเมาเยาวชน เพื่อจัดตั้งเป็นกองทุนนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมรณรงค์ลดละเลิกพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเยาวชนต่อไป


 


ด้าน นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ในฐานะประธานกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า สังคมประสบปัญหาเสื่อมโทรมของศีลธรรม และจริยธรรม ปัญหาการเสพติดสื่อลามก ขณะที่การปฏิบัติงานของกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่ผ่านมา เป็นที่น่าพอใจแม้รัฐบาลมีเวลาไม่นาน โดยในอีก 3 เดือนข้างหน้า คณะกรรมการสื่อฯได้ตั้งเป้าหมายรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวจัดทำเป็นแผนแม่บทสื่อปลอดภัยสร้างสรรค์ บรรจุให้รัฐบาลชุดต่อไปดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน


 


 


งัด 2 พรบ.ส่งเสริมคุณธรรมแก้วิกฤติชาติ


ผู้จัดการออนไลน์ - นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ครม. มีมติอนุมัติ พ.ร.บ. 2 ฉบับ ที่เสนอโดยกระทรวงพัฒนาสังคม คือ พ.ร.บ.ส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ซึ่งเป็น พ.ร.บ.ฉบับแรกของไทย ที่ทำขึ้นเพื่อสร้างสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน เน้นปลุกจิตสำนึกด้านคุณธรรมและจริยธรรม ไม่ใช่กฎหมายที่จะลงโทษใคร แต่บัญญัติให้มีสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ที่มาจากระดับท้องถิ่นและจังหวัด โดยรัฐสนับสนุนให้ประชาชนแลกเปลี่ยนความรู้ นำไปกำหนดนโยบายส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ รวมถึงป้องกันแก้ไขอบายมุขและสิ่งเสพติด จัดทำธรรมนูญคุณธรรมแห่งชาติ ที่บอกถึงคุณธรรมจริยธรรมที่สังคมไทยพึงประสงค์ การดำเนินงานให้ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม เปลี่ยนเป็นสำนักงานส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ไม่มีการเพิ่มเติมเรื่องบประมาณ เพียงแต่มีอำนาจในการทำงานมากขึ้น


 


"ทั้งนี้จะมีการรายงานข้อมูลสถานการณ์สังคม อบายมุข สิ่งเสพติด และทำบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิด้านคุณธรรมแห่งชาติ ซึ่งผมเชื่อว่าในภาวะที่สังคมไทยต้องการความสมานฉันท์ และเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่อาจสั่นคลอนคุณธรรม จริยธรรมในจิตใจ พ.รบ.ฉบับนี้ จะเสริมฐานรากของคุณธรรม จริยธรรม ของคนไทย ผมรู้ว่าอาจเป็นเรื่องระยะยาวไม่เห็นผลในวันนี้ พรุ่งนี้ แต่ถ้าเราจริงจังที่จะแก้ไข ประเทศไทยจะต้องดีขึ้น อยากเห็นสังคมเดินไปข้างหน้าอย่างไร เราคนไทยทุกคนจะเป็นผู้กำหนด"นายไพบูลย์ กล่าว



นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า พ.ร.บ. อีกฉบับที่อนุมัติคือ พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน ซึ่งสนับสนุนให้เกิดสภาองค์กรชุมชนทั่วประเทศทั้งในระดับตำบล ระดับจังหวัด และระดับชาติภายใน
5 ปี โดยสภาองค์กรชุมชนนี้จะเป็นการรวมตัวกันของประชาชนในชุมชน ผู้อาวุโส ผู้ทรงคุณวุฒิของท้องถิ่นเพื่อมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาท้องถิ่นของตน รวมทั้งติดตามการทำงานของหน่วยงานภาครัฐทุกระดับ การเกิดขึ้นของสภาองค์กรชุมชนจะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความสมานฉันท์แต่ละท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันยังมีความขัดแย้งกันอยู่ สภานี้มีอำนาจเชิญเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ หรือราชการส่วนท้องถิ่นให้ มาให้ข้อมูล ข่าวสาร ถึงงานโครงการในชุมชน


 


"สภาองค์กรชุมชน เน้นการใช้อำนาจทางสังคม ไม่ใช่อำนาจทางกฎหมาย ทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชนที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่ง พรบ.ฉบับนี้เกิดขึ้นโดยชุมชนอย่างแท้จริง เริ่มทำงานลองผิดลองถูกมาเป็นเวลา 4-5 ปี ปัจจุบันมีสภาองค์กรชุมชนที่ดำเนินการไปแล้วและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีนับ 10 แห่ง และเชื่อว่าในปี 2550 นี้จะมีสภาองค์กรชุมชนระดับตำบลเกิดขึ้นได้ถึง 200 ตำบล ทั้งนี้การเกิดขึ้นของสภาองค์กรชุมชนจะเน้นความพร้อมของตำบลเป็นหลัก จะไม่เร่งรัดเด็ดขาด" นายไพบูลย์ กล่าว


 


ทั้งนี้ เกณฑ์การจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบลให้พิจารณาถึงความพร้อมของราษฎรในตำบล โดยต้องมีผู้แทนองค์กรชุมชนเข้าร่วมจากหมู่บ้านในตำบลอย่างน้อยร้อยละ 60 ของจำนวนหมู่บ้านทั้งหมดในตำบลนั้น ส่วนจังหวัดที่จะตั้งสภาองค์กรชุมชนจังหวัดได้ต้องมีการดำเนินการสภาองค์กรชุมชนตำบลไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนตำบลทั้งหมดในจังหวัด


 


 


ตปท.เชิญทูตฟังคำตัดสินยุบพรรค


ไอ.เอ็น.เอ็น. - กระทรวงการต่างประเทศเชิญเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยและองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทยจำนวน 32 ประเทศ เข้ารับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับคำตัดสินคดียุบพรรคการเมืองของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศและ นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรมจะร่วมบรรยายสรุปและชี้แจง โดยให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงในเรื่องที่มีความสำคัญต่อคดียุบพรรคการเมืองต่อคณะทูตให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหาอย่างละเอียด พร้อมกันนี้ยังเปิดโอกาสให้คณะทูตได้ซักถามในประเด็นที่สงสัย จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศจะนำคำวินิจฉัย ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษจำนวน 2 หน้ากระดาษ โดยจะแจกจ่ายให้กับคณะทูต 32 ประเทศเพื่อนำไปเผยแพร่ทั่วโลก


 


 


 


ต่างประเทศ


 


 


สหรัฐฯ ย้ายทูตในเอเชียรวมทั้งไทย


ผู้จัดการรายวัน - สหรัฐฯ กำลังจะปรับเปลี่ยนโยกย้ายเอกอัครราชทูตของตนประจำประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งไทยด้วย ในช่วงเวลาที่วอชิงตันเร่งดิ้นรนแก้ไขภาพลักษณ์อันย่ำแย่ ตลอดจนจะผลักดันเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ให้กลับขึ้นเป็นประเด็นสำคัญลำดับต้นๆ ในวาระของตนสำหรับภูมิภาคแถบนี้


 


เจ้าหน้าที่อเมริกันหลายคนเผยว่า เอกอัครราชทูตอเมริกันประจำมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ไทย, ติมอร์เลสเต, เวียดนาม, และลาว กำลังจะถูกเปลี่ยนตัวในเร็ววันนี้ ภายหลังดำรงตำแหน่งครบวาระของพวกเขา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเป็นเวลาราว 2 ปี


 


การโยกย้ายระลอกนี้ก็เกิดขึ้นในยามที่วอชิงตันกำลังเผชิญหน้าภารกิจอันยากลำบากในการพยายามฟื้นฟูภาพลักษณ์ของตนซึ่งบอบช้ำไปมากจากความหายนะในอิรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชาติซึ่งผู้คนส่วนใหญ่เป็นมุสลิมอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย


 


"มีคนมาเลเซียน้อยเกินไป ที่มีทัศนะในทางบวกต่อสหรัฐฯ" เจมส์ คีธ ผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำมาเลเซียคนใหม่ กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ระหว่างไปให้ปากคำต่อวุฒิสภา ซึ่งมีหน้าที่อนุมัติเห็นชอบการแต่งตั้งเหล่าเอกอัครราชทูต


 


คีธผู้ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ให้ดำรงตำแหน่งต่อจาก คริสโตเฟอร์ ลาเฟลอร์ เอกอัครราชทูตคนปัจจุบัน บอกว่า หากได้รับอนุมัติจากสภาให้รับตำแหน่งแล้ว หนึ่งในเป้าหมายที่เขาจะทำก็คือการก่อตั้งแผนงานเข้าถึงประชาชนทั่วทั้งมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง "เพื่อเป็นการจัดวางพื้นฐานอันถูกต้องแม่นยำ สำหรับที่ประชาชนชาวมาเลเซียจะสามารถมีความคิดเห็นเกี่ยวกับประชาชนอเมริกัน, ค่านิยมของเรา, และเป้าหมายของเราในโลก"


 


ความนิยมชมชื่นอเมริกันในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ลดฮวบฮาบลงหลังจากสหรัฐฯทำสงครามรุกรานยึดครองอิรักในปี 2003 ถึงแม้นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี และประธานาธิบดีอินโดนีเซียซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน เป็นเพื่อนมิตรสนิทของบุช และมักดำเนินงานอยู่เบื้องหลังฉากเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกัน


 


อับดุลเลาะห์ต้องการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ ขณะที่ยุโธโยโนก็พยายามฟื้นฟูความร่วมมือด้านกลาโหมกับอเมริกา พร้อมๆ กับที่ปฏิรูปกองทัพและขัดเกลาภาวะด้านสิทธิมนุษยชนของแดนอิเหนาให้สดใสขึ้น


 


"ขณะที่เรายังคงมีความกังวลอย่างจริงจังกับเรื่องสิทธิมนุษยชนในอินโดนีเซีย ผมก็จะสะเพร่าแน่ๆ ถ้าไม่ได้เอ่ยถึงความก้าวหน้าอันน่าตื่นใจและกว้างขวางที่ประเทศนี้ได้กระทำมาจนถึงเวลานี้ด้วย" เป็นคำกล่าวของ แคเมรอน ฮูม ผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นเอกอัครราชทูตคนใหม่ประจำกรุงจาการ์ตา แทนที่ ลินน์ ปาสคู ซึ่งกำลังจะหมดวาระ


 


แต่เขาก็ชี้ว่า กรณีที่ มูนีร์ นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนชั้นนำของอินโดนีเซียถูกวางยาพิษจนเสียชีวิตในเที่ยวบินโดยสารของสายการบินการูดาเมื่อปี 2004 "ยังคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเต็มที่" ถึงแม้มี "พัฒนาการอันให้กำลังใจ" ในความพยายามของจาการ์ตาที่จะคลี่คลายคดีนี้ก็ตาม นอกจากนั้น ฮูมบอกว่ายังจะให้ความสำคัญกับการกดดันรัฐบาลอิเหนายอมรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอดีต ไม่ว่าที่ติมอร์ตะวันออกหรือที่อื่นๆ


 


ทั้งว่าที่เอกอัครราชทูตอเมริกันประจำอินโดนีเซียและมาเลเซีย ยังต้องการให้ประเทศทั้งสองช่วยพูดจาห้ามปรามอิหร่าน อย่าได้เดินหน้าโครงการอาวุธนิวเคลียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกัวลาลัมเปอร์นั้นมีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจและเศรษฐกิจกับเตหะรานอยู่มาก อาทิ โครงการน้ำมันในอิหร่านมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์


 


หัวหน้านักการทูตอเมริกันในอีกประเทศหนึ่งของภูมิภาคแถบนี้ ที่จะถูกโยกย้ายก็คือไทย ซึ่งปัญหาการก่อความไม่สงบอันดุเดือดของชาวมุสลิมทางภาคใต้ของประเทศ กำลังก่อให้เกิดความกังวลมากในวอชิงตัน


 


อีริก จอห์น รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบกิจการด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่แล้ว คือผู้ได้รับการเสนอชื่อให้แทนที่เอกอัครราชทูต ราล์ฟ บอยซ์ ในประเทศไทย โดยที่ไทยและฟิลิปปินส์ เป็น 2 ชาติในภูมิภาคแถบนี้ซึ่งมีสนธิสัญญาเป็นพันธมิตรทางทหารกับอเมริกา


 


วอชิงตันยังกำลังผลักดันคณะทหารของไทยให้รักษาสัญญาในการจัดการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยภายในเดือนธันวาคมนี้


 


 


 


คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม


 


 


จังหวัดอุตรดิตถ์ พบผู้เสียชีวิตจากโรคสเตรปโตคอกคัส ซูอิส 2 ราย


กรมประชาสัมพันธ์ - แพทย์หญิงอารีย์ ตันบรรจง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ของการเกิดโรคระบาดที่เกิดจากการติดต่อจากสุกรสู่คน ซึ่งเกิดจากเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ในระหว่างวันที่ 16-25 พ.ค. 50 มีผู้ป่วยจำนวน 4 ราย เสียชีวิต 2 ราย รายแรกอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล และหมู่ 9 ตำบลด่านนาขาม อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งรับประทานลาบหมูดิบ ขณะนี้สำนักงานสาธารณสุข ได้ตรวจเลือดกลุ่มเสี่ยง กลุ่มผู้ชำแหละหมู 21 ราย ไม่พบผู้ช่วยเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส ซึ่งเชื้อจะปนเปื้อนอยู่ในหมูดิบเมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ จะทำลายระบบประสาท จึงขอแนะนำผู้ที่สัมผัส หรือชำแหละหมูควรใส่ถุงมือ สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารที่สุกๆ ดิบๆ เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคดังกล่าวได้ โดยอาการที่พบ คือ เยื่อหุ้มสมองอักเสบเฉียบพลัน มีไข้ ปวดศีรษะและคอแข็ง บางรายมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส จะถูกทำลายได้ด้วยความร้อน ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุก


 


ในส่วนของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุตรดิตถ์ นายพนม มีศิริพันธุ์ ปศุสัตว์จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ควบคุมโรคดังกล่าว ด้วยการให้ผู้ปฏิบัติงานในฟาร์ม หรือโรงฆ่าสัตว์ ให้สวมรองเท้าบูธ ใส่ถุงมือระหว่างปฏิบัติงานเป็นการป้องกันเชื้อสเตรปโคคอกคัส ซูอิส แพร่ระบาดจากสุกรสู่คนได้เช่นกัน



 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net